[RE: พระพุทธเจ้าเรา เปรียบเหมือนนีโอ ใน the mattrix มั้ยครับ]
マイメロディ พิมพ์ว่า:
ขออนุญาตเปิดประเด็นนะ
ผมดูช่อง 8 ตำนานพระพุทธเจ้าอะไรสักอย่างนี่แหละ
เหมือนว่าเจ้าชายจะทิ้งลูก เมีย และประชาชนของตนเองเพื่อมาบวช
ซึ่งผมก็คิดว่า อ่าว แล้วลูกเมียมึงจะอยู่ยังไง บวชไม่สึกจนละสังขารเลยนะ
อีกคนนึง น่าจะเป็นสาวก เกิดเหตุการณ์แบบเดียวกันเลย แต่ผมจำไม่ได้ละว่าคนไหน
รู้สึกว่า มันไม่แฟร์เลย
ผมถือว่าเป็นการเสียสละอันยิ่งใหญ่เลยนะ
สละลาภยศสรรญเสริญ สละราชสมบัติ สละลูกเมีย(ในกรณีนี้ลูกเมียไม่ได้ลำบากอะไร มีกินมีใช้ไปทั้งชาติ)
เพื่อแสวงหาสัจธรรมแห่งชีิวิต เพื่อเป็นผู้ชี้ทางสว่างให้คนทั้งโลก
ผมว่าคุ้มที่จะสละ และไม่ขัดใจอะไรในกรณีนี้
เจ้าชายแสดงให้เห็นว่า ขนาดตัวเองมีพร้อมทุกอย่าง ยังไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง แล้วออกค้นหาคำตอบจริงๆในชีวิต
แล้วไม่ใช่ออกมาหาแล้วจะเจอเลย จะบรรลุเลย ยังต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะค้นพบสัจจธรรม
นั่นแสดงให้เห็นว่า นอกจากการเสียสละแล้ว ยังต้องมีความเพียรพยายาม
ผมเคยถกเรื่องธรรมกับหลายๆคนว่า พระพุทธเจ้าสละทุกสิ่งจริงๆ
กษัตริย์เมืองนึงชอบพระพุทธเจ้ามาก จนจะยกเมืองให้ พระพุทธก็ปฏิเสธ เพราะว่า "เราสละบ้านเมืองของพระบิดาเราแล้ว ใยเราจะรับเมืองของท่านอีก"
แล้วถ้า เจ้าชายราหุล โอรสของพระพุทธเจ้า เกิดครองเมืองขึ้นมา แล้วมีปัญหาคอขาดบาดตาย พระพุทธจะเข้ามาช่วยลูกชายมั้ย
คำตอบก็คงไม่ เพราะพระพุทธสละทุกอย่าง แล้วปล่อยให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามกรรม
(กรณีนี้ไม่เกิดขึ้นจริง แค่ยกตัวอย่างมา)
การที่พระพุทธต้องทิ้งลูกเมียมา เพราะ ธรรมชาติของมนุษย์ ถ้ายังยึดติดกับความรัก ความรักแบบผัวเมีย ความรักแบบพ่อลูก
มันจะทำให้ไม่สามารถไปถึงสัจธรรม เพราะยังวนอยู่ในวัฏสงสาร รักโลภโกรธหลง อย่างที่พระพุทธตรัสไว้
"ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์" อันนี้โคตรจะจริง ลองรักใครซักคนสิ นอกจากมีสุขแล้วมันยังมีทุกข์
กลัวเค้าจะไม่รักเราหรือหมดรักเรานี่ก็ทุกข์ / เป็นห่วงเป็นใยนี่ก็ทุกข์ / คิดถึงโหยหานี่ก็ทุกข์ / ทะเลาะกันนี่ก็ทุกข์ เยอะไปหมดเรื่องของของความรัก
ถ้าตัดเรื่องนี้ไม่ได้ก็ไปไม่ถึงไหน เพราะฉะนั้นบักบวชในศาสนาพุทธต้องตัดเรื่องพื้นฐานนี้ให้ได้ก่อนไง เพราะมันคือต้นเหตุแห่งทุกข์เลยล่ะ
เริ่มยาวเกินไปแล้ว พอแค่นี้ก่อนดีกว่า คุยเรื่องธรรมะแล้วเพลิน ยาวตลอด 55555+