'วอล์คเกอร์' แดงแถม! เรือ 10 คนไล่ไม่ทันพ่ายไลป์ซิก 2-1
ส่งท้ายรอบแบ่งกลุ่มแบบไม่สวยเท่าไหร่สำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เล่นกันไม่ดีแล้วโดนนำห่าง แม้จะได้ ริยาด มาห์เรซ โหม่งไล่มาแต่ต้องมาเหลือ 10 คนท้ายเกมอีกเพราะ ไคล์ วอล์คเกอร์ โดนใบแดงไล่ออก เรือใบสีฟ้า เลยลงเอยด้วยความพ่ายแพ้ต่อ แอร์เบ ไลป์ซิก 2-1 แต่ยังจบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม เอ
แอร์เบ ไลป์ซิก
Starting Formation: 4-2-3-1
16.
ลูคัส คลอสเตอร์มันน์
45'
6.0
22.
นอร์ดี้ มูคีเล่
79'
6.0
27.
คอนราด ไลเมอร์
63'
7.0
10.
เอมิล ฟอร์สเบิร์ก
79'
6.5
18.
คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู
7.0
33.
อันเดร ซิลวา
86'
7.0
ตัวสำรอง
26.
อิไลซ์ โมริบา
86'
-
2.
โมฮาเหม็ด ซิมาคาน
45'
6.0
21.
ไบรอัน บร็อบเบย์
79'
-
14.
ไทเลอร์ อดัมส์
63'
5.5
39.
เบนยามิน เฮนริคส์
79'
-
ฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กรุ๊ป เอ
สนาม เรด บูลล์ อารีน่า
วันที่ 7 ธันวาคม 2564
กรรมการ ซานโดร แชเรอร์
แอร์เบ ไลป์ซิก
2
1
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
1-0 ไลเมอร์ 24'
2-0 ซิลวา 74'
ไลป์ซิก ยังมีลุ้นไปเล่นยูโรป้าลีกอยู่และพวกเขาปลดกุนซือไปเมื่อสุดสัปดาห์ เกมนี้เลยมีการปรับระบบเป็นแบ็คโฟร์แทนสามเซ็นเตอร์แบ็ค
แมนฯ ซิตี้ เข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มไปแล้ว เกมนี้เลยเป็นโอกาสให้นักเตะอย่าง เควิน เดอ บรอยน์ ออกสตาร์ทเพื่อเคาะสนิมแบบเต็มๆและที่เหลือก็ยังเน้นชุดใหญ่
เรือครองบอลมากกว่า แต่ไลป์ซิกได้สับไกก่อน
เริ่มต้นมาช่วงแรกเกมเป็นของ แมนฯ ซิตี้ ตามหน้าเสื่อได้โอกาสบุกมากกว่าแต่ยังสร้างจังหวะหวาดเสียวกันไม่ได้
ขณะที่ ไลป์ซิก พยายามตั้งเกมบุกมาแล้วหาจังหวะจบจากที่ โซบอสซ์ไล จ่ายให้ ซิลวา ไปทางซ้ายของเขตโทษดึงเอาไว้แล้วพยายามหาช่องยิงด้วยขวาแต่โดนบล็อก
ไลเมอร์ ยิงเสาแรกโดนปัดออกหลัง
ไลป์ซิก ได้โอกาสโต้กลับมาให้ลุ้นอีกแล้วหลังตัดบอลได้ เอ็นคุนคู จ่ายให้กับ ไลเมอร์ เข้าเขตโทษทางขวาจะหักกลับมาก็ติดแต่บอลเด้งกลับไปหา ไลเมอร์ เลยยิงใส่เสาแรกยังโดนปัดออกไปทัน
เรือตอบโต้บ้าง เดอ บรอยน์ ยิงส่งบอลออกหลัง
แมนฯ ซิตี้ บุกกลับมาบ้างด้วยบอลข้ามฟากมาทางขวาให้ มาห์เรซ ตักเข้าเขตโทษ กุนโดกาน พยายามจะพักอกแต่บอลเด้งมาเข้าทาง เดอ บรอยน์ เลยขอยิงส่งบอลหลุดออกหลัง
