'ซาเน่,มุลเลอร์' ควงเบิ้ล!! อินทรียิงไม่ยั้งสมัน 10 ตัวไส้ไหล 9-0
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
เยอรมนี เหนือกว่าเยอะอยู่แล้วแต่การที่ ลิคเท่นสไตน์ มาเหลือนักเตะเพียงแค่ 10 คนตั้งแต่ช่วงต้นเกมกลายเป็นเปิดโอกาสให้ อินทรีเหล็ก เดินหน้าบุกไม่ยั้งกวาดชัยชนะแบบท่วมท้น 9-0 โดยมี เลรอย ซาเน่ กับ โธมัส มุลเลอร์ ควงกันยิงเบิ้ลพาทีมเก็บแต้มเพิ่มเป็น 24 คะแนน
เยอรมนี
Starting Formation: 4-2-3-1
5.
ธิโล เคห์เรอร์

72'
18.
โยนาส ฮอฟมันน์

45'
21.
อิลคาย กุนโดกาน

64'
8.
เลออน โกเร็ทซ์ก้า

45'
19.
เลรอย ซาเน่

64'
ตัวสำรอง
4.
มัตธิอัส กินเตอร์

72'
17.
ฟลอเรียน นอยเฮาส์

45'
16.
ลูคัส เมช่า

45'
14.
มักซิมิเลียน อาร์โนลด์

64'
9.
เควิน โฟลลันด์

64'
ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม เจ
สนาม โฟลค์สวาเก้น อารีน่า
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2564
กรรมการ อิวาน่า มาร์ตินซิช
เยอรมนี
9
0
ลิคเท่นสไตน์
1-0 กุนโดกาน 11' (Pen.)
2-0 เคาฟ์มันน์ 20' (Og.)
3-0 ซาเน่ 22'
4-0 รอยส์ 23'
5-0 ซาเน่ 49'
6-0 มุลเลอร์ 76'
7-0 บาคู 80'
8-0 มุลเลอร์ 86'
9-0 กอปเปิล 89' (Og.)
เยอรมนี เข้ารอบไปแล้วและเกมนี้ขาดนักเตะจาก บาเยิร์น ไปหลายคนเพราะการกักตัว แต่ก็ยังจัดนักเตะถือว่าชุดใหญ่ลงสนามนำมา
ลิคเท่นสไตน์ เปลี่ยนไลน์อัพจากเกมล่าสุดบางตำแหน่งโดยให้ เคาฟ์มันน์ ลงคุมหลังและแดนหน้าให้ ซาลาโนวิช เป็นตัวจริง
ใบแดงด้วย! อินทรีได้จุดโทษ กุนโดกาน ยิงนำ
เยอรมนี มาได้จุดโทษเข้าตั้งแต่ต้นเกมกับจังหวะที่ โกเร็ทซ์ก้า พยายามมาพักบอลในเขตโทษแล้วโดน โฮเฟอร์ ยกขาเปิดปุ่มยันเข้าไปเต็มหน้าฝากแผลไว้ด้วย กรรมการชี้ทันทีพร้อมแจกใบแดงให้ โฮเฟอร์
กุนโดกาน เป็นผู้รับหน้าที่สังหารและก็ไม่พลาดพา เยอรมนี ออกนำ 1-0
บาคู จ่ายถึง รอยส์ ยิงไปโดนเซฟ
โอกาสของ เยอรมนี มากันอีกครั้งด้วยการจ่ายให้ บาคู ทางขวาก่อนจ่ายเรียดเข้าเขตโทษให้ รอยส์ จับบอลก่อนยิงอัดเสาแรกแต่โดนเซฟออกหลัง
ซาเน่ โหม่งชงให้ บาคู ยิงไปยังไม่ผ่านเซฟ
เยอรมนี ยังหาโอกาสลุ้นได้เรื่อยๆจังหวะนี้เป็นการตักบอลเข้าเขตโทษให้ ซาเน่ โหม่งตั้งมาที่ บาคู พักอกก่อนจะซัดเลยส่งบอลไปโดนเซฟ
ยังไม่สอง! มุลเลอร์ เปิดถึง กุนโดกาน โหม่งชนคาน
เกือบมีประตูเพิ่มให้ เยอรมนี แล้วด้วยจังหวะออกบอลมาทางขวา ฮอฟมันน์ จ่ายให้ มุลเลอร์ ก่อนรับบอลคืนมาแล้วเปิดเข้าไปแถวเสาสองมี กุนโดกาน โหม่งได้แต่ชนคานออกหลัง
ลิคเท่นสไตน์แจกโชค! เคาฟ์มันน์ สกัดเข้าประตูตัวเอง
แล้ว เยอรมนี ยังบุกต่อไปจนมีประตูเพิ่มสำเร็จ หลังบอลถูกสกัดออกมา ซาเน่ ส่งต่อให้กับ กุนเตอร์ ทางซ้ายเปิดเรียดมาหน้าประตูแล้ว เคาฟ์มันน์ ทิ้งตัวสกัดแต่กลายเป็นการส่งบอลเข้าประตูตัวเอง เยอรมนี นำ 2-0
มาอีกลูก! โกเร็ทส์ก้า เบิ้ลให้ ซาเน่ ทะลุไปยิงตุงสาม
เท่านั้นไม่พอ เยอรมนี มาเอาประตูเพิ่มไปอีกลูกด้วยการเข้าทำง่ายๆที่ รอยส์ จ่ายให้ โกเร็ทส์ก้า หน้าเขตโทษเบิ้ลตามช่องให้ ซาเน่ สอดมาสวยก่อนยิงเสียบเสาไกลพา เยอรมนี นำสบายๆ 3-0
ไหลเลย! บอลเด้งเข้าทาง รอยส์ ยิงนิ่มๆไม่เหลือ
แล้วสกอร์ยังคงไหลไม่หยุด อินทรีเหล็ก มาบวกได้อีกตุงนึง หลังจากจ่ายออกขวามาให้ มุลเลอร์ ชิพเข้าเขตโทษมาให้ ซาเน่ ก้มหลบปล่อยบอลโดน บูเคิล ที่ออกมาตัดบอลเด้งเข้าทาง รอยส์ เลยซ้ำเข้าไปง่ายๆกลายเป็น 4-0
มุลเลอร์ เปิดให้ ซาเน่ โหม่งได้ยังออกหลัง
เยอรมนี ตัวเยอะกว่าแบบนี้เล่นสบายๆพยายามต่อบอลหาช่องเข้าทำไปเรื่อย ก่อนมาได้โอกาสที่ฝาก มุลเลอร์ ทางซ้ายแล้วครอสเข้ามาในเขตโทษให้ ซาเน่ โหม่งกดลงพื้นแต่ยังออกหลัง
ไม่ห้า! กุนเตอร์ ปาดถึง กุนโกาน ยิงเฉี่ยวเสา
หวิดมีประตูเพิ่มให้กับ เยอรมนี อีกแล้วหลังจากบอลจ่ายให้ กุนเตอร์ สอดขึ้นมาทางซ้ายแล้วปาดเรียดมาหน้าประตูบอลหลุดถึง กุนโดกาน ยิงเฉี่ยวเสาหน่อยเดียว
อินทรีเดินหน้าต่อ กุนโดกาน,โกเร็ทซ์ก้า ยิงยังออกหลัง
เข้าท้ายครึ่งแรกแล้ว เยอรมนี ยังเดินหน้าไม่หยุดมีอีกสองจังหวะที่ได้ลุ้นทั้งการยิงของ กุนโดกาน ในเขตโทษที่พุ่งหลุดกรอบ ก่อนต่อด้วยจังหวะซัดไกลของ โกเร็ทซ์ก้า ที่ออกหลังเช่นกัน
มาอีกลูก! รอยส์ ปาดถึง ซาเน่ กดลูกห้าให้อินทรี
กลับมาครึ่งหลัง เยอรมนี ลุยใส่ทันทีและก็เอาประตูบวกเพิ่มไปอีกลูกจากจังหวะยิงติดบล็อกในเขตโทษเข้าทาง รอยส์ ปาดเข้ามาอีกเสา ซาเน่ ยิงได้ผ่าน มุลเลอร์ที่ปล่อยลอดขาเข้าประตูไป VAR เช็คแล้ว มุลเลอร์ ไม่ล้ำหน้าด้วยทำให้ เยอรมนี นำเพิ่ม 5-0
เกือบเปิดซิง! เมช่า ยิงไปชนเสาเต็มๆ
หวิดเป็นประตูเพิ่มให้กับ เยอรมนี แล้วด้วยจังหวะที่ตักเข้าไปในเขตโทษบอลเด้งไปมา มุลเลอร์ จะชาร์จก็ไม่ได้ถูกสกัดเข้าทาง เมช่า ได้ยิงก็ส่งบอลชนเสาอีก เกือบได้เปิดซิงในการประเดิมสนามเกมแรกกับทีมชาติ
ซาเน่ ลุ้นแฮตทริกแต่ยิงติดเซฟสองหนรวด
ซาเน่ ได้ลุ้นกดแฮตทริกด้วยกับการเข้าทำที่จ่ายให้ เมช่า หน้าเขตโทษเบิ้ลต่อมี ซาเน่ หลุดมามุมแคบทางซ้ายยิงทีแรกไม่ผ่ารน บอลเด้งกลับมาหาซัดอีกทีก็นติดเซฟ บูเคิล เหมือนเดิม
