[RE: Reboot อยู่ สามารถ ช่วยตัวเองได้มั้ยครับ]
Krith พิมพ์ว่า:
รีบูทนี่สำหรับคนที่มีปัญหาใข่มั้ยครับ หรือคนที่ไม่มีปัญหาหน้างานจริงก็ต้องทำด้วยเพื่อสุขภาพครับ
Q : การ reboot คืออะไร ? ทำไปทำไม ? ทำยังไง ?
Spoil
A: จริง ๆ เนื้อหามีเป็นเล่มเลยทีเดียว แต่ผมขอตอบแบบสั้น ๆ คร่าว ๆ เฉพาะหัวข้อนี้นะครับ
Reboot คือ ... การรักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพรูปแบบหนึ่งซึ่งเกิดจากพฤติกรรมการเสพติดสื่อโป๊มาอย่างยาวนาน (Porn-induced ED : PIED) ซึ่ง PIED นี้ถือเป็นอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศรูปแบบใหม่สำหรับผู้ชายหลาย ๆ คนในมุกวันนี้
การเสพติดสื่อโป๊ (รวมทั้งการเสพติดประเภทอื่น ๆ) ทำให้สมองหลาย ๆ ส่วนมีอาการด้านชาเนื่องจากถูกปลุกกระตุ้นอย่างรุนแรงและต่อเนื่องติดต่อกันมาอย่างยาวนาน
สรุปง่าย ๆ ว่าการ reboot ก็คือการทำให้สมองและระบบประสาทหลาย ๆ ส่วนที่ด้านชาได้พักและฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติดังเดิมนั่นเอง
ประโยชน์ของการรีบูทก็คือ ...
สามารถช่วยแก้ปัญหาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศจากการเสพติดสื่อโป๊ (PIED) ได้
ก่อนที่ผมจะบอกเหตุผลว่าทำไมการเสพติดหนังโป๊มาก ๆ ทำให้เราเป็น PIED และเราจะรักษาอาการนี้อย่างไร ผมอยากให้ทุกท่านลองเช็คตัวเองง่าย ๆ ก่อนว่าตัวท่านเป็น PIED ไหม และอาการหนักหรือไม่ ดังนี้ ...
วิธีสังเกตุอาการของ PIED แบบคร่าว ๆ จากระดับเบาไปหนัก (ดูได้จากตอนมีเซ็กส์กับคนจริง ๆ เท่านั้น) ดังนี้ .....
1. ระดับเบาสุด : มีอาการหลั่งยากมาก ๆ จากการสอดใส่ (delay ejaculation) และรู้สึกว่าเซ็กส์ของจริงไม่น่าพึงพอใจเท่าการช่วยตัวเองพร้อมเสพสื่อโป๊เลย (แต่ยังพอสอดใส่ได้อยู่)
2. ระดับเบา : เริ่มรู้สึกว่าส่วนนั้นแข็งตัวยากและต้องกระตุ้นเยอะ ๆ เพราะกลไกบางอย่างในสมองเริ่มเกิดอาการด้านชาแล้ว (desensitization) แต่ถ้ากระตุ้นเยอะ ๆ ก็ยังพอแข็งตัวสอดใส่ได้บ้าง แต่จะเริ่มสังเกตุว่าการแข็งตัวไม่ค่อยเต็มร้อยแล้ว
3. ระดับกลาง : แข็งตัวยากและอ่อนตัวง่ายมาก ระดับนี้เริ่มใส่ถุงยางยากแล้ว เพราะอ่อนตัวง่ายมากถ้าไม่มีการใช้มือปลุกกระตุ้นตลอดเวลา หรือถ้าพอสอดใส่ได้ ก็อาจเริ่มมีปัญหาหลั่งเร็วเข้ามา สมมติฐานว่าอาจเป็นเพราะการอ่อนตัวง่ายมาก จึงทำให้เราต้องรีบสอดใส่และห้ามหยุดเพื่อเปลี่ยนท่าเลย อีกทั้งยังต้องขมิบเกร็งกล้ามเนื้อเชิงกราน (ขมิบรูก้น) เอาไว้ตลอดเวลาเพื่อเป็นการกระตุ้นให้สามารถคงสภาพการแข็งตัวเอาไว้ให้ได้มากที่สุด หรืออีกข้อสันนิษฐานก็คือ การช่วยตัวเองจนหลั่งทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีการแข็งตัวเต็มที่ทำให้ระบบประสาทและสมองติดนิสัยจากพฤติกรรมนี้
