สวยทุกลูก! โครส,อเซนซิโอ้ กดอีซ้าย "ราชัน" ตบงู 2-0 สอยแชมป์กลุ่ม
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
เรอัล มาดริด เปิดบ้านปิดจ็อบเอาชนะ อินเตอร์ มิลาน ที่เหลือ 10 คนในช่วงครึ่งหลังไปได้ไม่ยาก 2-0 โดยพวกเขาได้จากสองลูกยิงด้วยซ้ายสุดสวยของทั้ง โทนี่ โครส และ มาร์โก อเซนซิโอ้ ทำให้ทีมราชันชุดขาวมี 15 คะแนนจาก 6 นัด เข้ารอบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มซี ศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก 2021/22 ขณะที่งูใหญ่เดินตามในฐานะอันดับสอง
เรอัล มาดริด
Starting Formation: 4-3-3
14.
คาเซมิโร่

71'
7
8.
โทนี่ โครส

77'
7.5
20.
วินิซิอุส จูเนียร์

81'
7
21.
โรดรีโก้

77'
7.5
16.
ลูก้า โยวิช

77'
6.5
ตัวสำรอง
11.
มาร์โก อเซนซิโอ้

77'
7
15.
เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้

77'
6
24.
มาเรียโน่

77'
6
25.
เอดูอาร์โด้ คามาวินก้า

71'
6
7.
เอแด็ง อาซาร์

81'
6
ยูฟ่า แชมัปียนส์ ลีก กลุ่มดี
สนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว
อังคารที่ 7 ธันวาคม 2564
กรรมการ เฟลิกซ์ บรีช
เรอัล มาดริด
2
0
อินเตอร์ มิลาน
1-0 โครส 17'
2-0 อเซนซิโอ้ 79'
เรอัล มาดริดเกมนี้เสียหายที่จะไม่มีเบนเซม่าที่เจ็บกล้ามเนื้อจากเกมลีกนัดล่าสุด ทำให้เป็นโอกาสของโยวิชที่ได้ยืนค้ำหน้า โดยมีสองดาวรุ่งอย่างโรดรีโก้,วินิซิอุสขนาบข้างในระบบ 4-3-3
ฝั่งอินเตอร์มีตัวเจ็บหลายคนแต่ในระบบ 3-5-2 พวกเขายังมี เลาตาโร่,เชโก้ ยืนเป็นคู่หน้าตัวความหวัง
• เกมแรกที่เจอกัน มาดริด บุกชนะ 1-0
• เจอกัน 3 นัดหลังในรายการนี้ มาดริด ชนะรวด
วินิซิอุสได้แปทักทาย
เริ่มเกมมาไม่นานเป็นราชันที่ได้โอกาสลุ้นเป็นประตู เป็นจังหวะที่วินิซิอุสได้บอลหลุดเข้าไปในกรอบฝั่งซ้ายก่อนได้เหลี่ยมแปด้วยขวาแฉลบส้นเท้าสคริเนียร์หลุดเสาสองไปอย่างน่าเสียดาย
โบรโซวิชวอลเลย์ใบไม้ร่วง
งูใหญ่เกือบมีเฮเหมือนกัน เป็นจังหวะที่ดัมโบรซิโอ้โหม่งบอลให้โบรโซวิชตั้งป้อมวางเท้าวอลเลย์ด้วยซ้ายหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงก่อนฮุคตกหลังคาประตูออกหลังไปนิดเดียว
เปริซิชตวัดเน้นๆติดบล็อค
จังหวะน่าลุ้นอีกครั้งของอินเตอร์ บาเรลล่าแทงบอลให้ดุมฟรีส์เติมหลุดไปถึงเส้นหลังฝั่งขวาก่อนที่เขาจะยกบอลเข้ากลางให้เปริซิชวิ่งมาตวัดวอลเลย์เน้นๆ แต่บอลไปติดบล็อคมิลิเตา
