รู้จัก ‘เฮอร์เบิร์ต ไอน์สไตน์’
ศาสตราจารย์วิศวะโยธาฯ MIT
ผู้ไม่เคยประกาศว่าเป็นหลาน ‘ไอน์สไตน์’

“ผมอยากนำประสบการณ์กว่า 30 ปี โดยเฉพาะความรู้ที่ได้เรียนกับ เฮอร์เบิร์ต ไอน์สไตน์ (Herbert Einstein) หลานชาย ทายาทสายตรงของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ที่สถาบัน MIT และหวังว่าความรู้จากการเป็น ‘ลูกหลานไอน์สไตน์สายเลือดไทย’ กลับมาพัฒนากรุงเทพฯ นำพารอยยิ้มของประชาชนกลับมาอีกครั้ง”

เวลานี้ชื่อของ เฮอร์เบิร์ต ไอน์สไตน์ (Herbert Einstein) กลายเป็นที่รู้จักทันที หลัง ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ เอ่ยถึงในเวทีเปิดตัวสุชัชวีร์ ในฐานะแคนดิเดตผู้ว่าฯ ที่สามย่านมิตรทาวน์ เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา

ในการแนะนำตัวทุกครั้งของสุชัชวีร์ เขาจะพูดทุกครั้งว่ามีโอกาสได้เรียนกับ เฮอร์เบิร์ต ไอน์สไตน์ และเป็นทายาทสายตรงของไอน์สไตน์ ไม่เว้นแม้แต่ในแผ่นพับ โปสเตอร์แนะนำตัว รวมถึงโฆษณาความยาว 1 นาที ก็มีชื่อและภาพของเฮอร์เบิร์ตติดอยู่ด้วย

คำถามก็คือ แล้ว เฮอร์เบิร์ต ไอน์สไตน์ เป็นใคร? และมีความสำคัญอย่างไรในวงการนี้?

เว็บไซต์ของสถาบัน MIT ระบุว่า เฮอร์เบิร์ต ไอน์สไตน์ เป็นศาสตราจารย์ด้านวิศวกรรมโยธาและวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม จบการศึกษาปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัย ETH Zürich เชี่ยวชาญด้านกลศาสตร์ของหิน (Rock Mechanics) วิศวกรรมธรณีวิทยา (Engineering Geology) รวมถึงการก่อสร้างชั้นใต้ดิน ครอบคลุมการศึกษาที่หลากหลายตั้งแต่การทดลองในภาคสนาม การทดลองในห้องปฏิบัติการ ไปจนถึงประมวลผลในลักษณะแบบจำลองเชิงตัวเลขและเชิงวิเคราะห์

เฮอร์เบิร์ต ไอน์สไตน์ มีงานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์มากกว่า 300 ชิ้น ส่วนใหญ่เกี่ยวกับคุณสมบัติทางกลของดินและหิน การวิเคราะห์ การออกแบบ การจัดการโครงการโครงสร้างใต้ดิน การวิเคราะห์ความเสี่ยงดินถล่ม และวิธีความน่าจะเป็นทางวิศวกรรมหินและธรณีวิทยาทางวิศวกรรม จนทำให้ได้รับรางวัลผลงานดีเด่นด้านกลศาสตร์ของหินจากสถาบัน Rock Mechanics และรางวัล Müller Lecture Award จาก International Society for Rock Mechanics

“เป้าหมายหลักของผมคือการสอนวิศวกรรมศาสตร์ สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องสอนเรื่องความคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking) เพราะฉะนั้น การออกแบบการศึกษาจึงเป็นสิ่งสำคัญ และต้องแตกต่างจากการสอนตามมาตรฐานโดยทั่วไป นั่นอาจหมายถึงการเปลี่ยนห้องเรียนให้เป็นห้องเรียนมุมกลับ (Flipped Classroom) นอกจากนี้ การเรียนการสอน การออกแบบ ยังต้องหมายรวมไปถึงการสังเคราะห์ การนำไปใช้จริง และการติดตามประสิทธิภาพ” เฮอร์เบิร์ตเขียนไว้ในเว็บไซต์

เขายังเขียนไว้ด้วยว่า ตัวอย่างที่ดีที่สุดในการสอนด้านวิศวกรรมโยธาและวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม นักศึกษาจะไม่ได้แค่เพียงออกแบบตึกหรือสิ่งก่อสร้างใหม่ๆ ในกระดาษเท่านั้น หากแต่ได้ออกแบบ ก่อสร้าง และสังเกตการณ์ ‘สะพานลอยคนข้าม’ ได้จริงอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ในเว็บไซต์ของเฮอร์เบิร์ตไม่เคยระบุว่าตัวเองมีความเกี่ยวข้องทั้งเป็นหลานหรือเป็นทายาทสายตรงของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักฟิสิกส์รางวัลโนเบล ซึ่งเสียชีวิตไปเมื่อปี 1955 หรือเมื่อ 66 ปีก่อน

ทั้งนี้ สุชัชวีร์บอกว่า เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เขาเคยทำงานวิจัยร่วมกับ เฮอร์เบิร์ต ไอน์สไตน์ ในการออกแบบอัลกอริทึมของระบบปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) และยังคงติดต่อกับศาสตราจารย์เฮอร์เบิร์ตเป็นประจำ โดย เฮอร์เบิร์ต ไอน์สไตน์ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาที่มีส่วนสำคัญในการช่วยทำธีสิสเรื่องการออกแบบอุโมงค์ลอดแม่น้ำเจ้าพระยาของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน
.

