BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Oct 2019
ตอบ: 4992
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 26, 2021 17:14
[RE: อาชีพไหน ควรเงินเดือนเยอะที่สุดครับ]
นักวิจัย

พนักงานก่อสร้างความชำนาญสูงและความเสี่ยงสูง (แม้แต่ตึกและคอนโด)

พนักงานเก็บกวาดขยะ

พนักงานหน้างานของการไฟฟ้า

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status: รักอาร์เซนอลมาได้ 20 ปีแล้ว
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 28 Oct 2007
ตอบ: 416
ที่อยู่: กระต๊อบหลังน้อยกลางท้องทุ่ง
โพสเมื่อ: Tue Oct 26, 2021 17:29
[RE: อาชีพไหน ควรเงินเดือนเยอะที่สุดครับ]
byrd.tt พิมพ์ว่า:
1 3 2 5 4 แต่ไม่ควรต่างกันเป็นนัยยะสำคัญ

ครู แทบจะเป็นพื้นฐานของทุกสิ่งอย่าง เด็กหนึ่งคนจะเติบโตมาอย่างไร ครูเป็นสิ่งแรกๆที่จะเชปเด็กได้เลยนะครับ (ตามหลัก circle of influence ของสายสังคมเลย) ฉะนั้น พวกเค้าควรจะได้รับความสำคัญเป็นอันดับต้นๆเลยครับ

นักวิจัย/นักวิทย์ ควรจะเป็นอันดับต่อมา เพราะดูอย่างโควิดแบบนี้ก็ได้ครับ ผมมองว่าหมอคือ reactive action plan หรือแก้ไขเวลาเกิดอาการ แต่ถ้าเรามีเงินสนับสนุนและให้ความสำคัญกับงานวิจัย ตัวยาดีๆ อาจจะออกมาได้เร็วขึ้น ลดอาการป่วยได้ดีขึ้นหรือป้องกันอาการป่วยเลย ส่วนตัวแล้ว ผมมีคนรู้จักเป็นนักวิจัย เค้าบอกว่า หมอ 1 คน รักษาวันนึงได้เพียงกี่คน แต่ถ้านักวิจัยสามารถคิดค้นอะไรที่เป็น groundbreaking ออกมาได้ พวกนี้อาจจะช่วยคนได้เป็น 10 ล้าน 100 ล้านคน ซึ่งผมว่ามันก็มีความจริงอยู่ในคำพูดนั้นครับ

หมอ การช่วยเหลือชีวิต ก็สำคัญพอกัน แต่ผมว่าสองตัวเลือกด้านบนสำคัญกว่า

ที่เหลือ ให้พอๆกันก็ได้ครับ  


ผมเห็นต่างเรื่องหมอแก้ไขเวลาเกิดอาการครับ เพราะแบบนี้แหละครับถึงเกิดการฟ้องร้องขึ้น คนไทยส่วนใหญ่ไม่มีความรู้และไม่รู้จักการป้องกันครับ ถึงได้เป็นโรคกันเยอะ กว่าจะมาโรงพยาบาลกันก็ปล่อยให้โรคเป็นหนักแล้ว รวมถึงอุบัติเหตุที่ประเทศเรามีอุบัติการณ์เป็นอันดับต้น ๆ ของโลกล้วนตั้งอยู่บนความประมาททั้งสิ้น ทุกวันนี้แพทย์เหนื่อยเพราะสาเหตุนี้ครับ ส่วนเรื่องยาที่ใช้ป้องกันอาการป่วย ถ้าหากมีขึ้นจริง ต่อให้ยาดีแค่ไหน แต่คนไข้ไม่สามารถควบคุม external factors ได้ คุณก็จะป่วยอยู่ดีครับ สุดท้ายก็จะกลายเป็นว่าหมอรักษาที่ปลายเหตุเหมือนเดิม

เห็นด้วยเรื่องนักวิจัยครับ ถ้าครูดีก็จะสามารถผลิตอาชีพอื่น ๆ รวมถึงนักวิจัยคุณภาพได้ครับ

สรุปแล้ว ผมคิดว่ารายได้ของแต่ละอาชีพควรจะมี factor หรือตัวกำหนดรายได้ที่เหมาะสมครับ แต่คุณไม่สามารถควบคุม factor เหล่านั้นได้ทั้งหมดหรอก มันจะมีเรื่องกลไกต่าง ๆ นานา ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ในทุกหน่วยงาน ทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือเอกชน
แก้ไขล่าสุดโดย picopicopico เมื่อ Tue Oct 26, 2021 17:30, ทั้งหมด 1 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะเทศบาล
Status: -BREATHE-
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Jun 2016
ตอบ: 755
ที่อยู่: ประเทศไทย
โพสเมื่อ: Tue Oct 26, 2021 17:34
[RE: อาชีพไหน ควรเงินเดือนเยอะที่สุดครับ]
3 สิ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
อย่าแจกใบเหลืองเยอะเลย มาทำเพื่อสังคมนะหนิ
ออฟไลน์
ซุปตาร์โอลิมปิก
Status: adapt or die
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 25 Nov 2014
ตอบ: 7773
ที่อยู่: 13.999890, 100.685606
โพสเมื่อ: Tue Oct 26, 2021 17:36
[RE: อาชีพไหน ควรเงินเดือนเยอะที่สุดครับ]
ตั้งโจทย์ มาแบบนี้

