ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
28 November 2021 22:47 by Salinger
วาร์ดี้ซัดเบิ้ล! "จิ้งจอก" เปิดรังสอยแตน 4-2 ขึ้นที่ 10



แม้จะเล่นท่ามกลางหิมะตกหนักกว่าครึ่งเกมแต่ก็ยังยิงกันยับ เลสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านเอาชนะ วัตฟอร์ด ไป 4-2 โดยมีทีเด็ดอย่าง เจมส์ แมดดิสัน ที่ยิงเองและจ่ายให้ เจมี่ วาร์ดี้ ยิงอีก 2 ลูก ช่วยให้พวกเขาเก็บเพิ่ม 18 แต้ม ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 10
เลสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 4-2-3-1
1.
แคสเปอร์ ชไมเคิล
6.5
27.
ทิโมธี คาสตาเญ่
6
6.
จอนนี่ อีแวนส์
7.5
4.
ชากลาร์ โซยุนชู
7.5
33.
ลุค โธมัส
7.5
42.
บูบาคารี ซูมาเร่
7
25.
วิลเฟรด เอ็นดิดี้
7
37.
อเดโมล่า ลุคแมน
75'
7.5
10.
เจมส์ แมดดิสัน
88'
9
7.
ฮาร์วีย์ บาร์นส์
6.5
9.
เจมี่ วาร์ดี้
8.5
ตัวสำรอง
12.
แดนนี่ วอร์ด
11.
มาร์ค อัลไบรตัน
75'
6.5
14.
เคเลชี่ อิเฮียนาโช่
17.
อโยเซ่ เปเรซ
18.
ดาเนียล อมาร์ตีย์
20.
ฮัมซ่า เชาดูรี่
22.
คีแรน ดูวส์บิวรี่-ฮอลล์
88'
-
23.
ยานนิค เวสเตอร์การ์ด
29.
แพตสัน ดาก้า
ผู้จัดการทีม
เบรนแดน ร็อดเจอร์ส
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สนาม คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม
อาทิตย์ ที่ 28 พฤศจิกายน 2564
กรรมการ แอนดรูว์ แมดลีย์
เลสเตอร์ ซิตี้
4
2
วัตฟอร์ด
1-0 เจมส์ แมดดิสัน 16'
2-1 เจมี่ วาร์ดี้ 34'
3-1 เจมี่ วาร์ดี้ 42'
4-2 อเดโมล่า ลุคแมน 68'
1-1 โจชัว คิง 30' (Pen.)
3-2 เอ็มมานูเอล เดนนิส 61'
เลสเตอร์ เจ้าบ้านวันนี้จะได้ จอนนี่ อีแวนส์ กลับมาออกสตาร์ทเป็นตัวจริงหลังมีปัญหาเกี่ยวกับต้นขามาจากเกมที่เอาชนะ ลีเกีย เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ขาดไปก็คือ ริคาร์โด้ เปเรย์ร่า เป็นนักเตะรายล่าสุดที่พบกับอาการบาดเจ็บ ในขณะที่ เจมส์ จัสติน ยังไม่พร้อมสำหรับการกลับมา

ส่วน วัตฟอร์ด เองจะหมดสิทธิ์ใช้ทั้ง อิสไมล่า ซาร์ และ นิโคลัส เอ็นคูลู เพราะเจอกับอาการเจ็บหัวเข่าและแฮมสตริงตามลำดับ รวมถึง ยูราย คุชก้า ที่วันนี้ยังไม่มีชื่อในทีม
3'
วาร์ดี้ ได้ซัดทักทายติดเซฟ บัชมานน์
