เคน 4 ตุง! สมิธ โรวก็ยิง 'สิงโต' ไร้ปราณีถล่มสมัน 10-0 ไปบอลโลก
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
ยิ่งดูยิ่งน่าเห็นใจซานมาริโน่ ต้องก้มไปเก็บบอลที่ก้นตาข่ายครั้งแล้วครั้งเล่าเบ็ดเสร็จ โดนอังกฤษ บุกมาถล่มแหลก 10-0 โดย แฮร์รี่ เคน ยิงไม่เลี้ยงคนเดียว 4 เม็ด ขณะที่เอมิล สมิธ โรวที่เป็นตัวจริงก็มีชื่อขึ้นสกอร์บอร์ดด้วย พร้อมคว้าสิทธิ์ไปเตะเวิลด์ คัพ 2022 รอบสุดท้ายตามความคาดหมาย
ซานมาริโน่
Starting Formation: 3-5-2
5.
ลอเรนโซ่ ลูนาได

73'
4
2.
อเลสซานโดร ดิแอดดาริโอ

46'
5
7.
ฟาบิโอ โทมาสซินี่

46'
5
20.
อดอลโฟ่ เฮิร์สช์

46'
5
ตัวสำรอง
3.
ลูก้า เซนโซนี่

46'
5
17.
อเลสซานโดร กอลินุชชี่

46'
5
10.
มัตเตโอ วิตาอิโอลี่

46'
5
13.
อันเดรีย กรานโดนี่

73'
6
ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก กลุ่มไอ
สนาม Stadio Olimpico di Serravalle
จันทร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2564
กรรมการ ราเด้ โอเบรโนวิช
ซานมาริโน่
0
10
อังกฤษ
0-1 แฮร์รี่ แม็คไกวร์ 6'
0-2 ฟิลิปโป้ แฟบบรี้ 15' (Og.)
0-3 แฮร์รี่ เคน 26' (Pen.)
0-4 แฮร์รี่ เคน 31'
0-5 แฮร์รี่ เคน 38' (Pen.)
0-6 แฮร์รี่ เคน 42'
0-7 เอมิล สมิธ โรว 58'
0-8 ไทโรน มิงส์ 69'
0-9 แทมมี่ อับราฮัม 78'
0-10 บูกาโย่ ซาก้า 79'
อังกฤษขอแต้มเดียวเพื่อตั๋วฟุตบอลโลก เกมนี้ใช้สำรองลงสนามเพียบตั้งแต่ อาร่อน แรมส์เดล ในตำแหน่งประตู วิงแบ็คมีอาร์โนลด์ กับซาก้า ลงมาเติมแนวรุก ขณะที่ เอมิล สมิธ โรว ได้ออกสตาร์ตตัวจริงนัดแรก
ไงล่ะ!แม็คไกวร์โขกอีกสิงโตนำไว 1-0
อังกฤษมาได้ประตูขึ้นนำอย่างไว เป็นคอนเนอร์ที่โฟเด้นเปิดบอลมาถึง แม็คไกวร์กระโดดโขกเต็มๆ บอลพุ่งตุงตาข่ายเข้าไป นับเป็นประตูที่ 2 ในรอบ 2 เกมของดาวเตะจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ซาก้าลากยิงแฉลบสิงโตหนี 2-0
ทีมเยือนยังพับสนามบุกต่อไป แล้วมาได้ประตูเพิ่ม เมื่อซาก้าลากบอลขึ้นมาทางซ้ายก่อนตัดกลับมาแล้วยิงด้วยขวาบอลไปแฉลบบล็อคกองหลังก่อนสุดท้ายโดนแฟบบรี้เปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเอง 2-0!!!
VAR แจกโทษ!เคนยิงไม่พลาด 3-0
อังกฤษ ยังพับสนามบุกฝ่ายเดียว ซาก้า ครอสบอลจากทางซ้ายเข้ามาหน้ากรอบเขตโทษแล้วเป็น โฟเด้นกระโดดวอลเล่ย์ฟาดเต็มๆ แต่บอลหลุดออกหลังไป แล้วมีการเช็คจุดโทษเพราะบอลไปโดนมือกองหลังก่อนกรรมการให้เป็นจุดโทษ โดยเป็น เคน ยิงเข้าไป 3-0!!!
ซาก้ายิงตามน้ำตรงตัวโกล
โฟเด้นได้บอลกลางสนามก่อนตัดไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายที่มี ซาก้าพยายามโฉบเข้าหาบอลก่อนยิงแบบไม่จับแต่บอลไปตรงตัวของเบเนเดตตินี่
สมิธ โรวเปิด!เคนซัดเข้ามุม 4-0
อังกฤษมาได้ประตูเพิ่มอีกจากการต่อบอลไปเรื่อยๆ แล้วสมิธ โรวเปิดบอลทางซ้ายมาที่จุดโทษก่อนเป็นเคน ยิงด้วยซ้ายแบบไม่จับบอลค่อยๆ เข้าไปที่มุมประตูด้านขวา 4-0!!!