ไม่มี พระ ได้ไงว่ะ

บาง พระ... นี้ รวยสุดในโลกด้วยซ้ำ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 31 Jul 2009
ตอบ: 3620
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 26, 2021 17:38
อาชีพไหน ควรเงินเดือนเยอะที่สุดครับ
อยากให้ครูนะ

เพราะครูควรเป็นคนที่เก่ง มีทักษะการสอน ทัศนคติ เพราะเป็นจุดเริ่มต้นพัฒนากระบวนการคิดของเด็กๆ เลย
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ปลายอาชีพค้าแข้ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Mar 2020
ตอบ: 7259
ที่อยู่: บ้าน
โพสเมื่อ: Tue Oct 26, 2021 18:04
[RE: อาชีพไหน ควรเงินเดือนเยอะที่สุดครับ]
littlel3ear พิมพ์ว่า:
byrd.tt พิมพ์ว่า:
littlel3ear พิมพ์ว่า:
เงินเดือนบอกอะไรไม่ได้หรอก
หมอยังมีรวยมีจน หมอบางคนเป็นแพทย์ทั่วไปยันเกษียรรพ.รัฐก็มี บางคนดังไปเปิดคลีนิคมีแต่คนตาม
ครูบางคนยังรวยกว่าหมอ เช่นครูลิลี่ ครูในเดอะเบรน พวกอาจาร์ยมหาวิทยาลัยเอกชนดังๆ
ขอแค่เก่งในวิชาชีพแล้วไปให้สุดทางอะ รายได้มันจะมาเอง
ถ้าไปดูแต่ครูรร.รัฐก็ตามนั้นอะ ทุกอาชีพมันมีทางไปอยู่แล้ว
 


แต่สิ่งที่เราควรจะทำ คือการลงช่องว่างลงนิครับ (นั่นคือคอนเซปท์ของรัฐสวัสดิการด้วย) ที่จะพยายามให้ครูทั่วไป มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้ ทำให้คนไม่ต้องดิ้นรนมากจนเกินไป แล้วก็ทำในสิ่งที่สำคัญที่สุดของอาชีพตัวเอง ผมไปอยู่เมืองนอกมา ก็ไม่เห็นว่าครูต้องไปสอนพิเศษอะไร เพราะรายได้จากทางหลัก มันก็เพียงพออยู่แล้วครับ

เหมือน equality vs equity น่ะครับ  



หลักการDemand Supplyเลยครับใครๆก็เป็นครูได้แม้ไม่จบครู ถ้าคุณให้เงินเดือนครูเยอะ ใครๆก็ไปสอบครู หมอหรืออาชีพที่ต้องใช้ความชำนาญเฉพาะก็จะขาดแคลนครับ

ที่ผมยกตัวอย่างไปไม่เกี่ยวกับรายได้หลักหรืออะไรนะ แค่จะบอกว่าขอแค่คุณเก่งคุณก็ออกมาจากระบบอยู่ดี แม้แต่ตปท ก็มีครูรวยครูจนครับ ครูที่มหาลัยแย่งตัวจ่ายกันแพงๆหรือครูได้เงินน้อยกว่าเงินเดือนขั้นต่ำ

เอาง่ายๆครับจบมาเป็นครู เงินเดือน12k นี่คือเลเวลของครูที่ใครก็เป็นได้ แต่ถ้าคุณไปเรียนเฉพาะทางเป็นชำนาญการเป็นศาตราจารย์ อยู่รร.ดังๆบดินทร์ หรือโรงเรียนอินเตอร์นี่ได้แตะแสนนะ อาจารย์มหาลัยจุฬา ธรรมศ นิด้า รังสิต หอการค้า นี่หลายแสน ถ้าไปป.โทนี่ก็อีกเลเวลเลย
อาจารย์สอนสถิติที่ปรึกษาตอนผมเรียนเงินเดือนหลักล้านครับ เยอะกว่าหมออีก เพราะตลาดไม่ได้ขาดแคลนครูครับ แต่ขาดครูที่เก่งต่างหาก

เรื่องลดช่องว่างเห็นด้วยครับ แต่มันต้องอยู่บนฐานของdemand supply หรือควมชำนาญการแหละ
มันเลยออกมาเป็นแบบนี้
ลูกพี่ลูกน้องผมเรียนอย่างแย่มัธยมจะจบไม่จบเอา มหาลัยจบราม สุดท้ายไปเป็นครูพละรัฐ เงินเดือนมากกว่าผมที่จบsupplyอีกตอนเริ่ม (มันเริ่ม15k ผมเริ่ม13k) ตอนแรกมันยังชวนให้ไปเป็นอาจารย์เลยครับ ทำงานชิวๆเหมือนเดิมทุกปีๆ ทุกวันนี้มัน25kกว่าๆ+ค่าครูปกครอง โอทีนู้นนี่ ไม่น้อยเลย
ตอนปิดเทอมก็ว่าง เตรียมนู้นนี่แปปเดียว บางวันมีสอนแค่2คาบ กลับบ้านปลูกบอนไซโคดสบาย อยู่ยาวๆยัน60 ไม่มีโดนไล่ออก

พนักงานบริษัทนี่ทำงานดึกดื่น ต้องพัฒนาตัวเองตลอด อายุ40ถ้าตามโลกไม่ทันก็โดนบีบออกละ เทดโนโลยีมาใหม่ก็ต้องตาม ตอนนี้ใช้Excel Accessก็ต้องเรียนBIเพิ่ม อยู่ดีๆก็มีระบบWMSเข้ามา ใครๆก็ใช้กัน ถ้าใช้ไม่เป็นก็โดนบีบออกจ้างใหม่ ก็เด็กๆมันเป็นกันหมดทั้งภาษาอังกฤษทั้งVBA เราแม่งเกิดมาโรงเรียนสอนdos ไม่รู้อีก2ปีต้องเปลี่ยนอะไรอีก อยากจะขึ้นเป็นleaderก็ต้องไปพัฒนาสกิลmanagementอีก คือชีวิตแม่งแข่งขันตลอด อยู่ดีๆยกเงินเดือนครูขึ้นมาดีกว่า เอ้า กูพยายามมาเพื่ออะไร
 


1. มันก็เป็นเรื่องของ supply & demand เหมือนเดิมครับ พอคุณขึ้นเงินเดือนครู มันก็จะมีคนเก่งอยากไปเรียนหรือสอบครูเพิ่มขึ้น มันก็จะบีบให้คนไม่เก่งน้อยลงไปเองครับ เพราะคนเก่งก็จะได้รับการคัดเลือกก่อนคนไม่เก่งครับ แล้วคุณคิดว่าเราจะขาดหมอหรืออาชีพเฉพาะทางหรอครับ ไม่เลยครับ แบบนั้นมันจะเป็นว่าใคร"ชอบ"หรืออยากเป็นอะไรก็เป็นได้ครับ เพราะรายได้มันดีพอที่จะใช้ชีวิตดีๆได้ ไม่ใช่ว่าทุกคนอยากมีเงินเยอะๆ ต้องไปเรียนหมอ เรียนวิศวะหมด

2. เราไม่ใช่อยู่ดีๆก็จะมาเพิ่มแค่เงินเดือนสิครับ เพิ่ม requirement เข้าไปด้วย เหมือนที่คุณบอกว่าทุกวันนี้ใครๆก็เป็นครูได้ ก็เพิ่มไปเลยครับ เหมือนพนักงานออฟฟิศนั่นแหล่ะครับ ต้องได้สกิลอะไรบ้างก็ว่าไป (จริงๆครูเองก็ต้องพัฒนานะครับ มันมีมาตรฐานประเมินผลใหม่ๆมาเรื่อยๆ)

3. ผมคือพนักงานออฟฟิศนะครับ แล้วก็มั่นใจด้วยว่าตัวเองพยายามมาตลอดชีวิตเหมือนกัน ยิ่งผมอยู่ในสาย IT ผมนี่ไม่สามารถไม่อัพเดตความรู้ได้เลยครับ ไม่งั้นตกรถแน่ๆ ซึ่งต่อให้ไม่ได้เป็นพนักงานออฟฟิศ ไอ้การเรียนรู้ตลอดชีวิตก็เป็นเรื่องปกติที่ควรจะทำอยู่แล้วนะครับ

ส่วนตัวแล้ว ผมพยายามมาเยอะมาก แต่ถ้าวันใดวันนึงมีอาชีพใดอาชีพนึงที่"จำเป็น"ต้องได้รับการยกระดับชีวิตขึ้นมา ผมเองก็ไม่ติดครับ ผมมองว่าพนักงานทำความสะอาด ยาม แม่บ้าน แรงงาน ทุกคนควรจะได้รับค่าแรงขั้นต่ำที่มากกว่าด้วยซ้ำครับ ทุกคนพยายามในแบบของตัวเองอยู่เสมอๆนะครับ หรืออย่างที่ผมทุกวันนี้เสียภาษีปีละเป็นแสน ผมก็ไม่เคยบ่นครับถ้าเงินตรงนั้นมันไปช่วยให้คนที่ลำบากดีขึ้นกว่าทุกวันนี้นะ

ปล.อาจารย์มหาลัย เงินเดือนไม่ถึงแสนแน่ๆครับ ถ้าไม่รับงานนอกนะ คนรอบตัวผมประมาณ 4-5 คน จบป.เอกอังกฤษ เป็นหัวหน้าภาควิชาและรศ.ด้วยซ้ำ เงินเดือนรวมค่าตำแหน่ง ฯลฯ ยังไม่ถึง 60k เลยนะแล้วค่าตำแหน่ง ศ.เอง + ไม่ถึง 50k หรอกครับ หรืออีกคน จบโทเยอรมัน เรียนเอกอยู่ตอนนี้ สอน ABAC ด้วย ยังไม่ถึงแสนเหมือนกันครับ
แก้ไขล่าสุดโดย byrd.tt เมื่อ Tue Oct 26, 2021 18:08, ทั้งหมด 2 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
"Your energy introduces you before you even speak."
"Be the same person privately, publicly, personally."
"Science explain people, but could not understand them."
“Keep a little fire burning, however small, however hidden.”
"Nullum magnum ingenium sine mixtura dementiæ fuit”
ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 07 Dec 2020
ตอบ: 4761
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 26, 2021 18:25
อาชีพไหน ควรเงินเดือนเยอะที่สุดครับ
1 4 5 2 3

แต่ความเป็นจริง 2 5 4 3 1

โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 06 Apr 2014
ตอบ: 3107
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 26, 2021 18:47
[RE: อาชีพไหน ควรเงินเดือนเยอะที่สุดครับ]
อาชีพไม่เกี่ยว มันแค่หัวโขนป่ะ แต่ถ้าเก่งจริงๆ พัฒนาอะไรๆได้ แล้วเป็นคนดี ก็ควรจะเงินเยอะ ถึงผมจะอคติกับพวก ระบบข้าราชการ แต่ถ้าเขาแน่ มีความสามารถ(ในด้านดี) ก็ควรจะได้ผลตอบแทนที่ดีตาม
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Oct 2020
ตอบ: 910
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 26, 2021 20:03
[RE: อาชีพไหน ควรเงินเดือนเยอะที่สุดครับ]
ไม่ว่าจะอาชีพไหน ไม่เฉพาะแค่ 5 อาชีพที่ จขกท.กำหนดมา ทุกอาชีพล้วนมีคุณค่าพอที่จะได้รับเงินเดือนเยอะๆสูงๆทั้งนั้นครับ

ไม่ควรมาคิดว่า อาชีพนี้ ควรได้เยอะกว่าอาชีพนี้ หรืออาชีพนี้ควรได้รับเงินเดือนเยอะสุด เพราะถ้าใครก็ตามที่เชี่ยวชาญหรือเก่งกาจในด้านนั้นๆของวิชาชีพตัวเอง เขาก็ควรได้รับค่าตอบแทนที่เยอะและสูง

อีกอย่าง แต่ละอาชีพมี career path ในแบบของตนเอง วิถีชีวิตไม่เหมือนกัน เส้นทางคนละทาง ภูเขาคนละลูกครับ ไม่ควรมาเปรียบเทียบกัน[/u]
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Dec 2010
ตอบ: 495
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 26, 2021 22:02
[RE: อาชีพไหน ควรเงินเดือนเยอะที่สุดครับ]
byrd.tt พิมพ์ว่า:
littlel3ear พิมพ์ว่า:
byrd.tt พิมพ์ว่า:
littlel3ear พิมพ์ว่า:
เงินเดือนบอกอะไรไม่ได้หรอก
หมอยังมีรวยมีจน หมอบางคนเป็นแพทย์ทั่วไปยันเกษียรรพ.รัฐก็มี บางคนดังไปเปิดคลีนิคมีแต่คนตาม
ครูบางคนยังรวยกว่าหมอ เช่นครูลิลี่ ครูในเดอะเบรน พวกอาจาร์ยมหาวิทยาลัยเอกชนดังๆ
ขอแค่เก่งในวิชาชีพแล้วไปให้สุดทางอะ รายได้มันจะมาเอง
ถ้าไปดูแต่ครูรร.รัฐก็ตามนั้นอะ ทุกอาชีพมันมีทางไปอยู่แล้ว
 


แต่สิ่งที่เราควรจะทำ คือการลงช่องว่างลงนิครับ (นั่นคือคอนเซปท์ของรัฐสวัสดิการด้วย) ที่จะพยายามให้ครูทั่วไป มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้ ทำให้คนไม่ต้องดิ้นรนมากจนเกินไป แล้วก็ทำในสิ่งที่สำคัญที่สุดของอาชีพตัวเอง ผมไปอยู่เมืองนอกมา ก็ไม่เห็นว่าครูต้องไปสอนพิเศษอะไร เพราะรายได้จากทางหลัก มันก็เพียงพออยู่แล้วครับ