เริ่มเกมมาเจ้าบ้านได้ทักทายจากจังหวะที่ ซูมาเร่ แทงบอลให้ วาร์ดี้ สอดหลุดเข้าไปหน้าเสาขวาก่อนจังหวะสุดท้ายจะได้ซัดมุมแคบบอลไปติดเซฟ บัชมานน์ ออกหลังเป็นเตะมุม
11'
ทรูส-เอก็อง ได้ขึ้นโขกบอลข้านคานไปนิดเดียว
ทีมเยือนได้ลุ้นบ้างจากฟรีคิกนอกกรอบฝั่งขวา เคลฟเวอร์รีย์ เปิดเข้ามาให้ ทรูส-เอก็อง ได้ขึ้นโขกกลางประตูแต่บอลเหิยยข้ามคานออกไปนิดเดียวถือว่าได้ลุ้น
16'
ทรูส-เอก็อง แจกส้ม แมดดิสัน หลุดไปซัดนิ่มๆ! จิ้งจอกนำแล้ว 1-0
จังหวะที่เหมือนจะไม่มีอะไร อีแวนส์ โยนบอลจากแดนตัวเองมาถึงหน้ากรอบฝั่งตรงข้ามแล้วเป็น ทรูส-เอก็อง ที่กะจังหวะพลาดปล่อยบอลข้ามหัวไปถึง แมดดิสัน ในกรอบได้หลุดไปแปเน้นๆผ่านตัว บัชมานน์ เสียบมุมซ้ายเข้าไปไม่เหลือ
22'
เดนนิส ได้ซัดบ้างยังติดเซฟ ชไมเคิล
จากจังหวะฟรีคิกนอกกรอบของทีมเยือนยิงติดบล็อคมาถึง เดนนิส สุดเส้นขวาได้เลาะมาซัดมุมแคบบอลสุดท้ายยังติดเซฟ ชไมเคิล เด้งออกมา
24'
มาซิน่า ได้ขึ้นโขกอีกยังหลุดเสา
ทีมเยือนได้ลุ้นจากจังหวะลูกตั้งเตะต่อเนื่องคราวนี้จากฟรีคิกฝั่งขวา เคลฟเวอร์รีย์ เปิดเข้ามาให้ มาซิน่า สอดมาโขกหน้าเสาสองแต่บอลยังหลุดเสาออกไป
28'
คูโช่ ลากมาซัดบอลแฉลบชนเสาเต็มๆ!
เจ้าบ้านรอดตัวเกือบโดนตีเสมอจากจังหวะที่ คูโช่ ลากบอลมาหน้ากรอบแล้วซัดด้วยขวาเต็มๆบอลพุ่งแฉลบกองหลังแล้วเปลี่ยนทางไปชนเสาซ้ายเต็มๆ เกือบได้ประตูตีเสมอ
30'
แตนได้จุดโทษ! คิง ซัดไม่เหลือตีเสมอแล้ว 1-1
จากจังหวะที่ เดนนิส พาบอลเลี้ยงจี้เข้ามาในกรอบแล้วเป็น เอ็นดิดี้ วิ่งเข้ามาเกี่ยวล้ม ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษทันที แล้วเป็น คิง
ซัดเข้าไปไม่เหลือ ชไมเคิล พุ่งถูกทางแต่ยังเข้าประตูตีเสมอจนได้
31'
ซิสโซโก้ ได้สอดมาโขกสวนบอลหลุดกรอบ
จากจังหวะเตะมุมฝั่งซ้ายของทีมเยือน เคลฟเวอร์รีย์ เปิดเข้ามาแล้ว ชไมเคิล ชกไม่ดีบอลหลุดออกมาถึง ซิสโซโก้ หน้ากรอบได้โขกสวนเข้าไปโล่งๆแต่ บอลหลุดกรอบ
34'
วาร์ดี้ ซัดไม่เหลือ! จิ้งจอกแซงนำอีกหน 2-1
จากจังหวะบอลยาวอีกครั้งของเจ้าบ้านบอลมาถึง แมดดิสัน หน้ากรอบทางฝั่งซ้ายยกบอลให้ วาร์ดี้ ชิงจังหวะได้ลากเข้าไปเกือบสุดเส้นก่อนจะยกข้าม บัชมานน์ เข้าไปไม่เหลือ
36'
คิง ตวัดยิงในกรอบบอลไม่เข้าเป้า
