มิลานต้องชนะหงส์, ราชันตบตีงูแย่งแชมป์กลุ่ม...ปรีวิว CL แบ่งกลุ่มนัดท้าย

วันอังคารที่ 7 ธันวาคม 2564

กลุ่ม A

เปแอสเช - คลับ บรูช (00:45 น.)

เปแอสเช เข้ารอบไปแล้วในฐานะรองแชมป์กลุ่ม เกมนี้พวกเขาไม่มีอะไรต้องลุ้นท่ามกลางตัวเจ็บหลายคนทั้ง เนย์มาร์, ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์, อันเดร์ เอร์เรร่า, เซร์กิโอ รามอส

โคแล็ง แด็กบา, เปรสเนล คิมเปมเบ้ มีปัญหาเล็กน้อยต้องรอเช็คความฟิต

จิจี้ ดอนนารุมม่า น่าจะได้โอกาสลงเฝ้าเสาแทนที่ เคย์เลอร์ นาบาส จินี่ ไวจ์นัลดุม ที่ลงสำรองเป็นฮีโร่ยิงให้ทีมรอดตายในเกมลีกนัดล่าสุดน่าจะได้ออกสตาร์ทเช่นเดียวกัน ขณะที่ สตาร์อย่าง ลิโอเนล เมสซี่, คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ไม่มีปัญหาอยู่ที่ว่ากุนซือ เมาริซิโอ ปอเช็ตติโน่ จะส่งลงหรือไม่

คลับ บรูช ทีมบ๊วยของกลุ่ม พวกเขาตกรอบแล้วแต่ยังมีลุ้นจบที่สามไปยูโรป้า ลีก โดยที่พวกเขามาในสภาพพร้อมสุดๆเพราะไม่มีตัวเจ็บหรือแบนเลย

สถิติที่น่าสนใจ

• เจอกันนักแรกที่บ้านคลับ บรูช เสมอกันไป 1-1
• คลับ บรูช แพ้ในแชมเปี้ยนส์ ลีก 3 นัดติด และในนั้นคือการโดนยิง 4 ลูกขึ้นไปทั้งหมด

แอร์เบ ไลป์ซิก - แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (00:45 น.)

ไลป์ซิก ตกรอบไปแล้วแต่ยังต้องการรักษาตำแหน่งที่สามเพื่อไปยูโรป้า ลีก พวกเขาเพิ่งปลดกุนซืออย่าง เจสซี่ มาร์ช ออกจากตำแหน่ง โดยเกมนี้เป็น อาคิม ไบเออร์ลอร์เซอร์ ที่จะทำหน้าที่โค้ชชั่วคราว

พวกเขามีปัญหาผู้เล่นเจ็บหลายคนทั้ง ยุสซุฟ โพลเซ่น, มาร์เซล ฮัลสเตนเบิร์ก, อมาดู ไฮดาร่า, ดานี่ โอลโม่, มาร์เซโล ซารคคี่, อิไลซ์ โมริบา ขณะที่ วิลลี่ ออร์บาน, อูโก้ โนโวอา ต้องกักตัว

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เข้ารอบไปแล้วในฐานะแชมป์กลุ่ม เกมนี้เป็นเพียงการเล่นให้ครบโปรแกรม

เกมนี้พวกเขาจะไม่มี เฟร์ราน ตอร์เรส(ท้า) และ กาเบรียล เชซุส(ส้นเท้า) ที่มีปัญหาบาดเจ็บ ที่เหลือไม่มีปัญหา

สถิติที่น่าสนใจ

• เจอกันนัดแรก ซิตี้ เปิดบ้านถล่ม 6-3
• ซิตี้ ชนะมา 7 นัดติดทุกรายการ
• ไลป์ซิก แพ้ 3 จาก 4 นัดหลัง ทุกรายการ

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

กลุ่ม B

เอซี มิลาน - ลิเวอร์พูล (03:00 น.)

มิลาน ทีมอันดับสามของตาราง พวกเขาต้องชนะและลุ้นให้อีกคู่เสมอเพื่อเข้ารอบ สภาพทีมพวกเขามีตัวเจ็บหลายคนทั้ง อันเต้ เรบิช, ซิมง เคียร์, โอลิวิเยร์ ชิรูด์, ปิเอโตร เปลเลกรี, ดาวิเด้ คาลาเบรีย, ซามู คาสติเญโฆ่

ซลาตัน อิบราฮิโมวิช น่าจะได้มีส่วนอย่างมากในเกมนี้หลังจากได้พักมาเต็มๆ ในเกมล่าสุดที่พวกเขาเปิดบ้านชนะซาแลร์นิตานา โดยมี ราฟาเอล เลเอา, บราฮิม ดิอาซ, จูเนียร์ เมสซิอาส คอยหนุน รวมถึง ฟรองก์ เคสซี่, อิสมาเอล เบนนาเซอร์ คอยคุมตรงกลาง

