หญิงสาวผู้ปฏิเสธจอมเผด็จการ
เรื่องเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องของหญิงสาวสวยดีกรีระดับหญิงไทยคนแรกที่ได้ไปแข่งขันในเวทีนางงามจักรวาล(มิสยูนิเวิร์ส) ผู้ที่กล้าปฏิเสธจอมพลสฤษดิ์ที่เรืองอำนาจในยุคนั้นว่าให้ไปเป็นภริยาน้อย จนต้องเจอวิบากกรรม โดนข้อหาให้เป็นคอมมิวนิสต์บ้าง ต้องเป็นข่าวหน้าหนังสือพิมพ์บ้าง เรื่องราวเป็นอย่างไร ไปดูกัน...
-----
เมื่อ จอมพล ผ้าขาวม้าแดง
“จอมพล สฤษดิ์”
เจอ “ม้าพยศ”
“อมรา อัศวนนท์”
ดาราสาว ที่กล้าปฏิเสธ
สเน่หา จอมพล
ไม่ยอมเป็น “อนุฯ”
แม้ “นาย กอ” จะให้ทุกอย่าง
เว้น ดาว กับ เดือน
.
หลังประกวดในเวทีนางงามโลก “คุณอมรา อัศวนนท์” ก็เข้าสู่วงการบันเทิง
เธอเป็นสาวงามที่สวยมากในสมัยนั้น ทรวดทรงองค์เอว เป็นสาวเอวเอส 22 นิ้ว ที่มีหน้าอกหน้าใจในแบบฉบับสาวลูกครึ่ง 34 นิ้ว ส่วนสะโพก 34 นิ้ว
ฉะนั้น จึงไม่น่าแปลกใจ ที่นายกรัฐมนตรีอย่าง จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ซึ่งอยู่ในอำนาจช่วงปี 2502-2506 อยากได้มาเป็นอนุภรรยา
ในขณะที่คุณอมรารักกับนายตำรวจชื่อ “อังกูร บุรานนท์”
คุณอมรา เล่าเหตุการณ์ช่วงสำคัญในชีวิตให้ฟังว่า “เคยคุยทางโทรศัพท์กับท่านว่า หนูเกิดมาทั้งที มีความหวังไม่อยากจะเป็นเมียน้อยใคร
“ ท่านก็บอกว่า เดี๋ยวอยู่กับฉันเป็นคนสุดท้ายในชีวิต
ตอนนั้นท่านแก่มาก 50 กว่าแล้ว จะให้ใช้นามสกุลด้วย เลยตอบไปว่า หนูมีคู่รักแล้ว
มีคุณอังกูร ตอนนั้นกลัวมากเลย หนีมาจากบ้าน กลัวมากเลย โทรศัพท์บอกกับ คุณอังกูรที่อยู่อังกฤษว่า ถ้าเธอไม่กลับมาก่อน ฉันก็จะไม่ได้แต่งงานกับเธอแน่นอน เพราะไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับฉัน มันเครียดมากตอนนั้น ออกไปไม่ได้ จะออกไปแต่งงาน เขาก็ไปยึดพาสปอร์ตที่สนามบินหาว่าเราเป็นคอมมิวนิสต์ คือไม่ให้ออก และส่งแฟนไปอยู่เมืองนอก เพราะรู้ว่าชอบกันอยู่”
เหตุการณ์นี้ผ่านมาแล้วกว่าครึ่งศตวรรษ แต่คุณอมรา ยังจดจำรายละเอียดได้หมด เหมือนถูกบันทึกไว้ในสมอง
“ช่วงนั้น กลัวก็กลัว แต่ท่านยังดี ความดีท่านก็มี ท่านไม่ได้บังคับ ท่านได้แต่วอน แบบอยากได้อะไร ทำไมไม่ชอบ “นายกอ “
นี่คำพูดติดหูติดมาจนทุกวันนี้
เลยถามไปว่า…ใครคะ “นายกอ” ท่านตอบนายกฯ ยังไงล่ะ จะเอาอะไร นอกจาก เดือนกับดาว
เลยบอกหนูไม่เอาเดือน ไม่เอาดาว แล้วก็ไม่เอาคุณด้วย ให้เท่าไหร่หนูก็ไม่เอา รถยนต์ เครื่องเพชร อะไรต่ออะไร”
“ตอนหลังได้ไปคุยกับลูกน้อง จอมพลสฤษดิ์เลยได้รู้ว่า ท่านชอบใจมาก บอกว่าดิฉันเหมือนม้าพยศ”
คุณอมรา ให้คำอธิบายเพิ่มเติมที่กล้าปฏิเสธจอมพลผ้าขาวม้าแดงว่า “เราเป็นเด็กวัยรุ่นอายุ 19-20 ก็อยากจะได้เด็กรุ่นราวคราวเดียวกับเรา
แต่ท่านแก่มากเลย แล้วหน้าตา ก็ไม่ได้หล่อ หน้าตาเหมือนหมู แก้มห้อย” คุณอมรา เล่าพร้อมหัวเราะ
ย้อนกลับไปยุคนั้น เรื่องราวของคุณอมราเป็นข่าวใหญ่โตในหน้าหนังสือพิมพ์นานนับเดือน อย่างที่เธอเล่า “มีข่าวดาราหนังไม่ได้เสียภาษีเล่นหนัง ตอนนี้เป็นคอมมิวนิสต์ ต้องสืบสวนสอบสวน ดิฉันก็ต้องไปโรงพักทุกวัน ยังโชคดีที่รอดมาได้ อย่างนั้นคงไม่มีครอบครัวที่อบอุ่นกับคุณอังกูร บุรานนท์ ที่สำคัญโชคดีที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ได้บังคับให้ไปเป็นอนุของท่าน”
ทั้งหมดนี้คงทำให้ได้รู้จักตัวตนของ “อมรา อัศวนนท์” อดีตนางงามและนางเอก ซึ่งห้วงหนึ่งของชีวิตต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับผู้นำประเทศยุคนั้น
ขณะที่ปัจจุบันเธอมีความสุขอยู่กับต้นไม้สารพัดชนิด โดยมีลูกชาย-หญิงสองคน และหลานชาย 1 คน เป็นกำลังใจสำคัญคอยดูแลห่วงใย
credit: เรียบเรียงโดยวาสนา นาน่วม ข่าวโดยมติชน
อ่านต่อเพิ่มเติม
https://www.matichonweekly.com/column/article_487477
คุณอมราในสมัยเป็นนางงาม

คุณอมราในปัจจุบัน