จากลูกทุ่มด้านข้างของทีมเยือนเล่นเร็วมาที่ เคลฟเวอร์รีย์ ทางขวาก่อนจะเปิดเข้ามาให้ คิง กลางประตูพักอกลงแล้วตวัดยิงด้วยขวาบอลหลุดกรอบออกไปไกล
39'
แมดดิสัน หาช่องปั่นมุมแคบบอลหลุดเสานิดเดียว
จังหวะนี้ ลุคแมน แทงให้ แมดดิสัน ได้ครองบอลที่สุดเส้นขวาก่อนจะล็อคมาหาช่องปั่นเองด้วยซ้ายมุมแคบบอลโค้งหลุดเสาซ้ายไปนิดเดียว
42'
วาร์ดี้ โขกอีก! จิ้งจอกนำห่าง 3-1
เจ้าบ้านมาได้ประตูนำห่างอีกจากจังหวะเตะมุมฝั่งซ้าย แมดดิสัน เปิดเข้ามาให้ วาร์ดี้ ได้ขึ้นโขกเสยหน้าเสาแรกบอลพุ่งเข้ากรอบไปไม่เหลือ
HALF TIME
46'
ทีมเยือนขยับส่ง เปโดร กับ ทูฟาน ลงสนาม
ทีมเยือนขยับเปลี่ยนตัวทีเดียว 2 คนส่งแนวรุกอย่าง เปโดร กับ ทูฟาน ลงมาแทน เคลฟเวอร์รีย์ และ ลูซ่า
49'
คิง ได้บอลโล่งๆแต่ยิงช้าติดเซฟ ชไมเคิล
จังหวะตัดบอลได้หน้ากรอบแล้วเกือบได้ลุ้นประตู คูโช่ ทางซ้ายลากเข้ามาแล้วจ่ายให้ คิงหน้าเสาขวาโล่งๆแต่ดันเล่นช้าไม่ยิงจนจังหวะสุดท้ายซัดไปติด ชไมเคิล
55'
หิมะตกหนักทั้งสองทีมเล่นตะกุกตะกัก
กลายเป็นว่าครึ่งหลังหิมะตกหนักกว่าเดิมจนแทบเต็มสนามทั้งสองฝั่งเล่นตะกุกตะกักแทบจ่ายบอลไม่ตรงและไม่มีโอกาสได้ลุ้นประตูเพิ่ม
60'
เปโดร ลากมาซัดเองบอลหลุดเสา
จังหวะนี้เป็น เปโดร ได้บอลหน้ากรอบฝั่งซ้ายได้ลากผ่านเข้ามาเองถึงในกรอบก่อนจะหวดด้วยขวาบอลสุดท้ายหลุดเสาขวาออกไปนิดเดียว
62'
เดนนิส ฉกบอลเข้าไปยกนิ่มๆ! แตนไล่มาอีก 3-2
ทีมเยือนมาได้ประตูไล่มาจากจังหวะที่ คาสตาเญ่ เสียบอลแดนตัวเองโดน เดนนิส ฉกแล้วลากเข้าไปถึงในกรอบก่อนจะยกผ่าน ชไมเคิล ไม่เหลือมีจังหวะเช็ค VAR ว่าฟาวล์ไหมก่อนจะยืนยันว่าเป็นประตู
68'
ลุคแมน ซัดโล่งๆ! จิ้งจอกนำห่างไปอีก 4-2
จากจังหวะขึ้นเกมเร็วของเจ้าบ้านมาจากกลางสนามทางซ้าย บาร์นส์ ได้บอลหลุดมาในกรอบลากไปสุดเส้นซ้ายก่อนจะดีดผ่าน บัชมานน์ เด้งมาถึง ลุคแมน ตรงกลางวิ่งมาซัดโล่งๆเข้าไปไม่เหลือ
73'
เปโดร ส่องเองหน้ากรอบเข้าซอง ชไมเคิล
จังหวะที่ทีมเยือนตัดบอลได้หน้ากรอบสุดท้ายเป็น เปโดร ที่ลากไปส่องเองด้วยขวาบอลยังไปตรงตัว ชไมเคิล รับติดมือ
84'
ทูฟาน สอดมาชาร์จโล่งๆบอลเฉียดเสานิดเดียว
จังหวะน่าได้ประตูตีตื่นของทีมเยือน เฟเมเนีย พาบอลขึ้นมาทางขวาก่อนจะวางเท้าเปิดเน้นๆมาให้ ทูฟาน สอดมาล้มตัวชาร์จโล่งๆกลางประตูแต่โดนบอลไม่ดีเฉียดเสาซ้ายออกไปไม่ถึงนิ้ว