เด็ดขาด!โครสตะบันอีซ้ายเสียบเสาสอง 1-0 ราชันนำ
แล้วประตูแรกของเกมก็เกิดขึ้นจนได้ เป็นมาดริดที่ออกนำไปก่อนจากจังหวะที่โรดรีโก้จ่ายบอลจากหน้ากรอบฝั่งซ้ายขวางไปอีกฝั่งให้โครสจับแล้วกดด้วยซ้ายเน้นๆ บอลพุ่งแรงผ่านมือฮันดาโนวิชเสียบเสาสองอย่างสวยงาม 1-0
งูพยายามทวงคืน
งูใหญ่พยายามบุกเอาประตูทวงคืน จังหวะนี้บาเรลล่าได้บอลหน้ากรอบเขตโทษก่อนยกให้เลาตาโร่หลุดเข้าไปทางฝั่งซ้ายก่อนตวัดยิงด้วยซ้ายปลิ้นหลุดกรอบไป
เชโก้เทคโหม่งเข้ามือคูร์กตัวส์
อีกครั้งของอินเตอร์ เปริซิชได้บอลมาทางริมกรอบฝั่งซ้ายก่อนเลือกเปิดย้อยลึกไปเสาสองให้เชโก้พยายามเทคโหม่งแต่บอลก็เบาเข้ามือคูร์กตัวส์สบาย
เปริซิชยิงท่ายากข้ามคาน
อินเตอร์เป็นฝ่ายบุกต่อเนื่อง จังหวะนี้เป็นลูกเตะมุมทางฝั่งขวาที่ชัลฮาโนกลูเปิดโด่งไปเสาสองแล้วเป็นเปริซิชที่กระทิ้งตัววอลเลย์ด้วยขวา แต่บอลก็พุ่งข้ามคานไป
โยวิชหลุดยิงไม่ตรงกรอบ
มาดริดเกือบได้ประตูที่สองจากจังหวะสวนกลับเร็วที่การ์บาฆาลได้บอลหลุดกับดักล้ำหน้าแล้วแทงทะลุช่องให้โยวิชสปีดไปเล่นทางกรอบฝั่งซ้าย เขายกบอลหนีฮันดาโนวิชแต่หลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย
โรดรีโก้ตะบันชนเสาเน้นๆ
ก่อนจบครึ่งแรกมาดริดน่าได้ประตูที่สองสุดๆ จังหวะที่โรดรีโก้รับบอลจากโครสหน้ากรอบเขตโทษก่อนพลิกแล้วซัดด้วยขวาทันที บอลพุ่งแรงไปชนเสาขวามืออย่างจัง
โรดรีโด้กดเหน่งอีกทีคราวนี้หน้าต่างสั่น
อีกครั้งในช่วงท้ายมาดริด เป็นจังหวะบุกต่อเนื่องจากลูกเตะมุม คาเซมิโร่ให้บอลโรดรีโก้หลุดไปในกรอบฝั่งขวาแล้วได้วางเท้ากดด้วยขวาเน้นๆแต่บอลพุ่งเข้าหน้าต่างอย่างน่าเสียดาย
สุดท้ายจบครึ่งแรกเป็นมาดริดที่ออกนำก่อน 1-0 จากลูกยิงสุดสวยของโครสในช่วงต้น ฝั่งอินเตอร์ครองบอลบุกมากกว่าและมีโอกาสหลายครั้งแต่พวกเขายังไม่เด็ดขาด
บาเรลล่าลุดยิงเน้นๆยังไม่ได้
เริ่มครึ่งหลังมิลานได้โอกาสทองที่จะตีเสมอ จังหวะที่ตัดบอลได้ตรงกลางสนาม เป็นฮาคานที่ลากขึ้นมาแล้วแทงทะลุช่องให้บาเรลล่าหลุดไปทางกรอบฝั่งขวา เขามีเวลาวางเท้ายิงด้วยขวาแต่บอลพุ่งแรงเสยข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย
คาเซมิโร่โขกเตะมุมข้ามคาน
มาดริดได้ลุ้นจากจังหวะที่โครสเปิดเตะมุมทางฝั่งขวาเข้าไปหน้ากรอบเขตโทษ เป็นคาเซมิโร่ที่เทคโหม่งได้ แต่บอลก็ข้ามคานออกหลังไป
โยวิชกดมุมแคบติดเซฟฮันดาโนวิช
