เห็นกรณี 1 จักรวาลแล้วรู้สึกว่าคนไทยยังมี mindset ที่ว่าครอบครัวเดียวกันไม่มีความคิดเกินเลย จะทำอะไรก็ได้กันเยอะอยู่

เลยอยากยกตัวอย่างการลงรูปเด็กของชาวต่างชาติให้พอได้เห็นภาพกันครับ

ถ้าใครมีเพื่อนหรือติดตามโซเชียลของศิลปินชาวยุโรป เมกา หรือญี่ปุ่น เพื่อนๆน่าจะพอเห็นได้ว่าพวกเขาแทบจะไม่ลงรูปลูกหลานของตัวเองเลย หรือถ้าลงก็จะเบลอหรือทับด้วยสติ๊กเกอร์

ที่เค้าทำแบบนี้ไม่ใช่ว่าลูกหลานของเค้านั้นยอมหรือไม่ยอม และคงไม่มีใครจะถามทุกครั้งก่อนจะลงรูป
แต่เค้าคิดอยู่บนพื้นฐานที่ว่า ไม่ใช่เด็กทุกคนที่จะยินดี หรือแม้แต่ยินดีแต่เด็กเหล่านั้นอาจจะยังไม่มีวุฒิภาวะที่ดีพอในการตัดสินใจ
ผู้ใหญ่ที่มีวุฒิภาวะเพียงพอแล้วจึงทำแบบนี้เพื่อเป็นการรักษาสิทธิ์ให้เด็กก่อนจนกว่าจะถึงวัยที่เด็กมีวุฒิภาวะพอที่จะตัดสินใจเองได้

มาเทียบกับกรณี 1 จักวาลนี้แล้วก็เหมือนกันครับ เด็กเป็นลูกเค้านั้นใช่ พ่อลูกไม่ได้คิดอะไรไม่ดีนั่นก็อาจจะใช่ ลูกไม่คิดต่อต้านนั่นก็อาจจะเป็นไปได้
แต่ในทางกลับกัน ในใจเด็กอาจจะไม่ได้ชอบ ไม่สบายใจ นั่นก็เป็นไปได้
แต่เด็กเองยังไม่ได้โตมากพอจะบอกได้ว่ามันควรหรือไม่ควร หรือถ้าไม่ควรแล้วจะปฏิเสธยังไง
เพราะงั้นมันถึงเป็นหน้าที่ของผู้ปกครองที่ควรจะมีวุฒิภาวะเพียงพอ และปกป้องสิทธิ์ให้เด็กในวัยที่เค้ายังไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้

ผมมีเพื่อนที่เค้าเองก็เคยโดนล่วงเกินทำนองนี้ในสมัยเด็กๆเหมือนกันซึ่งเค้าก็ไม่ได้ชอบ(ถึงแม้จะไมาได้โกรธเกลียดพ่อแม่ก็ตาม)​
พอมาเจอข่าวคุณ 1 แล้วเค้าเหมือนภาพย้อน ทำให้เค้ารู้สึกโกรธจนกำหมัดเหมือนกัน

เรื่องแบบนี้อาจจะยังใหม่สำหรับคนไทยอันนี้ผมก็เข้าใจนะครับ ผมไม่ได้ชี้ว่าทุกคนจะต้องเลิกทำพฤติกรรมแบบนี้ในทันที
แตาเราเริ่มสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องกันก่อนได้ครับ ทุกอย่างเริ่มที่ความเข้าใจก่อน
อย่างเช่นการพูดถึงปมด้อยในอดีตก็เคยเป็นเรื่องทั่วไปที่คนไทยใครก็ทำ จนเมื่อเราเข้าใจว่าการบูลลี่นั้นไม่ถูกต้องและทำร้ายคนอื่น เมื่อสังคมเข้าใจในวงกว้างมากขึ้นเราก็ลดค่านิยมในการบูลลี่ลงได้