4. ระดับหนัก : ตอนที่จะเข้าด้ายเข้าเข็ม ไม่สามารถแข็งตัวได้เลย แถมหดลงเสียด้วยซ้ำ ระดับนี้ หลาย ๆ คนจะเริ่มเกิดความกังวลเวลาเข้าด้ายเข้าเข็มจนกลายเป็นอาการ performance anxiety (ประหม่า, ตื่นเต้น, กังวลเรื่องสมรรถภาพ หรือที่เรียกกันง่าย ๆ ว่า “คิดมากจนหด” นั่นเอง )
5. ระดับรุนแรงสูงสุด : ถ้าไม่ได้ดูหนังโป๊ฮาร์ดคอร์พร้อมกับใช้มือกระตุ้นอยู่ตลอดเวลาก็จะไม่สามารถคงสภาพการแข็งตัวได้เลย หากถึงจุดนี้แล้ว ก็ไม่ต้องพูดถึงเซ็กส์ของจริงเลย เพราะหมดสิทธิ 100% ที่ทำได้ก็แค่การช่วยตัวเองเท่านั้น (แถมอวัยวะส่วนนั้นยังแข็งตัวได้ไม่เต็มที่ด้วย ต่อให้ใช้หนังโป๊ฮาร์ดคอร์แล้วก็ตาม)
ถ้าเรามั่นใจว่าตัวเองมีสุขภาพทุกอย่างเป็นปกติดี แต่กลับมีอาการไม่แข็งตัวหรืออ่อนตัวง่ายมาก ๆ เราก็ต้องย้อนกลับมาดูพฤติกรรมของตนว่ามีพฤติกรรมเสพติดสื่อโป๊หรือไม่ ? ... ถ้าใช่ โอกาสที่เราจะเป็น PIED ก็มีสูงมาก ๆ
สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ PIED ....
สมองส่วน reward system ที่ใช้สำหรับการรับรู้ความพึงพอใจจากรางวัลหรือสิ่งเร้าต่าง ๆ โดยเฉพาะ “เซ็กส์” เกิดอาการด้านชา (desensitization)
ทำยังไงถึงสามารถรักษา PIED ได้แบบยั่งยืน ....
ณ.ปัจจุบันมีแค่การ reboot วิธีเดียวเท่านั้น
การใช้ยาประเภท sildenafil (ไวอากร้าหรือใกล้เคียง) สามารถช่วยได้แค่ในระดับหนึ่งเท่านั้น (PIED ระดับอ่อน ๆ) แต่เมื่อาการเริ่มสะสมถึงจุด ๆ หนึ่ง ยาปริมาณเท่าเดิมจะไม่ค่อยได้ผลอีกแล้ว ต้องเพิ่มปริมาณยาขึ้นไปอีก (ดื้อยา)
แต่อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุดแล้ว ยาก็แทบจะใช้ไม่ได้ผลเลย เพราะยาเหล่านี้ทำงานเกี่ยวกับระบบหลอดเลือดเท่านั้น ไม่ได้ใช้เพิ่มอารมณ์ทางเพศ (libido) ในขณะที่อารมณ์ทางเพศเกิดจากการทำปฏิกริยาทางเคมีของสารสื่อประสาทและสมอง ซึ่ง PIED นี้มีต้นเหตุมาจากการด้านชา (desensitization) ของกลไกการรับรู้รางวัลในสมอง (reward system)
แล้วการ reboot ทำอย่างไร .....
การ reboot ทำได้โดยการเลิกสื่อโป๊ทุกชนิดเป็นระยะเวลาหนึ่ง (โดยเฉลี่ยใช้เวลา 90-180 วันขึ้นกับความรุนแรงของ PIED ) เพื่อให้ reward system ในสมองหายจากอาการ desensitization
การ reboot ไม่ใช่แค่การเลิกช่วยตัวเองอย่างเดียวนะ ต้องเลิกดูสื่อโป๊ด้วย ต่อให้เลิกช่วยตัวเองแล้ว แต่ถ้าหากยังคงดูสื่อโป๊อยู่บ่อย ๆ ตามเดิม อาการ PIED ก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม (หรืออาจสะสมจนมากขึ้นไปอีกด้วยซ้ำ)
เพราะอะไร ....
