เมนดี้ปิดกล่อง! "ชุดขาว" ยังแรงบุกสอยกรานาด้า 4-1 คืนฝูงหล่อ
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
เรอัล มาดริด วันนี้ยังคงรักษาฟอร์มเก่งบุกมาเอาชนะ กรานาด้า ที่เหลือผู้เล่น 10 คนช่วงครึ่งหลังไป 4-1 จากประตูของ มาร์โก้ อเซนซิโอ, นาโช่, วินิซิอุส จูเนียร์ และปิดท้ายด้วย แฟร์ล็องด์ เมนดี้ ทำให้พวกเขาเก็บเพิ่มเป็น 30 แต้ม กลับขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงอีกครั้ง
กรานาด้า
Starting Formation: 4-3-3
16.
วิตตอร์ ดิอาซ

58'
6
21.
รูเบน โรชิน่า

59'
6
4.
มักซิม โกนาล็องส์

58'
5
10.
อันโตนิโอ ปูเอร์ตัส

46'
6
7.
อัลแบร์โต โซโร

78'
6.5
ตัวสำรอง
3.
เซร์คิโอ เอสคูเดโร

78'
6
19.
อังเคล มอนเตโร่

46'
6
23.
ฆอร์เก้ โมลิน่า

59'
5.5
26.
อิสมา รุยซ์

58'
6
28.
ราอูล ตอร์เรนต์

58'
6
ฟุตบอลลาลีกา สเปน
สนาม เอสตาดิโอ นวยโบ โลส การ์เมเนส
อาทิตย์ ที่ 21 พฤศจิกายน 2564
กรรมการ ฆวน มาร์ติเนซ
กรานาด้า
1
4
เรอัล มาดริด
0-1 มาร์โก้ อเซนซิโอ 19'
0-2 นาโช่ 25'
1-3 วินิซิอุส จูเนียร์ 56'
1-4 แฟร์ล็องด์ เมนดี้ 76'
กรานาด้า เจ้าบ้านที่อยู่ท้ายตารางวันนี้จะไม่มีตัวเจ็บหลายคนทั้ง หลุยส์ มีญ่า, อิสมาเอล รุยซ์, โดมิงกอส ดูอาร์เต้, เนย์เดอร์ โลซาโน่ แต่จะได้สองมิดฟิลด์อย่าง ยาน เอเตกี กลับมามีชื่อเป็นตัวสำรองและ มักซิม โกนาล็องส์ ที่กลับมาออกสตาร์ทเป็นตัวจริง
เรอัล มาดริด ทีมเยือน เกมนี้พวกเขาจะไม่มี เอแด็ง อาซาร์ ที่มีปัญหากระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบ ขณะที่ แกเร็ธ เบล, ดานี่ เซบาญอส, เฟเด้ บัลเบร์เด้ บาดเจ็บและไม่ฟิตทั้งหมด ข่าวดีเล็กน้อยคือได้ โรดรีโก้, มาเรียโน่ ดิอาซ ฟิตกลับมามีชื่อเป็นตัวสำรอง ส่วนตัวหลักที่เหลือก็ลงสนามปกติ
เบนเซม่า ซัดติดบล็อคโขกซ้ำก็ไม่เข้าเป้า
เริ่มเกมมาเจ้าบ้านได้ทักทายจากจังหวะที่ อเซนซิโอ ได้บอลไปถึงสุดเส้นขวาแล้วตบเข้ามาให้ เบนเซม่า กลางประตูได้วิ่งมาซัดติดบล็อคบอลยังเด้งอยู่หน้าปากประตูเจ้าตัววิ่งมาโขกซ้ำแต่หลุดกรอบออกไป
วินิซิอุส ลองส่องบ้างตรงตัว มักซิมิเลียโน่
จังหวะนี้เป็น วินิซิอุส ได้บอลจาก เมนดี้ หน้ากรอบก่อนจะได้วางเท้าลองซัดด้วยขวาบอลพุ่งเข้ากรอบแต่ยังไปตรงตัว มักซิมิเลียโน่ รับติดมือ
อเซนซิโอ กระชากไปซัดไม่เหลือ! ชุดขาวบุกมานำ 1-0