เคนแฮตทริก!สิงโตยิงยับ 5-0
สิงโตคำราม มาได้จุดโทษอีกลูก ซาก้าลากไปสุดเส้นหลังแล้วเปิดกลับมา เคนพุ่งมาโขกบอลไปโดนแขนของดิแอดดาริโอ กรรมการเป่าทันทีแล้วเป็น เคนยิงเต็มข้อเสยตาข่ายเข้าไป 5-0!!! นับเป็นแฮตทริกของเขาในเกมนี้ด้วย
เคนลากยิงอีกเม็ด 6-0
เทรนท์พยายามลากบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษแต่โดนสกัดแล้วบอลมาเข้าทางของเคน ลากมาต่อก่อนดึงหนีกองหลังนิ่มๆ แล้วยิงด้วยขวาเข้าไปง่ายๆ 6-0!!!
กัลลาเกอร์ได้เดบิวต์
เซาธ์เกตเปลี่ยนสำรองลงมา 3 คนเลย แทมมี่ อับราฮัม, คอเนอร์ กัลลาเกอร์ และเบน ชิลเวลล์ ได้ยืดเส้นยืดสายแทนโฟเด้น, ฟิลลิปส์ และแม็คไกวร์
เคนจ่ายแทมมี่ชิพข้ามคาน
แทมมี่ได้บอลจากเคนเข้าไปในกรอบเขตโทษแล้วพยายามยิงชิพให้ข้ามโกลที่ออกมาขวางเอาไว้แต่บอลแรงไปข้ามคานออกไปไม่ได้ลุ้นอะไร
แทมมี่แต่งให้!สมิธ โรวลูกแรกทีมชาติ 7-0
สมิธ โรวยิงประตูแรกในนามทีมชาติได้แล้ว เทรนท์ขึ้นมาทางขวาก่อนเปิดเรียดมาให้ แทมมี่สะกิดเปลี่ยนทางให้ดาวรุ่งของอาร์เซน่อลวิ่งเข้ามาแปด้วยขวาไม่เหลือ 7-0!!!
กัลลาเกอร์แปตรงตัวโกล
กัลลาเกอร์เกือบได้ทำประตุเหมือนกัน เป็นทางชิลเวลล์หยอดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษแต่กัลลาเกอร์ดันแปคืนโกลไปเสียอย่างงั้น
มิงส์โขกเช็ดคาน 8-0
ฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษของอังกฤษ เป็นทางเทรนท์ครอสบอลเข้าไปให้ มิงส์กระโดดโขกบอลข้ามมือโกลก่อนเสียบใต้คานเข้าไปอย่างสวยงาม 8-0!!!
น้องจู้ดยิงโดน VAR ยึดคืน
สกอร์ไหลไม่หยุด คราวนี้กัลลาเกอร์ยิงไปชนเสาแล้วบอลไปถึง เทรนท์เปิดมากองหลังโหม่งมาเข้าทางของเบลลิงแฮมจับก่อนตะบันเต็มข้อด้วยขวาตุงตาข่าย 9-0!!! แต่กรรมการยึดกลับเพราะแทมมี่ไปทำฟาวลก่อนนั้นแถมโดนใบเหลืองไปอีก
แทมมี่ตวัดยิงสิงโต 9-0
แต่อังกฤษก็มาได้ประตุเพิ่มอยู่ดี เทรนท์หยอดบอลมาให้ แทมมี่พักบอลลงก่อนตวัดยิงด้วยขวาเข้าไปทางเสาไกลชนิดที่โกลได้แต่ยืนมอง 9-0!!!
เทรนท์เปิดแฮตทริก!ซาก้าโขกจ่อ 10-0
ยังไม่หยุดเท่านี้ สิงโตคำราม เพิ่มประตูอีก เทรนท์คนเดิมยกบอลมาอย่างสวยไปทางเสาไกล ซาก้ากระโดดขึ้นมาโขกง่ายๆ ไม่พลาด 10-0!!!
สิงโตคว้าตั๋วบอลโลก
หมดเวลาการแข่งขัน อังกฤษ บุกมาเอาชนะ ซานมาริโน่ 10-0 พร้อมคว้าแชมป์กลุ่มได้ไปเล่นรอบสุดท้ายฟุตบอลโลกไม่มีอะไรพลิกความคาดหมาย
อังกฤษ
Starting Formation: 3-4-3
4.
แฮร์รี่ แม็คไกวร์

46'
7.5
7.
คัลวิน ฟิลลิปส์

46'
7
2.
เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
9
9.
แฮร์รี่ เคน

63'
10
11.
เอมิล สมิธ โรว

73'
9
10.
ฟิล โฟเด้น

46'
8
ตัวสำรอง
17.
แทมมี่ อับราฮัม

46'
7
18.
คอเนอร์ กัลลาเกอร์

46'
7
14.
รีซ เจมส์

63'
7
16.
จอห์น สโตนส์

73'
6
12.
เบน ชิลเวลล์

46'
6
แก้ไขล่าสุดโดย ZONG'TEEN เมื่อ Tue Nov 16, 2021 04:38, ทั้งหมด 13 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