รีวิว House of Ashes สุดยอดเกมจาก The Dark Anthology ที่เหมือนจะดีแต่ก็ไม่สุด
เกม House of Ashes นั้นออกมาเป็นภาค 3 ของซีรีย์ The Dark Anthology Season 1 ถือว่าเป็นอีกหนึ่งซีรีย์ของ Formsoftware ที่โด่งดังพอสมควร โดยเฉพาะ Until Dawn (อันนี้ไม่ได้อยู่ใน The Dark Anthology แต่เป็นจุดเริ่มต้นทำให้เกิดโปรเจคนี้ขึ้นมา)
โดยปัจจุบันซีรีย์ The Dark Anthology มีดังนี้
- Man of Medan – ปริศนาเรือร้างห่างรัก
- Little Hope – หมู่บ้านร้างและแก๊งค์คนเหงา
- House of Ashes – คำว่าบ้านมีอยู่แค่ในชื่อ(มาแค่ต้นเกมกับท้ายเกมแค่นั้น)
โดยในบทความนี้เราจะมารีวิวเกม House of Ashes ว่าตัวเกมจะมีความน่าสนใจอย่างไรคุ้มไหมกับค่าเกม 990 บาท
หมายเหตุ: รีวิวผ่านเครื่อง PlayStation 5
Gameplay 7/10
ยกระบบจากภาคก่อนหน้านี้มาทั้งหมด แทบไม่มีอะไรแตกต่างกันสักเท่าไหร่กับระบบ Butterfly Effect แต่ในภาคนี้รู้สึกระบบ Butterfly Effect จะไม่ได้ส่งผลชัดเจนเหมือนเกมภาคก่อนๆ ไม่ว่าจะเลือกอันไหนสุดท้ายตัวเกมก็จะพาไปที่ ฉากเดิมๆ เหตุการณ์ เดิม เปลี่ยนแค่ใครตายใครอยู่ สุดท้ายแล้วเหตุการณ์ก็จะคล้ายๆ กันไปหมดไม่ได้แตกต่างอะไรกันมากเท่ากับเกม 2 ภาคก่อนหน้านี้ แอบผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้แย่อะไรเท่าไหร่ตัวเลือกดูไม่ได้ซับซ้อนมาก
ความน่ากล้ว 5/10
ถ้าคุณสามารถผ่าน Man of Medan และ Little Hope เกมนี้จะเปรียบกับว่าเป็นสนามเด็กเล่นของคุณไปในทันที แต่ก็ไม่ใช่ความตัวเกมไม่น่ากล้วเลย เพราะว่าในช่วง 1-2 ชั่วโมงแรกของเกมนั้นตัวเกมจะจัดหนักจัดเต็มมาด้วย บรรยากาศสุดกดดัน ไม่รู้ว่าจะโดน Jump Scare มาตอนไหน ได้แต่ลุ้นตลอดเวลา แต่พอผ่านช่วงนั้นไปได้แล้ว บรรยากาศของเกมแทบจะเปลี่ยนไปเลยทีเดียว ไม่เหมือนกับ Man of Medan และ Little Hope ที่พร้อมจะจัดหนักเราทั้งเกมถ้าเทียบกันบรรดาทั้ง 3 ภาคแล้ว ภาคนี้น่ากล้วน้อยที่สุด ขวัญอ่อนก็เล่นได้สบาย
เนื้อเรื่อง 7/10
เนื้อเรื่องนั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของเกมในซีรีย์ The Dark Anthology โดยสำหรับเกม House of Ashes ก็ยังสามารถทำออกมาได้ดีตัวละครมีมิติ พอเราเล่นไปนานๆ เราจะเริ่มรู้สึกผูกพันกับตัวละคร เชียร์คนนี้ให้รอด เชียร์คนนั้นให้ตาย ถึงแม้ว่าช่วงตอนเฉลยปมทั้งหมดของเนื้อเรื่องจะมีคำว่า อิหยังวะ มาในหัวก็ตาม แต่เมื่อเทียบกับสองภาคก่อนหน้านี้นั้นก็ถือว่ายังทำได้ไม่ดีเท่า ยังไม่รู้สึกสร้างอิมแพคให้กับตัวผู้เล่นสักเท่าไหร่ มีแต่ความรู้สึกแค่ว่า เห้อรอดแล้ว แค่นั้น มีเพียงแค่นี้เลย ปมตัวละครบางอย่างก็จบได้แบบว่า อ้าวแค่เนี่ย!
ภาพ 8/10
นี้คือสิ่งเดียวที่สามารถทำได้ดีกว่า 2 ภาคก่อนหน้านี้โดยทั้งในเรื่องแสงและเงารวมไปถึงเฟรมเรทของตัวเกมทำออกมาได้อย่างสมูทลื่นไหล แต่ด้วยความที่เกมนี้พื้นที่ส่วนใหญ่จะอยู่กับในถ้ำ เรื่องแสดงและเงาจึงเป็นเรื่องสำคัญ และทางทีมงานก็ทำออกมาได้เป็นอย่างดี ถ้าจะมีจุดที่ต้องติ ก็คงมีเพียงเล็กน้อยนั้นก็คือช่วงท้ายเกมเอฟเฟคดู เฟค ไปนิดหน่อยแค่นั้นเลย ที่เหลือนอกจากนั้นสามารถทำออกมาได้สุดยอด
สรุป 7.5/10
ยังถือว่า สามารถทำได้ดีกับ House of Ashes แต่ก็ยังดีไม่สุด หลายๆ ประเด็นของตัวละครสามารถขยายไปได้มากกว่านี้ ตัวเนื้อเรื่องก็ยังไม่สุด ดูแล้วไม่สุดสักทาง เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับภาคก่อนหน้านี้ แต่สิ่งหนึ่งที่ทำได้ดีกว่าคงมีเพียงภาพในเกมที่ทำออกมาได้อย่างสวยงาม สำหรับใครที่ไม่ชอบแนว Jump Scare หนักๆ เกมนี้อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียว เนื้อเรื่องสนุก น่าติดตาม เล่นเพลินๆ และตัวเกมไม่นานด้วยเพียง 5-6 ชั่วโมงก็สามารถเล่นจบได้แล้ว