89'
วาร์ดี้ ได้ล็อคเข้ามาปั่นบอลติดเซฟ บัชมานน์
จังหวะเกือบแฮตทริกของ วาร์ดี้ ได้บอลยาวมาถึงหน้ากรอบฝั่งซ้ายก่อนจะแตะเข้าขวาแล้ววางเท้าปั่นบอลเกือบมุดเสาขาวแต่ บัชมานน์ ยังพุ่งไปปัดทัน
จบเกม จิ้งจอก เปิดรังสอย แตน 4-2
เลสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านเอาชนะ วัตฟอร์ด ไป 4-2 ช่วยให้พวกเขาเก็บเพิ่ม 18 แต้ม ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 9 ก่อนจะไปเจอ เซาแธมป์ตัน กลางสัปดาห์ ส่วน วัดฟอร์ต กลับไปเล่นในบ้านเจอ เชลซี
วัตฟอร์ด
Starting Formation: 4-1-4-1
26.
ดาเนียล บัชมานน์
6.5
21.
กิโก้ เฟเมเนีย
6
15.
เคร็ก แคธคาร์ท
5.5
5.
วิลเลี่ยม ทรูส-เอก็อง
5
11.
อดัม มาซิน่า
6.5
6.
อิมราน ลูซ่า
46'
6
29.
คูโช่ เฮอร์นานเดซ
6.5
8.
ทอม เคลฟเวอร์รีย์
46'
6.5
19.
มุสซ่า ซิสโซโก้
6
7.
โจชัว คิง
6.5
25.
เอ็มมานูเอล เดนนิส
71'
7
ตัวสำรอง
35.
ร็อบ เอลเลียต
2.
เยเรมี่ เอ็นกาเกีย
3.
แดนนี่ โรส
10.
เชา เปโดร
46'
6.5
16.
แดน กอสลิ่ง
17.
แอชลี่ย์ เฟล็ทเชอร์
71'
6
18.
โอซาน ทูฟาน
46'
6
27.
คริสเตียน กาบาเซเล่
42.
เจมส์ มอร์ริส
ผู้จัดการทีม
เคลาดิโอ รานิเอรี่
แก้ไขล่าสุดโดย Salinger เมื่อ Mon Nov 29, 2021 02:33, ทั้งหมด 18 ครั้ง
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ

=================================
ติดตาม SoccerSuck ใน Facebook ที่: https://www.facebook.com/soccersuck01
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Oct 2010
ตอบ: 546
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Nov 29, 2021 01:13
[RE]วาร์ดี้ซัดเบิ้ล! "จิ้งจอก" เปิดรังสอยแตน 4-2 ขึ้นที่ 9
สมน้ำหน้าไม่ยอมเซฟยิ้ม
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
แขวนสตั๊ด
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Oct 2009
ตอบ: 65501
ที่อยู่: Juventus Stadium
โพสเมื่อ: Mon Nov 29, 2021 02:23
[RE: วาร์ดี้ซัดเบิ้ล! "จิ้งจอก" เปิดรังสอยแตน 4-2 ขึ้นที่ 10]
แมดดิสันฟอร์มกลับมาแล้วสินะ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel