คุณอุ๊งอิ๊งค์สมัยเรียนจุฬา
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสิ่งที่ "อุ๊งอิ๊งค์ - แพทองธาร ชินวัตร" ต้องเจอ เมื่อตอนเข้าเรียนที่จุฬาฯ ถูกบันทึกไว้ในหนังสือเล่มนี้
คนอื่นเรียกนายกฯ แต่เราเรียก..พ่อ" เรียบเรียงจากบทสัมภาษณ์ลูกทั้งสามคนของ ดร.ทักษิณ พิมพ์ในปี 2552
หลังสอบเข้าคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯได้ อุ๊งอิ๊งค์ ต้องเผชิญกับแรงต้านจากเพื่อนรุ่มคณะเดียวกันบางคน โดนรับน้องโดยคนรุ่นเดียวกันตั้งแต่วันแรกๆ
วันเปิดถ้ำสิงห์ ทุกคนมารวมกัน อิ๊งไปนั่งหลังๆ คือรู้ตัวว่าเด่นพอแล้ว นักข่าวมาทุกวัน อิ๊งไม่อยากให้ใครมาชี้ว่าคนนี้ๆ เลยไปนั่งหลังๆ ที่มืดๆ
แพทองธารเล่าว่า พอนั่งกันเรียบร้อย อาจารย์มาบรีฟว่าจะเตรียมการสอนอย่างนี้ๆ มีเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งยกมือขึ้นมาพูดว่า
ได้ยินข่าวมาค่ะว่ามีนักเรียนบางคนในที่นี้ที่เข้ามาเรียนโดยไม่สุจริต แล้วทราบว่าอาจารย์รัฐศาสตร์จะรวมตัวกันไม่สอน จริงหรือเปล่าคะ
อิ๊งนี่เย็นตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่ก็เงียบไม่มีปฏิกิริยาอะไร แต่ใจจริงตอนนั้นไม่โอเคเลย โกรธมาก แต่ไม่เป็นไร เงียบ อาจารย์ก็ต้องตอบว่าไม่มีครับ พอออกมานอกห้องเพื่อนใหม่คนนั้นเดินมาหาอิ๊งแล้วก็พูดว่า
"เธอ เธอ เราไม่ได้พูดถึงเธอนะ" แต่น้ำเสียงเยาะเย้ย อิ๊งก็เออๆ ไม่อยากมีเรื่อง
ปี 1 เทอม 1 อิ๊งเรียนห้องเดิม นักเรียนเกินร้อยคน อาจารย์คนหนึ่ง พูดขึ้นมาว่า
"อุ๊งอิ๊งอยู่ไหนอุ๊งอิ๊ง" อิ๊งก็ยกมืออยู่นี่ค่ะ "ไหนคุณลองยืนขึ้นหน่อยซิ"
อจ:คุณไปทำงานร้านแมคฯมาใช่ไหม แมคฯมีทั้งหมดกี่แบบ
อิ๊ง:7-8 แบบค่ะ
อจ:เหรอ โอเค นั่งลงได้ แสดงว่าไปทำมาจริงๆไม่ใช่สร้างภาพ
เรื่องทำร้ายจิตใจอิ๊งมีเยอะมากตอนเป็นนิสิตรัฐศาสตร์จุฬาฯ มีวันหนึ่งอาจารย์พูดกระทบในห้อง ว่าพ่ออิ๊งเอาหวยบนดินขึ้นมาไม่ดี ตั้งใจว่าพ่อต่อหน้าลูก โดยไม่คิดว่ามันเกินไปหรือไม่ ตอนนั้นอิ๊งยังเด็กเกินไป
"อิ๊งทนไม่ได้ พ่อคือชีวิตนะ เหมือนทุกคนที่มีพ่อแม่ใช่ไหมคะ อิ๊งรู้สึกโกรธเวลาอาจารย์ว่าพ่อ ตอนนั้นปี 1 ยังเป็นเด็ก ชักสีหน้า เขาบอกว่า
"นี่เธอถ้าไม่พอใจก็ออกไปเลยนะ"
อิ๊งออกไป อิ๊งไม่ได้ไปไหน เข้าไปนั่งในรถแล้วร้องไห้ ทำไมต้องฝากเราไปถึงพ่อ เขียนจดหมายเข้ารัฐบาลสิ"
ดร.ทักษิณ เคยถามลูกสาวว่าจะลาออกไหม ถ้าทนแรงกดดันไม่ไหว"มีอยู่ครั้งหนึ่งอิ๊งเล่าปัญหาให้แม่ฟัง พ่อได้ยินพอดี เดินมาจับตัวอิ๊งบอกว่า
"อดทนหน่อยนะลูก แย่จังนะเกิดเป็นลูกพ่อ"
ฟังแล้วเศร้ามาก เลยเป็นจุดพลิกตัวเองว่า "อิ๊งจะไม่ยอมเสียน้ำตาให้คนอื่นอีก แล้วก็ไม่เสียน้ำตาอีกเลย"
"อจ.ส่วนใหญ่ที่จุฬาดีกับอิ๊งมาก ตอนจะขึ้นปี 3 มี 2 สาขาให้เลือกคือพัฒนาบุคคลกับวิจัย อิ๊งอยากเรียนวิจัย เพราะลึกกว่าพัฒนาบุคคล เหมือนเราอ่านอนาคต อจ.ทปษ.ซึ่งดีกับอิ๊งมาก แนะนำว่า หนูเรียนบุคคลดีไหมคะ จริงๆเพราะท่านรู้ว่า อจ.วิจัยบางคนแบนพ่อ อิ๊งเรียนพัฒนาบุคคลมีความสุขกว่า"
"วันนั้นก็เป็นวันที่เศร้าอีกวันหนึ่ง ไม่ได้เศร้าเพราะใคร เศร้าเพราะคิดว่าทำไมต้องเป็นอย่างนี้นะ ทำไมเราไม่ได้เรียนในสิ่งที่ต้องการนะ เป็นอีกเรื่องที่อิ๊งโทรไปร้องไห้กับพี่เอมที่อังกฤษ อิ๊งอยากเรียนวิจัยแต่เรียนไม่ได้"
"มีเรื่องใจร้ายอีกเยอะ ตอนเรียนสังคมเกี่ยวกับนักวิทยาศาสตร์คนเก่าๆ ที่ให้แนวคิดทางรัฐศาสตร์ ไม่มีอะไรเกี่ยวกับการเมืองเลย เพื่อนเปิดสไลด์ทำ PWP
ตอนที่พาวเวอร์พอยต์เปลี่ยน แว้บขึ้นมาเป็นรูปหน้าพ่อแล้วกาสีแดงทิ้งทั้งหน้า แว้บแล้วเปลี่ยนเป็นสไลด์เค้า อย่างนี้ 20 กว่าสไลด์"
"มีอีกครั้งหนึ่ง เพื่อนอิ๊งเขียนโปสเตอร์ว่าพ่อขายชาติ ทำป้ายผ้าใหญ่ๆ ค่ะเขียนว่า 'ทักษิณขายชาติ' แล้วเขียนว่า 'คนขายบะหมี่ยังจ่าย tax แต่นายกฯไม่จ่าย' แล้วถือป้ายเดินผ่านอิ๊ง แล้วเอามาล้อมคณะอิ๊ง วาดรูปพ่อแล้วกากบาททิ้ง"
อิ๊งเดินผ่านทุกวันอิ๊งไม่มองเลย ก้มหน้า พูดแบบแฟร์สำหรับเค้า รัฐศาสตร์ต้องแสดงความเห็นทางการเมือง ไปบอกให้เอาป้ายลง ไปบอกเขาว่า ว่าพ่อฉันทำไม ทำไม่ได้ เป็นการแสดงสิทธิ แต่อิ๊งเจ็บ"มีครั้งหนึ่งที่เป็นข่าว อยู่ปี 3 ยังเจอ อจ.บางคนไม่ชอบพ่อ ตอนนั้นเขาสอนๆ เหลือบตามามองอิ๊ง ถามว่า
'ยังอยู่อีกเหรอ'
อิ๊งยิ้มตอบไปว่ายัง 'อยู่ค่ะอาจารย์' เขายืนกอดอกบอกว่า
'นึกว่าจะหมดทุกข์หมดโศกกันแล้ว'
มาหมดทุกข์หมดโศกอะไรกับอิ๊ง อิ๊งไปทำอะไรให้" "หลังปฏิวัติปี49 เรียนปี 3 อิ๊งขอเลื่อนสอบทุกวิชามาสอบก่อนกำหนด สอบแล้วไปพักที่อังกฤษ 1กลับมาเรียนต่อปี 3 เทอมปลายจนจบ
"อย่างน้อยขอให้อิ๊งเรียนจบที่นี่ เมื่ออิ๊งเข้ามาได้แล้ว ให้อิ๊งได้พิสูจน์ตัวเองว่าอิ๊งจบจุฬาฯได้ อิ๊งโดนข่าวเยอะเหลือเกิน ให้อิ๊งเอาชนะตัวเองด้วย"
วันรับปริญญา
"ที่ประทับใจคือ ปชช.มาจาก ตจว.ใส่ผ้าซิ่น ผ้าไหม แต่งตัวสวยงาม เอามาลัยมาให้ พวกเขาได้ข่าวว่าพันธมิตรฯ จะเอาพวงหรีดมาให้อิ๊งวันรับปริญญา
'ถ้าจะเอาพวงหรีดมาให้อิ๊งก็เอามาเหอะ อิ๊งจะทำอะไรได้ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด อิ๊งรับมือได้แล้ว"
แต่สุดท้ายวันนั้นไม่มีพวงหรีด
Credit: ThaiDelphi
แกร่งจัดเลย อดทนเรียนในดงสลิ่ม4ปี ยุคที่คนยังตาไม่สว่างแบบทุกวันนี้