อีกครั้งของมาดริด เป็นจังหวะที่โยวิชได้บอลหลุดไปทางกรอบฝั่งซ้ายก่อนเลือกซัดด้วยซ้ายมุมแคบ แต่ก็ยังไปติดเซฟฮันดาโนวิชที่ยืนปิดมุมได้ดี
คาเซมิโร่กดด้วยขวายังติดเซฟ
มาดริดได้โอกาสขึงใส่แล้วจังหวะนี้เป็นคาเซมิโร่ได้บอลมาที่หน้ากรอบเขตโทษก่อนวางเท้ากดด้วยขวาพุ่งเรียดแต่ไปติดเซฟฮันดาโนวิช
บาเรลล่าหัวร้อนสาวหมัดโดนแดง
แล้วสถานการณ์ของอินเตอร์ยิ่งเลวร้ายลงไปอีกเมื่อพวกเขามาเหลือ 10 คนเนื่องจากบาเรลล่าโดนใบแดงไล่ออก
เป็นเหตุการณ์ที่เขาไปปะทะพัวพันกับมิลิเตาแล้วล้มลงก่อนสาวหมัดชกใส่ขากองหลังเจ้าถิ่น ผู้เล่นทั้งสองฝั่งต้องช่วยกันเข้าไปห้ามเพื่อไม่ให้บานปลาย
สุดท้ายผู้ตัดสินจากเยอรมนีปรึกษา VAR ก่อนแจกใบแดงไล่บาเรลล่า ขณะที่มิลิเตาโดนแค่เหลือง
ดิมาร์โก้โฉบโหม่งคิดคูร์กตัวส์
10 คนของงูใหญ่น่าได้ประตูตีเสมอเหมือนกัน เป็นจังหวะที่เปริซิชเปิดบอลจากริมกรอบฝั่งซ้ายไปหน้าประตูให้ดิมาร์โก้โฉบโหม่งแต่บอลไปติดเซฟคูร์กตัวส์ที่รับอยู่มือ
โรดรีโก้ลองซัดมุมแคบได้เสียว
ราชันเกือบได้ประตูที่สอง จังหวะต่อบอลกันตรงกลางสนามแล้วคาเซมิโร่ยกเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวาให้โรดรีโก้หลุดไปตัดสินใจยิงมุมแคบ บอลพุ่งเรียดผ่านหน้าประตูหลุดเสาสองไปแบบมีเสียว
งานโคตร!อเซนซิโอ้ปั่นอีซ้ายชนเสาสองเข้า 2-0 ราชันสบายใจ
มาดริดขึงเกมแล้วมาได้ประตูที่สองจนได้ จากจังหวะที่อเซนซิโอ้รับบอลจากการ์บาฆาลหน้ากรอบเขตโทษฝั่งขวา เขาจับแต่งแล้วมีเวลาวางเท้าปั่นด้วยซ้ายพุ่งแรงชนสามเหลี่ยมเสาสองเข้าประตูไปเลย
งูใหญ่ยังหวังตีไข่แตก
อินเตอร์ยังพยายามจะยิงตีไขแตกให้ได้ จังหวะนี้ดิมาร์โกเปิดเตะมุมทางฝั่งซ้ายเข้าไปในกรอบเขตโทษให้สคริเนียร์ได้โหม่งแต่บอลก็ยังไปติดเซฟคูร์กตัวส์
ราชันปิดจ็อบแชมป์กลุ่ม
สุดท้ายมาดริดปิดเกมเอาชนะไปได้ไม่ยาก 2-0 ทำให่พวกเขาชนะ 5 จาก 6 นัด คว้าแชมป์กลุ่มซีไปครอง ส่วนอินเตอร์ก็รับที่สองไป
อินเตอร์ มิลาน
Starting Formation: 3-5-2
20.
ฮาคาน ชัลฮาโนกลู

60'
6.5
77.
มาร์เซโล โบรโซวิช

60'
6.5
2.
เดเซล ดุมฟรีส์

46'
6
9.
เอดิน เชโก้

60'
6
10.
เลาตาโร่ มาร์ติเนซ

66'
5.5
ตัวสำรอง
5.
โรแบร์โต้ กาญาร์ดินี่

66'
6
32.
เฟเดริโก้ ดิมาร์โก

46'
6.5
8.
มาติอาส เวชิโน่

60'
6
22.
อารตูโร่ วิดัล

60'
6
7.
อเล็กซิส ซานเชซ

60'
6
แก้ไขล่าสุดโดย MEGITSAMA เมื่อ Wed Dec 08, 2021 04:58, ทั้งหมด 11 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