อ้างอิงจาก:

ที่มา
- https://herbert-einstein.org
- https://mitibmwatsonailab.mit.edu/people/herbert-h-einstein/  

ภาพ: Facebook เอ้ สุชัชวีร์

อ้างอิงจาก:

https://www.facebook.com/themomentumco/posts/2854784954813190  

สายตรงนะครับ

ตกลงเป็นหลานจริงเปล่า หรือแค่ญาติห่างๆ

ผมเรียนโปรแกรมมิ่งกับแฟนพันธ์แท้เอเชี่ยนเกมส์ ยังไม่โม้เลย

เอาจริงๆแล้ว
เหมือนไม่เห็นหัวอาจารย์ตัวเองเลย
ด้วยผลงาน ผมว่าเค้าเจ๋งในฐานะที่เป็นเฮอเบิร์ต ไอสไตน์แล้วนะ
แต่สุดท้ายก็ถูกพูดถึงโดยมีความสำคัญแค่เป็นสะพานให้เชื่อมว่าเป็นทายาท อัลเบิร์ต ไอสไตน์

ไม่แปลกที่เขาไม่เคยประกาศตัวครับ

สมมติว่าผมเกิดเป็นหลานไอน์สไตน์ ผมเองก็ไม่อยากถูกเรียกว่า "หลานไอน์สไตน์" ไปทั้งชีวิตหรอกครับ

มันหมายถึงว่าคุณไม่ดีพอที่จะสร้างเส้นทาง สร้างตัวตนของตัวเอง ได้แต่โหนชื่อญาติไปวันๆ

โม้ว่าเรียนกับคนเก่งยังเข้าใจได้ แต่โม้ว่าเรียนกับหลานคนเก่งนี้ ทำไปทำไมหว่า
ปู่/ตาเก่ง ไม่ได้แปลว่าหลานจะเก่งซะหน่อย
เอาจริงๆ เป็นหลาน einstein มันทำให้ดูเก่ง/น่าเชื่อถือขึ้นเหรอ?

อาจารย์คนนี้สอนที่ mit ตัวแกก็ต้องเจ๋งอยู่แล้ว ดันถูกคนเอาไปอ้างชื่อในฐานะหลานคนอื่น คงเซ็งมั่งแหละ
ละตกลงเป็นหลานจริงมั๊ย?

ขอให้ได้โหน

Wikipedia รูปเดียวละกันคับ



https://en.wikipedia.org/wiki/Einstein_family

ทั้งหน้าไม่มีคำว่า Herbert ซักคำ ไม่รู้เพราะเจ้าตัวไม่อยากให้ขึ้น หรือจริงๆอาจจะไม่เกี่ยวข้องกัน

มีความ relate อะไรระหว่างปู่กับหลาน ในเรื่ององค์ความรู้??

ถ้าไม่เกี่ยวกัน ก็ไม่ควรจะไปด้อยค่าเค้าโดยโหนเอาชื่อปู่เค้ามาหาแดรก แค่เพราะคนทั่วไปรู้จักอ่ะ

นั่นเท่ากับเจ้าตัวนี่ไร้คุณค่า,ไร้ราคาขนาดต้องเกาะชื่อบรรพบุรุษมา reference..ประเทศด้อยพัฒนาชอบทำกัน แบบรักพ่อให้รักลูก

โคตรไร้คลาส

อ้างอิงจาก

https://en.wikipedia.org/wiki/Einstein_family


8th
Albert Einstein (1879–1955).
Siblings: Maja Einstein (1881–1951).
Albert's wives: Mileva Marić (1875–1948),
Elsa Einstein (1876–1936)

9th
Albert's children:
Lieserl Einstein (1902–1903?),
Hans Albert Einstein (1904–1973),
Eduard Einstein (1910–1965)

10th
Bernhard Caesar Einstein (1930–2008),
Klaus Martin (1933–1939);
David Einstein (16 October 1939 – 21 November 1939);
and Evelyn (1941–2011, adopted child)

11th
Thomas Martin Einstein (1955–),
Paul Michael Einstein (1959–),
Eduard Albert (Ted) Einstein (1961–),
Mira Einstein-Yehieli (1965–),
Charles Quincy Ascher (Charly) Einstein (1971–)

อันนี้แค่สายตรงนะ ไม่มี Herbert หรือใกล้เคียงอ่ะ

ผมก็(มีศักดิ์)เป็นหลานของบุคคลสำคัญระดับชาติคนนึงเหมือนกัน เป็นบิดาแห่งการ.. เพราะนามสกุลเหมือนกันนี่แหละ สร้างปัญหามากตั้งแต่เด็กจนโต ทั้งๆ ที่ผมไม่เคยกล่าวอ้างหรือรู้จักเขามาก่อนเลยด้วยซ้ำ..

ผมเขินๆ นะทุกครั้งเวลาถูกถามว่าเป็นอะไรกับคนนี้ คือถ้าผมจะอ้างโคตรผมๆ ยังภูมิใจกว่าเพราะผมเป็นเชื้อสายจริงๆ..แต่ผมก็ไม่กล้าอ้างความสำเร็จของโคตรหรือญาติหรอก มันกดดันนะ

แล้วการมาเป็นผู้ว่า กทม มันเกี่ยวไรกับ Prof. Herbert เกี่ยวไรกับ Albert Einstein รึเปล่า คิดว่าไม่นะ

เกี่ยวไหมไม่รุนะครับ แต่จากที่ทำงานด้วยมา พวกที่ทำงานมา 10-20 ปี
แล้วยังต้องมาโม้ว่าจบจากที่ไหนนี้ ผมไม่เคยเห็นว่ามันจะได้เรื่องสักคน

เคสนี้คุยไปยันปู่ทวดอาจารย์ที่ปรึกษาเลยนี้ ใจมันได้จริงๆ