เหมือน equality vs equity น่ะครับ  



หลักการDemand Supplyเลยครับใครๆก็เป็นครูได้แม้ไม่จบครู ถ้าคุณให้เงินเดือนครูเยอะ ใครๆก็ไปสอบครู หมอหรืออาชีพที่ต้องใช้ความชำนาญเฉพาะก็จะขาดแคลนครับ

ที่ผมยกตัวอย่างไปไม่เกี่ยวกับรายได้หลักหรืออะไรนะ แค่จะบอกว่าขอแค่คุณเก่งคุณก็ออกมาจากระบบอยู่ดี แม้แต่ตปท ก็มีครูรวยครูจนครับ ครูที่มหาลัยแย่งตัวจ่ายกันแพงๆหรือครูได้เงินน้อยกว่าเงินเดือนขั้นต่ำ

เอาง่ายๆครับจบมาเป็นครู เงินเดือน12k นี่คือเลเวลของครูที่ใครก็เป็นได้ แต่ถ้าคุณไปเรียนเฉพาะทางเป็นชำนาญการเป็นศาตราจารย์ อยู่รร.ดังๆบดินทร์ หรือโรงเรียนอินเตอร์นี่ได้แตะแสนนะ อาจารย์มหาลัยจุฬา ธรรมศ นิด้า รังสิต หอการค้า นี่หลายแสน ถ้าไปป.โทนี่ก็อีกเลเวลเลย
อาจารย์สอนสถิติที่ปรึกษาตอนผมเรียนเงินเดือนหลักล้านครับ เยอะกว่าหมออีก เพราะตลาดไม่ได้ขาดแคลนครูครับ แต่ขาดครูที่เก่งต่างหาก

เรื่องลดช่องว่างเห็นด้วยครับ แต่มันต้องอยู่บนฐานของdemand supply หรือควมชำนาญการแหละ
มันเลยออกมาเป็นแบบนี้
ลูกพี่ลูกน้องผมเรียนอย่างแย่มัธยมจะจบไม่จบเอา มหาลัยจบราม สุดท้ายไปเป็นครูพละรัฐ เงินเดือนมากกว่าผมที่จบsupplyอีกตอนเริ่ม (มันเริ่ม15k ผมเริ่ม13k) ตอนแรกมันยังชวนให้ไปเป็นอาจารย์เลยครับ ทำงานชิวๆเหมือนเดิมทุกปีๆ ทุกวันนี้มัน25kกว่าๆ+ค่าครูปกครอง โอทีนู้นนี่ ไม่น้อยเลย
ตอนปิดเทอมก็ว่าง เตรียมนู้นนี่แปปเดียว บางวันมีสอนแค่2คาบ กลับบ้านปลูกบอนไซโคดสบาย อยู่ยาวๆยัน60 ไม่มีโดนไล่ออก

พนักงานบริษัทนี่ทำงานดึกดื่น ต้องพัฒนาตัวเองตลอด อายุ40ถ้าตามโลกไม่ทันก็โดนบีบออกละ เทดโนโลยีมาใหม่ก็ต้องตาม ตอนนี้ใช้Excel Accessก็ต้องเรียนBIเพิ่ม อยู่ดีๆก็มีระบบWMSเข้ามา ใครๆก็ใช้กัน ถ้าใช้ไม่เป็นก็โดนบีบออกจ้างใหม่ ก็เด็กๆมันเป็นกันหมดทั้งภาษาอังกฤษทั้งVBA เราแม่งเกิดมาโรงเรียนสอนdos ไม่รู้อีก2ปีต้องเปลี่ยนอะไรอีก อยากจะขึ้นเป็นleaderก็ต้องไปพัฒนาสกิลmanagementอีก คือชีวิตแม่งแข่งขันตลอด อยู่ดีๆยกเงินเดือนครูขึ้นมาดีกว่า เอ้า กูพยายามมาเพื่ออะไร
 


1. มันก็เป็นเรื่องของ supply & demand เหมือนเดิมครับ พอคุณขึ้นเงินเดือนครู มันก็จะมีคนเก่งอยากไปเรียนหรือสอบครูเพิ่มขึ้น มันก็จะบีบให้คนไม่เก่งน้อยลงไปเองครับ เพราะคนเก่งก็จะได้รับการคัดเลือกก่อนคนไม่เก่งครับ แล้วคุณคิดว่าเราจะขาดหมอหรืออาชีพเฉพาะทางหรอครับ ไม่เลยครับ แบบนั้นมันจะเป็นว่าใคร"ชอบ"หรืออยากเป็นอะไรก็เป็นได้ครับ เพราะรายได้มันดีพอที่จะใช้ชีวิตดีๆได้ ไม่ใช่ว่าทุกคนอยากมีเงินเยอะๆ ต้องไปเรียนหมอ เรียนวิศวะหมด