ลิเวอร์พูล พวกเขาชนะรวด 5 นัดเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มไปแบบชิลล์ๆ สภาพทีมพวกเขาจะไม่มีแน่ๆคือตัวเจ็บอย่าง ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์, โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่, เคอร์ติส โจนส์ ขณะที่ เจมส์ มิลเนอร์ ติดโทษแบน

นาบี เกอิต้า, โจ โกเมซ กลับมาซ้อมได้แล้วแต่น่าจะยังไม่มีส่วนร่วมในเกมนี้ อย่างไรก็ตามกุนซือ เยอร์เก้น คล็อปป์ ออกมาให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าเขาจะโรเตชั่นทีมแน่นอนหลังจากเข้ารอบเรียบร้อย

สถิติที่น่าสนใจ

• เจอกันนัดแรกที่แอนฟิลด์ ลิเวอร์พูล เฉือนชนะ 3-2
• ลิเวอร์พูล ชนะในแชมเปี้ยนส์ ลีก 5 นัดติด

ปอร์โต้ - แอตเลติโก้ มาดริด (03:00 น.)

ปอร์โต้ ทีมรองจ่าฝูงของกลุ่ม พวกเขาจะเข้ารอบทันทีหากชนะ หรือเสมอแล้วมิลานไม่ชนะลิเวอร์พูล

เกมนี้คาดว่าพวกเขาจะไม่มีผู้เล่นเจ็บหลายคนอย่าง อิวาน มาร์คาโน่, ฟรานซิสโก้ คอนไซเซา, เปเป้ ขณะที่ มาเตอุส อูริเบ้ ติดโทษแบนไปอีก

ความหวังในแนวรุกพวกเขามีอย่าง เมห์ดี้ ทาเรมี่, เอวานิลสัน รวมถึงในแผงมิดฟิลด์ โอลิเวร่า, มาร์โค กรูยิช, หลุยส์ ดิอาซ, โอตาวิโอ้ เป็นต้น

แอตเลติโก้ พวกเขาจะต้องชนะเพื่อเข้ารอบ เกมนี้พวกเขามีปัญหาในเกมรับที่จะขาดตัวเจ็บทั้ง คีแรน ทริปเปียร์, โฆเซ่ กิเมเนซ, สเตฟาน ซาวิช ขณะที่ เฟลิเป้ ติดโทษแบน

ยานนิค คาร์ราสโก้ ยังไม่ฟิตพอในเกมนี้ แต่เกมรุกพวกเขายังอยู่ครบทั้ง หลุยส์ ซัวเรซ, เจา เฟลิกซ์, อองตวน กรีซมันน์, มาเตอุส คุนญ่า

สถิติที่น่าสนใจ

• เจอกันนัดแรก ปอร์โต้ บุกไปเสมอ 0-0
• แอตเลติโก้ แพ้ในแชมเปียนส์ ลีก 3 นัดติด
• แอตเลติโก้ ยิงในแชมเปียนส์ ลีก ไม่ได้ 5 จาก 7 นัดหลัง

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

กลุ่ม C

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ - เบซิคตัส (03:00 น.)

ดอร์ทมุนด์ ตกรอบไปแล้วและคว้าที่สามไปยูโรป้า ลีกแน่นอน เท่ากับว่าวันนี้พวกเขาไม่มีอะไรต้องลุ้น

เกมนี้พวกเขาจะไม่มีตัวเจ็บหลายคนทั้ง ยูซูฟฟา มูโกโก้, มาร์เซล ชเมลเซอร์, มาเตว โมเรย์, โรมัน บูร์กี้, โจวานนี่ เรย์นา

ยูเลี่ยน บรันด์ท มีปัญหาคอนคัสชั่นจากเกมลีกนัดล่าสุดที่แพ้บาเยิร์น ขณะที่ ธอร์กาน อาซาร์ มีปัญหาโควิด-19

เบซิคตัส พวกเขาแพ้รวด 5 นัด เป็นบ๊วยตกรอบไปแล้วเรียบร้อยแบบไม่มีลุ้นอะไร สภาพทีมเกมนี้พวกเขาจะไม่มี อเล็กซ์ เตเซร่า, โกคาน ทอเร่, อายดิน ฮาซิช

ตัวหลักที่เหลือยังอยู่ครบทั้ง มิชี่ บาตชูอายี่, ราชิด เกซซาล, ไซล์ ลาริน, มิราเลม เปียนิช, เมห์เมต โทปาล เป็นต้น

สถิติที่น่าสนใจ

• เจอกันนัดแรก ดอร์ทมุนด์ บุกชนะ 2-1
• เบซิคตัส แพ้ในแชมเปียนส์ ลีก 8 นัดติด
• ดอร์ทมุนด์ แพ้ในแชมเปียนส์ ลีก 3 นัดติด

อาหยักซ์ - สปอร์ติง ลิสบอน (03:00 น.)