โฟเดน ชงให้ กรีลิช ยิงแฉลบข้ามคาน
เป็นโอกาสดีของ แมนฯ ซิตี้ เลยกับลูกครอสทางขวาของ เดอ บรอยน์ ไปทางเสาไกลมี โฟเดน ชงกลับมาให้ กรีลิช จบด้วยการยิงแฉลบข้ามคาน
ขอก่อน! โซบอสซ์ไล หลุดเดี่ยวหลบนายด่านยิงพาไลป์ซิกนำ
แต่แล้วพอ ไลป์ซิก ได้บุกมาหนนี้เป็นฝ่ายเอาประตูออกนำก่อน ด้วยบอลจาก ไลเมอร์ กลางสนามแทงทะลุช่องขึ้นหน้า โซบอสซ์ไล หลุดไปสวยไม่ล้ำหน้าดวลเดี่ยวกับ สเตฟเฟ่น ก่อนจะแตะหลบไปยิงเข้าประตูนิ่มๆ ไลป์ซิก นำแล้ว 1-0
เกือบสอง! ซิลวา หักถึง ฟอร์สเบิร์ก ยิงติดเซฟ
เกือบมีประตูให้ ไลป์ซิก อีกแล้วด้วยจังหวะบุกกลับจากการจ่ายออกทางขวาให้ ซิลวา ฉีกมารับบอลก่อนหักเข้าเขตโทษถึง ฟอร์สเบิร์ก ซัดไปติดเซฟ
เรือได้เตะมุม อาเก้ โหม่งลอยออกหลัง
ช่วงที่ผ่านมา เรือใบ พยายามบุกอยู่แต่ก็ยังไม่มีจังหวะหวาดเสียวเพิ่มเติมเลย มาได้เตะมุมทางซ้าย เดอ บรอยน์ เปิดเข้ามาถึงหัวของ อาเก้ โหม่งแต่ก็โด่งออกไป
หวิดจะสอง! ซิลวา โหม่งจ่อๆเจอปัดทัน
เกือบมีลูกสองให้ ไลป์ซิก อีกแล้วกับจังหวะบุกมาหนนี้จ่ายให้ เอ็นคุนคู เติมเข้าเขตโทษทางขวาก่อนเปิดข้ามไปอีกเสาให้ โซบอสซ์ไล โหม่งตั้งมาหน้าประตูจบด้วย ซิลวา โขกจ่อๆติดเซฟแล้ว แมนฯ ซิตี้ เคลียร์ออกมาทันก่อนโดนซ้ำ
นี่ก็หวิด! โฟเดน เข้าเขตโทษสับไกโดนปัดชนเสาสอง
เข้าท้ายครึ่งแรก แมนฯ ซิตี้ ลุยกลับมาก็หวิดได้ลูกตีเสมอเช่นกัน กับการดักบอลกลางสนามแล้ว เดอ บรอยน์ จ่ายตามช่องขึ้นหน้าให้ โฟเดน ควบเข้าเขตโทษก่อนซัดโดนปัดนิดนึงบอลชนเสาสอง
เดอ บรอยน์ ปั่นฟรีคิกแต่ยังไม่มุมพอ
ฟรีคิกส่งท้ายครึ่งแรกของ แมนฯ ซิตี้ ได้ลุ้นเหมือนกันกับระยะราว 25 หลาหน้าเขตโทษเป็นหน้าที่ เดอ บรอยน์ จัดการปั่นมาตรงกรอบแต่ไม่มุมมากเลยโดน กูลาคชี่ บินปัด
เรือหาโอกาสได้อีกแต่ กุนโดกาน ยิงไปติดบล็อก
กลับมาครึ่งหลังยังไม่ต่างจากต้นครึ่งแรกสักเท่าไหร่ แมนฯ ซิตี้ พยายามตั้งเกมบุกมาแต่ก็หาโอกาสดีๆยากเย็นจะมีก็จังหวะ กรีลิช ริมเส้นซ้ายรับบอลมาแล้วเลี้ยงหาเขตโทษก่อนจ่ายเข้ากลางให้ กุนโดกาน ยิงไปติดบล็อก
เรือยังครองบอลมากกว่าขาดแค่โอกาสจบ
แมนฯ ซิตี้ ยังครองเกมได้เหนือกว่าแต่ ไลป์ซิก ไม่เปิดโอกาสให้เจาะกันง่ายๆเลย จังหวะนี้อาศัยบอลตกเข้าเขตโทษให้ มาห์เรซ แล่บเข้าเขตโทษไปเปิดจากสุดเส้นหลังไม่ดีและล้ำหน้าไปด้วย
เรือพลาด! ไลป์ซิกโต้กลับ ซิลวา ซัดไม่พลาด