2. เราไม่ใช่อยู่ดีๆก็จะมาเพิ่มแค่เงินเดือนสิครับ เพิ่ม requirement เข้าไปด้วย เหมือนที่คุณบอกว่าทุกวันนี้ใครๆก็เป็นครูได้ ก็เพิ่มไปเลยครับ เหมือนพนักงานออฟฟิศนั่นแหล่ะครับ ต้องได้สกิลอะไรบ้างก็ว่าไป (จริงๆครูเองก็ต้องพัฒนานะครับ มันมีมาตรฐานประเมินผลใหม่ๆมาเรื่อยๆ)

3. ผมคือพนักงานออฟฟิศนะครับ แล้วก็มั่นใจด้วยว่าตัวเองพยายามมาตลอดชีวิตเหมือนกัน ยิ่งผมอยู่ในสาย IT ผมนี่ไม่สามารถไม่อัพเดตความรู้ได้เลยครับ ไม่งั้นตกรถแน่ๆ ซึ่งต่อให้ไม่ได้เป็นพนักงานออฟฟิศ ไอ้การเรียนรู้ตลอดชีวิตก็เป็นเรื่องปกติที่ควรจะทำอยู่แล้วนะครับ

ส่วนตัวแล้ว ผมพยายามมาเยอะมาก แต่ถ้าวันใดวันนึงมีอาชีพใดอาชีพนึงที่"จำเป็น"ต้องได้รับการยกระดับชีวิตขึ้นมา ผมเองก็ไม่ติดครับ ผมมองว่าพนักงานทำความสะอาด ยาม แม่บ้าน แรงงาน ทุกคนควรจะได้รับค่าแรงขั้นต่ำที่มากกว่าด้วยซ้ำครับ ทุกคนพยายามในแบบของตัวเองอยู่เสมอๆนะครับ หรืออย่างที่ผมทุกวันนี้เสียภาษีปีละเป็นแสน ผมก็ไม่เคยบ่นครับถ้าเงินตรงนั้นมันไปช่วยให้คนที่ลำบากดีขึ้นกว่าทุกวันนี้นะ

ปล.อาจารย์มหาลัย เงินเดือนไม่ถึงแสนแน่ๆครับ ถ้าไม่รับงานนอกนะ คนรอบตัวผมประมาณ 4-5 คน จบป.เอกอังกฤษ เป็นหัวหน้าภาควิชาและรศ.ด้วยซ้ำ เงินเดือนรวมค่าตำแหน่ง ฯลฯ ยังไม่ถึง 60k เลยนะแล้วค่าตำแหน่ง ศ.เอง + ไม่ถึง 50k หรอกครับ หรืออีกคน จบโทเยอรมัน เรียนเอกอยู่ตอนนี้ สอน ABAC ด้วย ยังไม่ถึงแสนเหมือนกันครับ  


เพราะว่าครูที่ขาดคือครูเฉพาะทางครับ คุณต้องไปเรียนหมอเรียนวิศวะก่อน แล้วอยากเป็นครูค่อยไปเสริม
ไม่มีใครจบครุแล้วสอนหมอไงครับ แล้วอยากที่บอก พออะไรที่เป็นเฉพาะทางเงินเดือนมันไม่น้อยอยู่แล้ว คุณเอาเงินเดือนครูปกติมาเทียบครูวิศวะ อาจารย์หมอหมอ ศาสตราจารย์ปกติไม่ได้

Career pathของครูราชการ คือ ไปเป็นผอ.ครับ ซึ่งเป็นไปตามระบบ สอบCสอบขั้นตามอายุงานไป
requirementไม่ช่วยอะไรเลย แล้วราชการไม่มีไล่ออกครับ อยู่กันไปยาวๆ ระบบมันเป็นแบบนี้จะหวังให้คนพัฒนาหรอ

ผมถึงบอกเพิ่มเงินเดือนไม่ช่วยอะไรเลย ถ้าคุณเก่งจริงอยู่ที่ไหนคุณก็เก่ง อยู่ที่ไหนคุณก็อยู่นอกกรอบ คนพร้อมจะจ่ายอยู่แล้ว ครูดังๆมีแต่คนแย่งตัวครับ

มีคนที่หวังเงินเดือนขั้นต่ำตั้งแต่เลือกเรียนด้วยหรอ เป็นผมจะดูว่ามันได้สูงสุดตรงไหนหรือเฉลี่ยตรงไหนมากกว่า
สมมุติปรับเป็นครูเริ่มต้น20K ตันเฉลีย30-40kเหมือนเดิม หมอเริ่มเท่ากัน20k ตัน100k คิดว่าคนจะเลือกเป็นครูมากขึ้นหรอครับ