ยังไม่ได้! เมช่า ได้สะกิดส่งบอลหลุดเสาสอง
เยอรมนี ยังเกือบไปเกือบมาไม่ได้ประตูเพิ่่ม หลังตักให้ บาคู สอดเข้าเขตโทษทางขวาแล้วจ่ายเข้ามาตรงกลาง รอยส์ จับบอลแล้วโหม่งเสยมาถึง เมช่า ได้สะกิดแต่บอลมันค่อยๆกระดอนหลุดเสาสองไปหน่อย
อินทรียังมาเรื่อยๆขาดประตูเพิ่ม
ยังเป็นทาง อินทรีเหล็ก ที่บุกไปเรื่อยๆเพื่เอาประตูเพิ่มแต่ก็ยังไม่ได้ลูกหกสักที จากจังหวะเตะมุมทางซ้าย อาร์โนลด์ เปิดมาเสาแรก เมช่า พยายามโหม่งก็ออกหลังไปอีก
มาจนได้! เตะมุมโหม่งจนเข้าทาง มุลเลอร์ ยิงหลาเดียวสบายๆ
และแล้ว เยอรมนี ก็มาเอาเพิ่มไปอีกลูกสำเร็จ กับเตะมุมทางซ้ายหนนี้เปิดมาเสาแรก กินเตอร์ โหม่งไปโดนบล็อกเข้าทาง นอยเฮาส์ โหม่งอีกทีถึง มุลเลอร์ ยิงระยะหลาเดียวเข้าประตูกลายเป็น 6-0
ยิงงาม! บาคู เปิดซิงปั่นโค้งๆชนสามเหลี่ยมเสาไกลเข้า
ได้ลูกหกแล้วก็ต่อด้วยประตูที่เจ็ดเลย หลังแย่งบอลกลับมาหน้าเขตโทษแล้ว รอยส์ จ่ายให้ บาคู ในเขตโทษทางขวาล็อกเข้าซ้ายก่อนยิงโค้งๆชนสามเหลี่ยมเสาไกลเข้าไปอย่างงดงาม เยอรมนี นำ 7-0
ยังไม่หมด! รอยส์ ยิงเด้งหา มุลเลอร์ ยิงแฉลบยังเข้าประตู
ท้ายเกม เยอรมนี ยังบุกไม่เลิกแล้วก็ได้มาอีกลูกนึง กับการชิ่งจังหวะเดียวหน้าเขตโทษถึง นอยเฮาส์ พลิกเข้าเขตโทษมาได้ส่งต่อ รอยส์ มายิงมุมแคบติดเซฟสุดท้ายบอลเด้งหา มุลเลอร์ วิ่งมายิงแฉลบยังเข้าประตูเป็น 8-0
สงเคราะห์ให้อีก! กอปเปิล โชคร้ายโหม่งสกัดเข้าประตูตัวเอง
เท่านั้นไม่พอ ลิคเท่นสไตน์ ยังมาดวงอับสงเคราะห์ให้ เยอรมนี ไปอีกลูกนึง เริ่มจาก รูดิเกอร์ จ่ายออกไปทางขวามี บาคู รออยู่เปิดเข้าเขตโทษแล้ว กอปเปิล พยายามโหม่งสกัดแต่กลายเป็นส่งบอลลอยเข้าประตูไปอีกกลายเป็น 9-0
จบเกม เยอรมนี จัดหนักถล่ม ลิคเท่นสไตน์ 10 คนไปถึง 9-0 ทำให้พวกเขาเก็บเพิ่มเป็น 24 แต้มหลังผ่านไป 9 เกมและ ฟลิค ยังคงมีสถิติชนะรวดตั้งแต่เข้ามาคุมทีม
ลิคเท่นสไตน์
Starting Formation: 5-3-2
20.
ซานโดร โวลฟินเกอร์

83'
8.
อารอน เซเล่

83'
7.
ยานิค ฟริค

29'
11.
เดนนิส ซาลาโนวิช

69'
ตัวสำรอง
13.
มาร์ติน บูเคิล

83'
16.
ฟาบิโอ โวลฟินเกอร์

29'

69'
2.
ดาเนียล บรันเดิล

83'
5.
ราฟาเอล กรูเนนเฟลเดอร์

69'
14.
ลิวิโอ ไมเออร์

69'
แก้ไขล่าสุดโดย redenzo เมื่อ Fri Nov 12, 2021 04:52, ทั้งหมด 5 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