กับเรื่องนี้ผมก็คาดหวังว่าสังคมเราจะเข้าใจกันมากขึ้นเช่นกันนะครับ

ไม่มีใครเป็นหนี้ชีวิตใครหรอก

การให้กำเหนิดเป็นสัญชาตญาณการสืบพันธ์

ไม่ใช่บุญคุณ

ไม่มีใครเป็นหนี้ชีวิตใครหรอก

การให้กำเหนิดเป็นสัญชาตญาณการสืบพันธ์

ไม่ใช่บุญคุณ

ชีวิตบางทีจะให้มันไปตามกฎเป๊ะๆมันคงเป็นไปไม่ได้มั้ง
แต่ผมก็เข้าใจเรื่องการเคารพสิทธิกันและกันนะ
ทีนี้จุดแบ่งมันคือยังไง ตรงไหน
ทุกวันนี้ลูกสาว6เดือน ผมก็ชอบจับพุงนิ่ม ตีก้นให้หัวเราะเอิ๊กอ๊าก
ไปเที่ยวกันเป็นครอบครัว หกเดือน สามสี่ขวบ ไม่ว่าจะบ้านไหน รวมถึงบ้านผมด้วย ผมก็เห็นเค้าลงเฟสเปิดหน้ากันทั้งนั้น ไม่เห็นมีบ้านไหนเค้ามาปิดหน้าลูก
ฝรั่งที่เห็นปิด เห็นแค่พวกคนมีชื่อเสียงเอง ปิดเพราะมันมีผลกับความปลอดภัย ลูกพี่ลูกน้อยวัยทีนอยู่ออส เห็นเค้าก็ถ่ายลงกันปกติ
ที่ว่าศิลปินปิด อันนั้นเค้าเรื่องความปลอดภัยมากกว่า ไม่ได้คิดไปถึงเรื่องสิทธิหรอก แค่ถ่ายรูปทั่วไป ไม่ใช่รูปน่าเกลียดหรืออะไรขนาดนั้น ผมว่ามันไม่ได้เป็นสิทธิอะไรที่ปฏิบัติกันทั่วไปนะ

ผมว่า จขกท เอาแพะชนแกะ เรื่องที่เป็นข่าวก็เรื่องนึง เรื่องศิลปินดังเซนเซอร์หน้าลูกก็อีกเรื่องนึง แล้วมันเป็นเคสพิเศษ ไม่ใช่เคสปกติ ชาวบ้านทั่วไปไปเที่ยวแชร์รูปลูกแบบทั่วๆไปก็อีกเรื่องนึง

ผมก็มีลูกสาว ยิ่งตอนเด็ก 1-2 ขวบนี่อย่างน่ารักน่าฟัด ผมก็ทำแค่กอดหรืออุ้มแกซบใหล่ หอมแก้ม ตอนนี้ลูกโตหล่ะอยู่ ป. 4 ผมก็กอดและหอมแก้มทุกวันนะ แต่ไม่มีหรอกจะไปเอามือยุ่มย่ามแบบนั้น

พึ่งอ่านข่าวนี้มา อารมณ์แบบ ได้หรอวะ
ตีตูด หอมแก้ม โอเคปกติแหละ ไอ้ที่ไปล้วง ไปเค้นนี่แบบไม่ไหวจริงๆ
แถมคุณแม่รู้เห็นด้วยแต่ไม่ action อะไรเลย

มีเพื่อนในเฟสเป็นชาวต่างชาติเยอะนะ ถ้าโพสรูปลูกลงก็ไม่เห็นเค้าเบลอหรือเอาสติกเกอร์คาดอะไรเลย แต่ที่ต่างจากเพื่อนในเฟสคนไทยคือ ชาวต่างชาติเอารูปลูกตัวเองลงเฟสน้อยกว่าคนไทยมาก คนไทยโพสนี่จัดเต็มในเฟสเลยทั้งรูป วิดีโอ มากันแทบทุกวัน ชาวต่างชาติแค่ในวันสำคัญๆ

ถ้าคนเป็นพ่อแม่ให้การเลี้ยงดูที่ดีแก่ลูกตัวเอง ถือเป็นบุญคุณไหมครับ
แล้วถ้ากลับกันการเลี้ยงดูแบบทิ้งขว้าง ถือว่าไม่ใช่ความผิดพ่อแม่รึเปล่า

อันนี้มั่วไป ฝรั่งเค้าเบลอหน้าเพราะเรื่องความปลอดภัย

ส่วนมากก็เบลอแค่พวกลูกคนดังมีชื่อเสียง

ส่วนคนธรรมดาเค้าก็ลงกันปกติเหมือนบ้านเรา

การเลี้ยงดูลูกของพ่อแม่เป็นหน้าที่ตามกฏหมายครับ

เป็นบุญคุณมั๊ยแล้วแต่มุมมองของแต่ละคน

เพื่อนชาวต่างชาติในเฟสบุคผม
พวกยุโรป ลาติน หรือเอเชียด้วยกัน ก็ลงรูปลูกเป็นปกตินะ
บางชาติลงถี่ เหมือนๆกับคนไทยนี่แหละครับ
ไม่ต่างกันเลย

ปล.มีเพื่อนเป็นชาวอังกฤษ เยอรมัน โคลัมเบีย
ถ่ายรูปลงเฟสบุคขี่คอ ป้อนข้าว พอๆกับเพื่อนคนไทยนี่แหละ

ของไทยเราต้องแบบนี้เลย

น้อง.... 1Y3M42D

จะนับกันไปเพื่ออออ

ผมว่าอันนี้มันก็เรื่องของเขาปะ

เขาอาจจะอยากบันทึกไว้ดูแค่นั้นแหละ

ผมมองว่าการเป็นผู้ทำให้เด็กเกิดมา กับการเลี้ยงดูเด็กเป็นละเรื่องกัน

บางคนไม่ได้ทำให้เกิดมา แต่เป็นเลี้ยงดูมาตั้งแต่เกิดก็มีครับ