ครูที่เก่งยังไงก็เก่ง เค้าไม่เรียกร้องหรอกให้ปรับฐานเพราะเค้าจะไม่หยุดที่ฐานครับ คนที่หวังฐานขั้นต่ำเพิ่มคือคนหวังเข้าไปสบายไม่ต้องทำอะไรเลยมากกว่า

ปล.ไม่ต้องถึงABACครับ แค่อ.วิศวะคอม มช เงินเดือนเริ่มต้น40-50K




0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ปลายอาชีพค้าแข้ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Mar 2020
ตอบ: 7259
ที่อยู่: บ้าน
โพสเมื่อ: Tue Oct 26, 2021 22:31
[RE: อาชีพไหน ควรเงินเดือนเยอะที่สุดครับ]
littlel3ear พิมพ์ว่า:
byrd.tt พิมพ์ว่า:
littlel3ear พิมพ์ว่า:
byrd.tt พิมพ์ว่า:
littlel3ear พิมพ์ว่า:
เงินเดือนบอกอะไรไม่ได้หรอก
หมอยังมีรวยมีจน หมอบางคนเป็นแพทย์ทั่วไปยันเกษียรรพ.รัฐก็มี บางคนดังไปเปิดคลีนิคมีแต่คนตาม
ครูบางคนยังรวยกว่าหมอ เช่นครูลิลี่ ครูในเดอะเบรน พวกอาจาร์ยมหาวิทยาลัยเอกชนดังๆ
ขอแค่เก่งในวิชาชีพแล้วไปให้สุดทางอะ รายได้มันจะมาเอง
ถ้าไปดูแต่ครูรร.รัฐก็ตามนั้นอะ ทุกอาชีพมันมีทางไปอยู่แล้ว
 


แต่สิ่งที่เราควรจะทำ คือการลงช่องว่างลงนิครับ (นั่นคือคอนเซปท์ของรัฐสวัสดิการด้วย) ที่จะพยายามให้ครูทั่วไป มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้ ทำให้คนไม่ต้องดิ้นรนมากจนเกินไป แล้วก็ทำในสิ่งที่สำคัญที่สุดของอาชีพตัวเอง ผมไปอยู่เมืองนอกมา ก็ไม่เห็นว่าครูต้องไปสอนพิเศษอะไร เพราะรายได้จากทางหลัก มันก็เพียงพออยู่แล้วครับ

เหมือน equality vs equity น่ะครับ  



หลักการDemand Supplyเลยครับใครๆก็เป็นครูได้แม้ไม่จบครู ถ้าคุณให้เงินเดือนครูเยอะ ใครๆก็ไปสอบครู หมอหรืออาชีพที่ต้องใช้ความชำนาญเฉพาะก็จะขาดแคลนครับ

ที่ผมยกตัวอย่างไปไม่เกี่ยวกับรายได้หลักหรืออะไรนะ แค่จะบอกว่าขอแค่คุณเก่งคุณก็ออกมาจากระบบอยู่ดี แม้แต่ตปท ก็มีครูรวยครูจนครับ ครูที่มหาลัยแย่งตัวจ่ายกันแพงๆหรือครูได้เงินน้อยกว่าเงินเดือนขั้นต่ำ

เอาง่ายๆครับจบมาเป็นครู เงินเดือน12k นี่คือเลเวลของครูที่ใครก็เป็นได้ แต่ถ้าคุณไปเรียนเฉพาะทางเป็นชำนาญการเป็นศาตราจารย์ อยู่รร.ดังๆบดินทร์ หรือโรงเรียนอินเตอร์นี่ได้แตะแสนนะ อาจารย์มหาลัยจุฬา ธรรมศ นิด้า รังสิต หอการค้า นี่หลายแสน ถ้าไปป.โทนี่ก็อีกเลเวลเลย
อาจารย์สอนสถิติที่ปรึกษาตอนผมเรียนเงินเดือนหลักล้านครับ เยอะกว่าหมออีก เพราะตลาดไม่ได้ขาดแคลนครูครับ แต่ขาดครูที่เก่งต่างหาก

เรื่องลดช่องว่างเห็นด้วยครับ แต่มันต้องอยู่บนฐานของdemand supply หรือควมชำนาญการแหละ
มันเลยออกมาเป็นแบบนี้
ลูกพี่ลูกน้องผมเรียนอย่างแย่มัธยมจะจบไม่จบเอา มหาลัยจบราม สุดท้ายไปเป็นครูพละรัฐ เงินเดือนมากกว่าผมที่จบsupplyอีกตอนเริ่ม (มันเริ่ม15k ผมเริ่ม13k) ตอนแรกมันยังชวนให้ไปเป็นอาจารย์เลยครับ ทำงานชิวๆเหมือนเดิมทุกปีๆ ทุกวันนี้มัน25kกว่าๆ+ค่าครูปกครอง โอทีนู้นนี่ ไม่น้อยเลย
ตอนปิดเทอมก็ว่าง เตรียมนู้นนี่แปปเดียว บางวันมีสอนแค่2คาบ กลับบ้านปลูกบอนไซโคดสบาย อยู่ยาวๆยัน60 ไม่มีโดนไล่ออก