อาหยักซ์ ฟอร์มเจ๋งชนะรวด 5 นัด เข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มสบาย เกมนี้พวกเขาจะขาดแค่ โมฮาเหม็ด คูดัส และนายด่านอย่าง มาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก

ตัวหลักที่เหลือไม่มีปัญหาอยู่ที่ว่ากุนซือเอริก เทน ฮากจะส่งลงหรือไม่ โดยเฉพาะกองหน้าตัวเก่งอย่าง เซบาสเตียน ฮาลแลร์

สปอร์ติง เข้ารอบไปแล้วเช่นกันในฐานะรองแชมป์กลุ่ม เกมนี้พวกเขาจะไม่มีตัวเจ็บอย่าง โจวาเน่ คาบราล, เจา ปาลินโญ่, รูเบ็น วินาเกร ขณะที่กองหลังตัวเก่งอย่าง เซบาสเตียน โคอาเตส ติดโควิด-19

ที่เหลือไม่มีปัญหาโดยเฉพาะแนวรุกอย่าง เปาลินโญ่, ปาโบล ซาราเบีย, โปเต้

สถิติที่น่าสนใจ

• เจอกันนัดแรก อาหยักซ์ บุกชนะ 5-1
• อาหยักซ์ ชนะในแชมเปียนส์ ลีก 5 นัดติด

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

กลุ่ม D

เรอัล มาดริด - อินเตอร์ มิลาน (03:00 น.)

เรอัล มาดริด เข้ารอบไปแล้ว เกมนี้พวกเขาขอแค่เสมอจะคว้าแชมป์กลุ่ม เกมนี้พวกเขาจะไม่มี คาริม เบนเซม่า ที่เจ็บกล้ามเนื้อจากเกมลีกนัดล่าสุด ขณะที่ แกเร็ธ เบล, ดานี่ เซบาญอส เจ็บอยู่แล้วและไม่มีชื่อตามเคย

ที่เหลือไม่มีปัญหาโดยเฉพาะ ลูก้า โยวิช ที่ได้โอกาสลงสนามและยิงประตูได้ในเกมบุกชนะเรอัล โซเซียดาด วันนี้่เขาน่าจะได้ออกสตาร์ทตัวจริงแทนที่เบนเซม่า

อินเตอร์ มิลาน เข้ารอบไปแล้วเช่นกันแต่พวกเขายังหวังชนะเกมนี้เพื่อแซงเป็นแชมป์กลุ่ม สภาพทีมพวกเขามีปัญหาตัวเจ็บทั้ง มัตเตโอ ดาร์เมียน, สเตฟาน เดอ ไฟรจ์, ฮัวคิน คอร์เรอา, อเล็คซานดาร์ โคลารอฟ, อันเดรีย ราน็อคเคีย

ที่เหลือไม่มีปัญหาโดยเฉพาะ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ, เอดิน เชโก้ ที่น่าจะได้จับคู่หน้าในเกมนี้

สถิติที่น่าสนใจ

• เกมแรกที่เจอกัน มาดริด บุกชนะ 1-0
• เจอกัน 3 นัดหลังในรายการนี้ มาดริด ชนะรวด

ชัคตาร์ โดเนตส์ - เชริฟฟ์ (03:00 น.)

ชัคตาร์ ตกรอบและจบที่ 4 ไม่มีลุ้นอะไรแล้ว เกมนี้พวกเขาจะไม่มีตัวเจ็บอย่าง อลัน แพทริค, ลาสซิน่า ตราโอเร่, อิสไมลี่, แฟร์นานโด

เชริฟฟ์ จบที่ 3 และได้ไปเล่นยูโรป้า ลีก เกมนี้พวกเขาบุกไปด้วยสภาพทีมที่ค่อนข้างพร้อม โดยจะขาดแค่กองหน้าอย่าง ลอฟโร บิเซียค ที่หลือไม่มีปัญหา

สถิติที่น่าสนใจ

• เจอกันนัดแรก เชริฟฟ์ เปิดบ้านชนะ 2-0
• ชัคตาร์ แพ้ 5 จาก 6 นัดหลังในแชมเปียนส์ ลีก
• เชริฟฟ์ แพ้ในแชมเปียนส์ ลีก 3 นัดติด

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

โหวตเป็นกระทู้แนะนำ

=================================
ติดตาม SoccerSuck ใน Facebook ที่: https://www.facebook.com/soccersuck01