เพราะตามทฤษฎีแล้ว ต้นเหตุของอาการ desensitization ก็คือ “การดื้อโดปามีน”
ต้นเหตุที่สมองดื้อโดปามีน ก็เพราะว่ามันโดนกระตุ้นโดยโดปามีนมากเกินไปและต่อเนื่องมายาวนานเกินไป ทำให้ร่างกายต้องป้องกันตัวมันเองโดยการลดจำนวนของตัวรับสัญญาณโดปามีนลง (dopamine receptor downregulation) เพื่อไม่ให้เราใช้งานร่างกายหนักเกินไป
*** หรือบางทฤษฎีก็บอกว่าสมองและระบบประสาทเราเหนื่อยล้าจากการถูกปลุกกระตุ้นมากเกินไป ทำให้ตัวรับโดปามีนหลาย ๆ ตัวหมดสภาพและค่อย ๆ ล้มหายตายจากลงไปเรื่อย ๆ
สรุปง่าย ๆ ว่าโดปามีนที่ถูกหลั่งออกมามากจนผิดธรรมชาติจะทำให้เกิดการลดจำนวนลงของตัวรับโดปามีน
และสิ่งที่ทำให้โดปามีนทะลักได้รุนแรงและต่อเนื่องได้ขนาดนั้นมีสิ่งเร้ายิ่งยวดเพียงแค่ 2 อย่างก็คือ ยาเสพติดและสื่อโป๊ยุคอินเตอร์เน็ต (เกมส์ออนไลน์, จังค์ฟู๊ด, ของหวาน, การพนัน และสื่อโป๊ในอดีตก็สามารถทำได้ แต่ยังไม่ถึงขั้นสิ่งเร้ายิ่งยวด 2 อย่างนี้)
การถึงจุดสุดยอดอาจทำให้สมองหลั่งโดปามีนออกมาอย่างมากมายก็จริง (นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เราชอบมัน) แต่การถึงจุดสุดยอดก็ไม่ได้ทำให้สมองจมอยู่ในทะเลโดปามีนต่อเนื่องได้ยาวนานเท่ากับที่การเสพติดสื่อโป๊ทำ
ดังนั้นสิ่งที่ทำให้เกิด PIED ไม่ใช่การช่วยตัวเอง, ไม่ใช่การถึงจุดสุดยอด, ไม่ใช่เซ็กส์
สิ่งที่ทำให้เกิด PIED ก็คือ “การเสพติดสื่อโป๊” !!!
บางคนบอกว่า ตัวเขาเองก็เสพสื่อโป๊อยู่บ่อย ๆ แต่ไม่เห็นเป็นอะไรเลยนี่นา ? นั่นก็เพราะว่า .....
1.) เขาอาจเป็น PIED แล้ว แต่แค่ยังไม่รู้ตัว ... เนื่องจากเห็นว่าตนเองก็ยังคงสามารถแข็งตัวได้อยู่เลยในตอนที่กำลังเสพสื่อโป๊และช่วยตัวเอง
นี่ถือเป็นกับดักทางความคิดชนิดหนึ่ง เราต้องเข้าใจก่อนว่า พวกเราทุกคนย่อมต้องสามารถแข็งตัวได้ในระดับหนึ่งอยู่แล้วหากมีการเสพสื่อโป๊และใช้มือปลุกกระตุ้นอยู่ตลอดเวลา จริงไหมครับ ?
แต่เราจะรู้ความจริงในทันทีตอนที่เรากำลังจะมีเซ็กส์กับคนจริง ๆ เท่านั้น เพราะอิริยาบถของการมีเซ็กส์ของจริงนั้นแตกต่างจากการเสพสื่อโป๊และช่วยตัวเองอย่างสิ้นเชิง (ซึ่งบางคนก็ไม่มีคู่รักหรือเป็นโสด ทำให้พวกเขาไม่มีโอกาสได้สังเกตุตัวเอง)
2.) สาเหตุที่บางคนยังไม่มีอาการ เพราะว่าอาการ PIED เป็นอาการที่จำเป็นต้องใช้ระยะเวลาสักระยะกว่าที่มันจะแสดงอาการออกมา
มันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในระบบประสาทและสมองเนื่องจากการทำพฤติกรรมซ้ำ ๆ ซึ่งกระบวนการเปลี่ยนแปลงนี้จำเป็นต้องใช้ระยะเวลา อันที่จริงโรคภัยไข้เจ็บแทบทุกชนิดก็เป็นเช่นนี้
เหมือนที่ขนมหวาน 10 ถ้วยเพียงวันเดียวไม่ได้ทำให้เราเป็นเบาหวานในทันที แต่การกินขนมหวานวันละ 2-3 ถ้วยทุกวัน (หรือมีวินัยการกินผิด ๆ) ติดต่อกันหลายปีต่างหาก ที่ทำให้เราเป็นเบาหวานไม่วันใดก็วันหนึ่ง
เช่นเดียวกับโรคตับแข็ง การซดเบียร์ 3 ขวด 5 ขวดในวันเดียวไม่ได้ทำให้เราเป็นตับแข็งในทันที แต่การเสพติดสุราหรือดื่มสุราวันละ 2-3 ขวดทุกวันต่อเนื่องกันหลายปีต่างหาก ที่ทำให้เราเป็นตับแข็ง
PIED ก็กรณีเดียวกัน มันเกิดจากการเสพติดสื่อโป๊สะสมหลายปีนั่นเอง