แต่แล้ว แมนฯ ซิตี้ ไปทำพลาดเปิดโอกาสให้ ไลป์ซิก ทิ้งห่างหลังแนวรับจ่ายกันไม่ดีกลางสนามเจอโต้กลับ ฟอร์สเบิร์ก หลุดขึ้นมาเข้าเขตโทษจ่ายเข้ากลางที่ ซิลวา จับก่อนกดเรียดไม่เหลือนำ 2-0
เรือถามหาจุดโทษแต่เปานิ่ง
เรือใบ ต้องตั้งหน้าบุกกันใหม่มาได้จังหวะที่ เดอ บรอยน์ เปิดจากซ้ายโด่งไปทางขวาให้ มาห์เรซ หักมาตรงกลาง สเตอร์ลิ่ง โดนผลักล้มบอลหลุดหา แฟร์นานดินโญ่ พยายามยิงข้ามคาน
แมนฯ ซิตี้ พยายามฟ้องกรรมการว่าจังหวะ สเตอร์ลิ่ง ผลักควรเป็นจุดโทษแต่ก็ไม่มีสัญญาณอะไร
ไข่แตกแล้ว! ซินเชนโก้ ครอสถึง มาห์เรซ ทิ้งตัวโหม่งหาย
แมนฯ ซิตี้ กดดันต่อจนเอาประตูตีไข่แตกมาจนได้ด้วยการจ่ายให้ ซินเชนโก้ ทางซ้ายพื้นที่ว่างเติมมาก่อนตั้งป้อมเปิดลึกถึงเสาไกลมี มาห์เรซ ทิ้งตัวโหม่งส่งบอลเข้าประตูไล่มา 2-1
กรีลิช ตัดเข้าในเขตโทษยิงติดบล็อกออกเสาไกล
เข้าท้ายเกม แมนฯ ซิตี้ พยายามเร่งเอาประตูตีเสมอและก็ได้ลุ้นอีกกับบอลวางยาวออกมาทางซ้าย กรีลิช เอาบอลลงเลี้ยงตัดเข้าในก่อนสับไกติดแฉลบออกเสาสอง
เรืองานหยาบ! วอล์คเกอร์ หวด ซิลวา เจอใบแดง
แต่แล้วความหวังของ แมนฯ ซิตี้ ต้องลดลงไปอีกเพราะมาเหลือนักเตะเพียงแค่ 10 คนในจังหวะที่ วอล์คเกอร์ ถูกเป่าฟาวล์กับการไปหวดใส่ ซิลวา จากด้านหลังจน ซิลวา ลุกมาหาเรื่องกรรมการเลยมาควักใบแดงให้
มีลุ้น! เดอ บรอยน์ พลิกยิงหน้าเขตโทษหลุดเสา
แมนฯ ซิตี้ มีลุ้นที่จะเอาประตูตีเสมอได้จากการจ่ายให้ เดอ บรอยน์ หน้าเขตโทษพลิกเข้าขวาก่อนตัดสินใจซัดเองเลยส่งบอลหลุดเสาสองไปไม่ไกล
จบเกม แมนฯ ซิตี้ ที่เหลือ 10 คนแพ้ให้กับ ไลป์ซิก 2-1 หยุดสถิติชนะรวดไว้ที่ 7 เกมในทุกรายการแต่ความพ่ายแพ้ไม่ส่งผลอะไรต่ออันดับในกลุ่มเพราะพวกเขาได้แชมป์กลุ่ม เอ ไปแล้ว
ส่วนทางด้าน ไลป์ซิก ชัยชนะการันตีให้พวกเขาได้ไปเล่นรอบเพลย์ออฟในยูโรป้าลีก
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 4-3-3
6.
นาธาน อาเก้
87'
6.0
11.
โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้
6.0
17.
เควิน เดอ บรอยน์
87'
6.0
47.
ฟิล โฟเดน
45'
5.5
ตัวสำรอง
7.
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง
45'
5.5
3.
รูเบน ดิอาส
87'
-
80.
โคล พัลเมอร์
87'
-
แก้ไขล่าสุดโดย redenzo เมื่อ Wed Dec 08, 2021 02:55, ทั้งหมด 7 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
My Locker