จอร์พลาดโทษอีก! "เลี่ยน" เปิดรังเจ๊าสวิส 1-1 ลุ้นแชมป์กลุ่มนัดท้าย
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
อิตาลี จ่าฝูงกลุ่มวันนี้เปิดบ้านเจอกับ สวิตเซอร์แลนด์ และโดนนำตั้งแต่ครึ่งแรกก่อนจะมาตามตีเสมอจากลูกโขกของ โจวานนี่ ดิ โลเรนโซ่ และเกือบจะมีโอกาสชนะจากจุดโทษท้ายเกมแต่เป็น จอร์จินโญ่ ที่เคยยิงพลาดในนัดที่เจอกันหนแรกซัดข้ามคานออกไปอีก ทำให้จบเกมเสมอกันไป 1-1 ทั้งคู่การันตีเพลย์ออฟไปแล้วแต่ต้องไปตัดสินแชมป์กลุ่มนัดสุดท้าย
อิตาลี
Starting Formation: 4-3-3
13.
เอแมร์ซอน

80'
18.
นิโคโล่ บาเรลล่า

69'
5.
มานูเอล โลคาเตลลี่

58'
9.
อันเดรีย เบล็อตติ

58'
10.
โลเรนโซ่ อินซินเญ่

80'
ตัวสำรอง
3.
ดาวิเด้ คาลาเบรีย

80'
6.
ซานโดร โตนาลี่

58'
7.
จาโคโม่ ราสปาโดรี่

80'
11.
โดเมนิโก้ เบราร์ดี้

58'
16.
ไบรอัน คริสตันเต้

69'
ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่มซี
สนาม สตาดิโอ โอลิมปิโก้
ศุกร์ ที่ 12 พฤศจิกายน 2564
กรรมการ แอนโทนี่ เทย์เลอร์
อิตาลี
1
1
สวิตเซอร์แลนด์
1-1 โจวานนี่ ดิ โลเรนโซ่ 36'
อิตาลี ที่นำเป็นจ่าฝูงด้วยผลประตูได้-เสียดีกว่าแค่ 2 ลูก จะได้เปิดบ้านเจอ สวิตเซอร์แลนด์ รองจ่าฝูง แม้ทั้งสองทีมจะการันตีเพลย์ออปแล้วแต่เกมนี้เลยจะเป็นการวัดกันว่าใครมีโอกาสจบตำแหน่งแชมป์กลุ่ม
อิตาลี จะขาดตัวเจ็บไปหลายตำแหน่งทั้ง ชิโร่ อิมโมบิเล่, ลอเรนโซ่ เปลเลกรินี่, นิโกโล่ ซานิโอโล่ และล่าสุด จอร์โจ้ คิเอลลินี่ ที่ต้องถอนตัวออกไป แต่ นิโคโล่ บาเรลล่า ที่เหมือนจะมีปัญหาก่อนหน้านี้ยังกลับมาออกสตาร์ทเป็นตัวจริงได้
ฝั่งทีมเยือนก็ตัวเจ็บเพียบเช่นกัน จะไม่มี เกรกอร์ โคเบล, คริสเตียน ฟาสส์นัคท์, บรีล เอ็มโบโล่, สตีเว่น ซูแบร์, นิโก้ เอลเวดี้ รวมถึง กรานิต ชาก้า และ ฮาริส เซเฟโรวิช ที่บากเจ็บยาว
ชากิรี่ ลากมาส่องทักทายบอลข้ามคาน
เริ่มเกมมาได้นาทีเดียวทีมเยือนได้ทักทายจากจังหวะที่ ชากิรี่ ลากบอลมาเองกลางสนามก่อนจะส่องด้วยซ้ายหน้ากรอบแต่บอลยังแรงเหินข้ามคานออกไป
วิดแมร์ กดทีเดียวหาย! สวิส บุกมานำแล้ว 1-0
เจ้าบ้านบุกอยู่ดีๆโดนสวนทีเดียวกลายเป็นประตู โอคาฟอร์ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางฝั่งซ้ายก่อนจะลากเข้ามาในกรอบแล้วตบไปให้ วิดแมร์ ที่เติมขึ้นมาหน้าหัวกระโหลกได้กดด้วยซ้ายเน้นๆ บอลพุ่งเสียบคาน ดอนนารุมม่า หมดปัญญารับ
โอคาฟอร์ ได้ลากมาปั่นบอลโค้งหลุดเสาอีก
ยังเป็นทีมเยือนได้ลุ้นจากจังหวะสวนกลับอีกคราวนี้ โอคาฟอร์ ได้บอลจาก ชากิรี่ ก่อนจะลากจากทางขวามาถึงหน้ากรอบแล้วปั่นด้วยซ้ายบอลโค้งหลุดเสาไปนิดเดียว
เจ้าบ้าน ตั้งเกมไม่ได้! ชากิรี่ ได้หวดข้ามคาน
เจ้าบ้านก็ยังหาโอกาสเข้าทำไม่ได้แล้วเป็นฝั่งทีมเยือนที่ได้ลุ้นต่อเนื่อง คราวนี้ โอคาฟอร์ ได้บอลในกรอบฝั่งซ้ายก่อนจะล็อคหาช่องจ่ายให้ ชากิรี่ วิ่งมาปั่นด้วยซ้ายแต่บอลยังข้ามคานออกไป