ทีมเยือนมาได้ประตูขึ้นนำจนได้จากจังหวะที่ โครส แทงให้ อเซนซิโอ ทางฝั่งขวาได้ใช้ความเร็วลากไปถึงในกรอบแล้วกดเองด้วยขวาบอลติดปลายมือ มักซิมิเลียโน่ แต่ยังหลุดเข้ากรอบไปไม่เหลือ
นาโช่ แปจ่อๆ! ชุดขาวนำห่าง 2-0
ทีมเยือนได้ประตูนำห่างจากจังหวะเตะมุมฝั่งซ้าย โครส เล่นสั้นกับ โมดริช แล้วได้บอลคืนมาก่อนจะเลี้ยงมาถึงข้างกลับแล้วจ่ายให้ นาโช่ หน้าเสาแรกสอดมาแปเน้นๆ ผ่านตัว มักซิมิเลียโน่ เข้าไปไม่เหลือ
ดิอาซ สวนมาได้ส่องบอลติดบล็อคออกหลัง
จังหวะนี้เจ้าบ้านได้โอกาสสวนกลับขึ้นมาบอลมาถึง ดิอาซ หน้ากรอบแล้วได้ลองกดด้วยขวาบอลพุ่งแฉลบบล็อคกองหลังกลายเป็นเตะมุม
อเซนซิโอ ซัดเกือบหายแต่โดนสกัดออกจากเส้น!
จังหวะสวนกลับจากแดนตัวเองขึ้นมา 3 คนของเจ้าบ้าน เบนเซม่า ควบมาแล้วเปิดมาถึง อเซนซิโอ วิ่งมาซัดหน้าเสาแรกผ่านตัว มักซิมิเลียโน่ เข้าไปแล้วแต่ยังโดน กีนี่ วิ่งมาสกัดออกจากเส้น
ซัวเรซ ซัดแฉลบหาย! เจ้าบ้านตีไข่แตกไล่มา 2-1
จากหวะที่เหมือนจะไม่มีอะไร โกนาล็องส์ ตัดบอลได้หน้ากรอบแล้วแตะให้ ซัวเรซ ลากเข้าซ้ายแล้วซัดติดบล็อคเปลี่ยนทางเข้าประตูไปเลย คูร์กตัวส์ เสียจังหวะได้แต่มอง
กินี่ เติมเข้ามาซัดบอลเข้าข้างตาข่าย
เริ่มจากจังหวะที่ โกนาล็องส์ ทางซ้ายครอสเข้ามาแล้วเกือบโค้งเข้าประตู คูร์กตัวส์ ต้องพุ่งปัดบอลสุดท้ายมาถึง กินี่ ที่เติมมาสุดเส้นขวาได้ซัดมุมแคบแต่บอลเข้าหน้าต่าง
เบนเซม่า ได้ซัดหักข้อแต่ มักซิมิเลียโน่ ยังพุ่งปัดไว้ได้
จังหวะนี้ เบนเซม่า หน้ากรอบฝั่งซ้ายพลิกแล้วลากบอลเข้าไปในกรอบก่อนจะพลิกยิงด้วยขวาไปเสาซ้ายแต่ มักซิมิเลียโน่ ก็ยังพุ่งปัดไว้ได้ทัน
การ์บาฆาล เติมมาส่องเองบอลหลุดเสา
เริ่มครึ่งหลังมาทีมเยือนได้ลุ้นจากจังหวะที่ โครส หน้ากรอบแตะบอลให้ การ์บาฆาล ที่เติมมาทางขวาได้ซัดด้วยขวาเน้นๆบอลพุ่งหลุดเสาซ้ายออกไปไม่เยอะ
โครส วิ่งมาส่องบอลเฉียดคานนิดเดียว
จังหวะที่ เบนเซม่า พาบอลลากจี้เข้ามาในกรอบทางขวาก่อนจะตบมาให้ โครส ตรงหัวกระโหลกได้วิ่งมาส่องด้วยขวาเต็มๆบอลพุ่งเฉียดสามเหลี่ยมขวาออกไปนิดเดียว
เมนดี้ ลากตัดมาซัดเองบอลไม่เข้าเป้า
จังหวะนี้เป็น เมนดี้ เติมมาทางซ้ายก่อนจะลากบอลมาเองถึงในกรอบตรงกลางแล้วล้มตัวซัดด้วยขวาบอลสุดท้ายแป๊กหลุดเสาขวาออกไป
วินิซิอุส จิ้มโล่งๆ! ชุดขาวนำห่างอีกหน 3-1
จากจังหวะที่ เบนเซม่า หลุดมาตั้งแต่กลางสนามถึงในกรอบฝั่งขวาก่อนจะแทงมาให้ โมดริช เสาไกลไม่ยิงแต่ตบเข้ากลางให้ วินิซิอุส เติมมาชาร์จโล่งๆเข้าไปไม่เหลือ
