ชนะ 5 นัดรวด! 'ธิอาโก้' ส่องไกล 'หงส์' บี้ปอร์โต้ 2-0
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
ลิเวอร์พูลทำสถิติเก็บแต้มมากสุดในรอบแบ่งกลุ่มของตัวเอง เมื่อจัดสำรองลงหลายตำแหน่งแต่ก็ยังเบียดเอาชนะ เอฟซี ปอร์โต้ 2-0 ธิอาโก้ อัลคันทาร่า ซัดไกลเป็นประตู ก่อนที่ โม ซาลาห์ โยกยิงเสาแรกหมดจด คว้าชัยรวด 5 เกม 15 แต้มเต็ม ส่วนทีมโปรตุเกส ต้องไปลุ้นกับแอตเลติโก มาดริด กับ เอซี มิลาน ในเกมสุดท้าย
ลิเวอร์พูล
Starting Formation: 4-3-3
21.
คอนสแตนตินอส ชิมิกาส

63'
6.5
6.
ธิอาโก้ อัลคันทาร่า

63'
8
15.
อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน

82'
7
10.
ซาดิโอ มาเน่

72'
6.5
11.
โมฮาเหม็ด ซาลาห์

72'
7
ตัวสำรอง
26.
แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน

63'
6
7.
เจมส์ มิลเนอร์

82'
6
27.
ดิว็อค โอริกี้

72'
6
3.
ฟาบินโญ่

72'
6
66.
เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
14.
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน

63'
6.5
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มบี
สนาม แอนฟิลด์
พุธที่ 24 พฤศจิกายน 2564
กรรมการ เฟลิกซ์ ซวาเยอร์
ลิเวอร์พูล
2
0
เอฟซี ปอร์โต้
1-0 ธิอาโก้ อัลคันทาร่า 53'
2-0 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ 70'
ลิเวอร์พูลผ่านเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มไปแล้ว ทำให้สลับตัวสำรองลงมาเล่นหลายตำแหน่ง ตั้งแต่ อิบราฮิม่า โคนาเต้, เนโก วิลเลี่ยมส์, ไทเลอร์ มอร์ตันและทาคุมิ มินามิโนะ แต่ซาดิโอ มาเน่และโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยังได้เล่นต่อไป ด้านเอฟซี ปอร์โต้ใส่ตัวจริงมาเต็มเพราะลุ้นเข้ารอบ แดนหน้าเป็นเมห์ดี้ ทาเรมี่และเอวานิลซอน โดยมี หลุยส์ ดิอาซกับโอตาวิโอ คอยทำเกมริมเส้น
ชิมิกาสเกือบไป!เทเรมี่โขกติดบล็อค
ชิมิเกาสไปเสียบอลริมเส้นด้านซ้ายให้โอตาวิโอ ได้ครอสบอลไปทางเสาแรก เทเรมี่พุ่งเข้ามาโขกดีแล้วแต่บอลไปติดบล็อคของมาติปก่อนแฉลบออกหลังไปเจ้าถิ่นไม่เสียประตูแบบหวุดหวิด
โอตาวิโอยิงออกเอง
ปอร์โต้ได้โอกาสทองจากการสวนกลับเร็ว ดิอาซได้บอลหลุดเดี่ยวจากกลางสนามก่อนลากเข้าไปในกรอบเขตโทษแล้วไหลมาให้โอตาวิโอวิ่งเข้ามาแปแต่โดนชิมิกาสพุ่งมาเสียบจากด้านหลังทำให้แปออกไปเองด้วย
มาติปโขกตรงตัวโกล
ลิเวอร์พูลมาได้ลุ้นบ้างจากคอนเนอร์ด้านขวาที่เล่นสั้น วิลเลี่ยมส์ครอสบอลเข้ามาให้มาติปโขกดีแล้วบอลตรงกรอบแต่คอสต้ารับเอาไว้ไม่มีปัญหา
คอสต้าเตะติด!ซาลาห์ไม่เนียนพอ
คอสต้าเตะบอลเปิดเกมไม่ดีไปโดนมาเน่แล้วบอลแฉลบเปลี่ยนทางไปเข้าทางของ ซาลาห์พยายามยิงเร็วเลยแต่บอลเบาเกินไปคอสต้ากลับมารับได้ทัน
โอตาวิโอยิงข้ามคาน
จากลูกทุ่มทางซ้าย ดิอาซโหม่งบอลมาถึง โอตาวิโอพยายามวางเท้ายิงเร็วด้วยซ้ายแบบไม่จับแต่ช้อนใต้บอลมากเกินไปข้ามคานออกไปไกลเลย
ธิอาโก้ทะลุช่อง!มาเน่ยิงโดน VAR ยึดกลับ
กลายเป็น หงส์แดง ที่แทบไม่ได้ยิงแต่ขึ้นนำก่อน เป็นการแทงทะลุช่องของ ธิอาโก้ให้ มาเน่หลุดลากเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนเอี้ยวตัวแปหนี คอสต้าไปทางเสาไกลอย่างนิ่ง 1-0!!! อย่างไรก็ดี VAR บอกว่ามาเน่ล้ำหน้าไปก่อน
มอร์ตันเซฟ!ไม่งั้นโดนยิงเหน่ง
ปอร์โต้พลาดโอกาสทอง โอตาวิโอแทงทะลุช่องให้ เทเรมีหลุดเข้ากรอบเขตโทษด้านขวาแล้วแต่ดันไม่ยิงจะย้อนกลับไปให้เอวานิลซอน ก่อนโดนมอร์ตันตามลงมาเสียบทิ้งไปหวุดหวิด
มาเน่ลากยิงแฉลบบล็อค
ซาลาห์ให้บอลมาที่มาเน่ลากจี้เข้าหากรอบเขตโทษก่อนล็อคมายิงด้วยซ้ายบอลไปแฉลบคาร์โดโซ่ก่อนหลุดออกหลังได้ลุ้นแค่เตะมุม
ทาเรมี่โขกหลุดเสาสอง
ปอร์โต้ลงมาได้ลุ้นเลย โอตาวิโอ ครอสบอลจากริมเส้นด้านขวามาเข้าหัวของทาเรมี่ได้โขกคนเดียวแล้วแต่สะบัดหลุดเสาซ้ายมือออกไปเท่านั้น
อูริเบพลิกยิงได้แค่เสียว
ทีมเยือนมาลุ้นอีกจากคอนเนอร์ที่อลิสซอนชกมาติดมาแน่แล้วบอลขลุกขลิกมาเข้าทางของอูริเบเกี่ยวได้ก่อนพลิกยิงสวยแล้วแต่บอลหลุดเสาออกไปนิดเดียว
ธิอาโก้ซัด 25 หลา!หงส์ขึ้นนำ 1-0
กลายเป็น ลิเวอร์พูล ได้ประตูขึ้นนำไปก่อน เป็นจังหวะต่อเนื่องของฟรีคิกที่แชมเบอร์เลนเปิดเข้าไปก่อนโดนโขกเคลียร์ออกมาเข้าทางของ ธิอาดก้วางเท้ายิงด้วยขวาระยะ 25 หลาบอลพุ่งเรียดหนีมือคอสต้าเข้าประตูไปเลย 1-0!!!
OX ลองยิงแค่เฉี่ยวเสา
โอกาสลุ้นอีกหนของลิเวอร์พูล มาเน่ได้บอลทางซ้ายก่อนเปิดมาให้ แชมเบอร์เลนพักบอลด้วยหน้าขาก่อนพยายามตามมายิงปลายเท้าบอลพุ่งสวยแล้วแต่หลุดเสาขวามือไปไม่มาก
ทาคิยิงเข้าโดนจับล้ำหน้า
มินามิโนะยิงเข้าไปแล้วแต่ไม่ได้ เริ่มจากที่มาเน่ยิงไปติดบล็อคแล้วบอลกระดอนสูงมาเข้าทางดาวเตะญี่ปุ่นยิงตามน้ำทันทีบอลตุงตาข่ายแต่ล้ำหน้าไปก่อนแล้ว
บังโมเหนืออีก!โยกยัดเสาแรก 2-0
ซาลาห์มาพังประตูจนได้หลังเฮนเดอร์สันเบิ้ลบอลคืนกลับมาให้ดาวเตะอียิปต์โยกหลอกอูริเบหลังหักก่อนกดด้วยซ้ายทางเสาแรกบอลผ่านมือคอสต้าเข้าประตูไป 2-0!!!
JK จัดเต็มเปลี่ยนครบโควต้า
คล็อปป์ทยอยเปลี่ยนตัวบรรดานักเตะสำรองลงมาทั้งหมดไล่ตั้งแต่ โอริกี้, ฟาบินโญ่ และเจมส์ มิลเนอร์ เพื่อลงมายืดเส้นยืดสายในช่วงท้ายเกม
หงส์ชนะรวด!ปอร์โต้ยังมีลุ้น
มิลเนอร์ได้ลองส่องแต่ไปเข้ามือของคอสต้า ก่อนหมดเวลาการแข่งขัน ลิเวอร์พูล ชนะรวดเก็บ 15 แต้มเต็ม ด้านปอร์โต้ต้องไปตัดกับแอตเลติโก มาดริด และเอซี มิลานว่าจะไปจบตรงไหน
เอฟซี ปอร์โต้
Starting Formation: 4-4-2
3.
เปเป้

25'
6
27.
แซร์โจ้ โอลิเวียร่า

64'
6
8.
มาเตอุส อูริเบ

77'
6.5
9.
เมห์ดี้ ทาเรมี่

64'
6
30.
เอวานิลซอน

77'
6
ตัวสำรอง
20.
วิตินญ่า

64'
6
10.
ฟรานซิสโก้ คอนไซเซา

64'
6
29.
อันโตนิโอ มาร์ติเนซ

77'
6
2.
ฟาบิโอ คาร์โดโซ่

25'
6
16.
มาร์โก กรูยิช

77'
6
แก้ไขล่าสุดโดย ZONG'TEEN เมื่อ Thu Nov 25, 2021 05:02, ทั้งหมด 16 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