บาเรลล่า ซ้ำโล่งๆติดเซฟ ซอมเมอร์!
โอกาสแรกในเกมของเจ้าบ้านและเกือบได้ประตูตีเสมอ จอร์จินโญ่ วิ่งมาซัดเต็มๆกลางประตูบอลติดบล็อคแล้วเด้งมาเข้าทาง บาเรลล่า หน้าเสาขวาได้ซ้ำโล่งๆแต่จังหวะสุดท้ายดันยิงไปติดเซฟ ซอมเมอร์
เคียซ่า ได้หาช่องปั่นก็ยังไม่ผ่านมือ ซอมเมอร์
จังหวะนี้เป็น เคียซ่า ได้บอลทางซ้ายแล้วหาช่องแตะเข้ามาปั่นด้วยขวาในกรอบบอลสุดท้ายโค้งเข้าประตูแต่ยังไม่ผ่าน ซอมเมอร์ คว้าไว้ติดมือ
ดิ โลเรนโซ่ โขกหาย !เจ้าบ้านตีเสมอจนได้ 1-1
เจ้าบ้านมาได้ประตูตีเสมอจนได้จากจังหวะฟรีคิกนอกกรอบ อินซินเญ่ เปิดเข้ามาตรงกลางให้ ดิ โลเรนโซ่ สอดเข้ามาโขกสวนตัว ซอมเมอร์ เข้าไปไม่เหลือ
โอคาฟอร์ ได้ขึ้นโขกแต่โดนไม่ดี
ท้ายเกมมีจังหวะฟรีคิกนอกกรอบฝั่งซ้ายของทีมเยือน ชากิรี่ เปิดเข้ามาให้ โอคาฟอร์ ได้ขึ้นโขกกลางประตูแต่โดนไม่ค่อยดีบอลตกพื้นโดนสกัดออกมา
ซาคาเรีย ลองกดเองบอลหลุดกรอบ
เริ่มครึ่งหลังมาเกมยังบุกแลกกันเหมือนเดิม จังหวะนี้ทีมเยือนบุกขึ้นมาตรงกลาง ซาคาเรีย ได้บอลหน้ากรอบก่อนจะเลือกซัดเองด้วยขวาแต่บอลยังเบาหลุดเสาซ้ายออกไป
เอแมร์ซอน เติมมาส่องเองบอลข้ามคาน
เจ้าบ้านพยายามโหมบุกเอาประตูแซงนำจังหวะนี้ เอแมร์ซอน เติมขึ้นมาถึงในกรอบฝั่งซ้ายก่อนจะได้กดด้วยซ้ายเต็มๆแต่บอลยังแรงข้ามคานออกไป
โตนาลี่ ได้ขึ้นโขกบอลไม่ตรงกรอบ
จากจังหวะเตะมุมฝั่งขวาของเจ้าบ้าน เบราร์ดี้ เปิดเข้ามาให้ โตนาลี่ ได้ขึ้นโขกที่สองเสาแต่บอลสุดท้ายยังไปเข้าแค่ข้างหน้าต่าง
อินซินเญ่ กดแฉลบเกือบหาย ซอมเมอร์ ยังปัดได้อีก!
จากจังหวะเตะมุมฝั่งซ้ายของเจ้าบ้าน อินซินเญ่ ได้บอลลากมาปั่นด้วยขวาในกรอบบอลแฉลบกองหลังเกือบเปลี่ยนทางเข้าประตูแต่ ซอมเมอร์ ก็ยังล้มตัวเซฟออกมาได้ทัน
เคียซ่า ปั่นเน้นๆก็ยังแรงข้ามคาน
จังหวะนี้ เคียซ่า ได้บอลหน้ากรอบฝั่งซ้ายก่อนจะลากจี้มาแล้วปั่นด้วยขวาบอลสุดท้ายก็ยังแรงเหินข้ามคานออกไปไม่ได้ลุ้น
เจ้าบ้านได้จุดโทษแต่ จอร์จินโญ่ ซัดพลาด!
ท้ายเกมมีจังหวะที่ การ์เซีย ไปผลัก เบราร์ดี้ ล้มในเขตโทษผู้ตัดสินไปเช็ค VAR แล้วให้เป็นจุดโทษทันทีสุดท้ายเป็น จอร์จินโญ่ คนเดิมที่ยิงจุดโทษพลาดข้ามคานออกไปพลาดโอกาสขึ้นนำ
จบเกมเสมอกันไป 1-1 ลุ้นแชมป์กลุ่มนัดสุดท้าย
อิตาลี เปิดบ้านเสมอ สวิตเซอร์แลนด์ 1-1 ต้องไปตัดสินแชมป์กลุ่มกันนัดสุดท้าย อิตาลี ได้ไปเยือน ไอร์แลนด์เหนือ ส่วนรองจ่าฝูงจะได้เล่นในบ้านเจอ บัลแกเรีย
สวิตเซอร์แลนด์
Starting Formation: 4-2-3-1
13.
ริคาร์โด้ โรดริเกซ

69'
11.
เรนาโต้ สเตฟเฟ่น

69'
23.
เซอร์ดาน ชากิรี่

79'
17.
รูเบน วาร์กัส

86'
9.
โนอาห์ โอคาฟอร์

79'
ตัวสำรอง
4.
ฟาเบียน ฟราย

79'
7.
แอนดี้ เซกิรี่

86'
15.
ฌิบริล ซอว์

79'
16.
คาสติออต อิเมรี

69'
20.
อูลิสเซส การ์เซีย

69'
แก้ไขล่าสุดโดย Salinger เมื่อ Sat Nov 13, 2021 06:51, ทั้งหมด 17 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