ซัวเรซ ได้หวดเต็มข้อบอลหลุดกรอบไปไกล
จังหวะนี้ ซัวเรซ ได้บอลทางฝั่งซ้ายก่อนจะลากตัดเข้ามาซัดด้วยขวาเต็มข้อกลางประตูแต่บอลยังแรงพุ่งข้ามคานออกไปไม่ได้ลุ้น
เจ้าบ้านเหลือ 10 คน! มอนชู โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม
เจ้าบ้านมาเหลือ 10 คน จากจังหวะที่ มอนชู วิ่งมาเสียบ วินิซิอุส แบบไม่มีบอลเต็มๆ ผู้ตัดสินตัดสินใจแจกเป็นใบแดงโดยตรงไล่ออกจากสนามไปเลย แถม โรเบิร์ต โมเรโน่ กุนซือเจ้าบ้านยังโวยวายจนโดนใบแดงไปอีกคน
วินิซิอุส ซัดโล่งๆเข้าซอง มักซิมิเลียโน่
จังหวะสวนเร็วขึ้นมาของทีมเยือน เมนดี้ เติมมาทางซ้ายแล้วเปิดเข้ามาให้ เบนเซม่า ในกรอบโขกย้อนให้ วินิซิอุส วิ่งมาซัดเต็มๆบอลยังไปตรงตัว มักซิมิเลียโน่
เบนเซม่า พลิกยังในกรอบบอลแฉลบออหลัง
โรดริโก้ จังหวะนี้ตอกส้นในกรอบให้ เบนเซม่า ตรงกลางได้พลิกบอลอย่างสวยแล้วแตะไปซัดด้วยขวาบอลสุดท้ายยังแฉลบบล็อคออกหลังเป็นเตะมุม
เมนดี้ สอดไปซัดนิ่มๆ! เจ้าบ้านนำห่างไปอีก 4-1
ทีมเยือนมาได้ประตูนำห่างอีกจากจังหวะที่ คาเซมิโร่ แทงบอลให้ เมนดี้ สอดเข้าไปในกรอบฝั่งซ้ายก่อนจะได้หลุดไปซัดนิ่มๆผ่าน มักซิมิเลียโน่ เข้าไปไม่เหลือ
ทีมเยือนเริ่มปิดเกมไม่เร่งเอาประตูเพิ่ม
ช่วงท้ายเกมทีมเยือนนำขาดแล้วเริ่มเปลี่ยนตัวหลักออกไปพักหมด เริ่มครองเกมไม่เร่งจังหวะเอาประตูเพิ่มรอปิดเกม
โมลิน่า โขกเกือบหาย คูร์กตัวส์ ปัดปลายมือ
จากจังหวะที่ เอสคูเดโร พาบอลขึ้นมาทางซ้ายแล้วเปิดเข้ามาให้ โมลิน่า ขึ้นโขกกลางประตูเต็มเกือบเสียบคานแต่ คูร์กตัวส์ ยังกระโดดปัดออกไปได้ทัน
จบเกม ชุดขาว บุกสอย กรานาด้า 4-1 คืนจ่าฝูง
เรอัล มาดริด บุกมาเอาชนะ กรานาด้า 4-1 เก็บเพิ่มเป็น 30 แต้ม กลับขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงอีกครั้ง ก่อนจะไปเล่นเกมแชมเปี้ยนส์ลีก กับ เชริฟฟ์
เรอัล มาดริด
Starting Formation: 4-3-3
4.
ดาวิด อลาบา

83'
7
10.
ลูก้า โมดริช

79'
7.5
8.
โทนี่ โครส

80'
8.5
9.
คาริม เบนเซม่า

79'
7.5
20.
วินิซิอุส จูเนียร์

72'
8
ตัวสำรอง
5.
เฆซุส บาเญโฆ่

83'
-
16.
ลูก้า โยวิช

79'
-
21.
โรดริโก้

72'
6.5
22.
อิสโก้

79'
-
25.
เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า

80'
-
แก้ไขล่าสุดโดย Salinger เมื่อ Mon Nov 22, 2021 00:14, ทั้งหมด 11 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