พนักงานบริษัทนี่ทำงานดึกดื่น ต้องพัฒนาตัวเองตลอด อายุ40ถ้าตามโลกไม่ทันก็โดนบีบออกละ เทดโนโลยีมาใหม่ก็ต้องตาม ตอนนี้ใช้Excel Accessก็ต้องเรียนBIเพิ่ม อยู่ดีๆก็มีระบบWMSเข้ามา ใครๆก็ใช้กัน ถ้าใช้ไม่เป็นก็โดนบีบออกจ้างใหม่ ก็เด็กๆมันเป็นกันหมดทั้งภาษาอังกฤษทั้งVBA เราแม่งเกิดมาโรงเรียนสอนdos ไม่รู้อีก2ปีต้องเปลี่ยนอะไรอีก อยากจะขึ้นเป็นleaderก็ต้องไปพัฒนาสกิลmanagementอีก คือชีวิตแม่งแข่งขันตลอด อยู่ดีๆยกเงินเดือนครูขึ้นมาดีกว่า เอ้า กูพยายามมาเพื่ออะไร
 


1. มันก็เป็นเรื่องของ supply & demand เหมือนเดิมครับ พอคุณขึ้นเงินเดือนครู มันก็จะมีคนเก่งอยากไปเรียนหรือสอบครูเพิ่มขึ้น มันก็จะบีบให้คนไม่เก่งน้อยลงไปเองครับ เพราะคนเก่งก็จะได้รับการคัดเลือกก่อนคนไม่เก่งครับ แล้วคุณคิดว่าเราจะขาดหมอหรืออาชีพเฉพาะทางหรอครับ ไม่เลยครับ แบบนั้นมันจะเป็นว่าใคร"ชอบ"หรืออยากเป็นอะไรก็เป็นได้ครับ เพราะรายได้มันดีพอที่จะใช้ชีวิตดีๆได้ ไม่ใช่ว่าทุกคนอยากมีเงินเยอะๆ ต้องไปเรียนหมอ เรียนวิศวะหมด

2. เราไม่ใช่อยู่ดีๆก็จะมาเพิ่มแค่เงินเดือนสิครับ เพิ่ม requirement เข้าไปด้วย เหมือนที่คุณบอกว่าทุกวันนี้ใครๆก็เป็นครูได้ ก็เพิ่มไปเลยครับ เหมือนพนักงานออฟฟิศนั่นแหล่ะครับ ต้องได้สกิลอะไรบ้างก็ว่าไป (จริงๆครูเองก็ต้องพัฒนานะครับ มันมีมาตรฐานประเมินผลใหม่ๆมาเรื่อยๆ)

3. ผมคือพนักงานออฟฟิศนะครับ แล้วก็มั่นใจด้วยว่าตัวเองพยายามมาตลอดชีวิตเหมือนกัน ยิ่งผมอยู่ในสาย IT ผมนี่ไม่สามารถไม่อัพเดตความรู้ได้เลยครับ ไม่งั้นตกรถแน่ๆ ซึ่งต่อให้ไม่ได้เป็นพนักงานออฟฟิศ ไอ้การเรียนรู้ตลอดชีวิตก็เป็นเรื่องปกติที่ควรจะทำอยู่แล้วนะครับ

ส่วนตัวแล้ว ผมพยายามมาเยอะมาก แต่ถ้าวันใดวันนึงมีอาชีพใดอาชีพนึงที่"จำเป็น"ต้องได้รับการยกระดับชีวิตขึ้นมา ผมเองก็ไม่ติดครับ ผมมองว่าพนักงานทำความสะอาด ยาม แม่บ้าน แรงงาน ทุกคนควรจะได้รับค่าแรงขั้นต่ำที่มากกว่าด้วยซ้ำครับ ทุกคนพยายามในแบบของตัวเองอยู่เสมอๆนะครับ หรืออย่างที่ผมทุกวันนี้เสียภาษีปีละเป็นแสน ผมก็ไม่เคยบ่นครับถ้าเงินตรงนั้นมันไปช่วยให้คนที่ลำบากดีขึ้นกว่าทุกวันนี้นะ

ปล.อาจารย์มหาลัย เงินเดือนไม่ถึงแสนแน่ๆครับ ถ้าไม่รับงานนอกนะ คนรอบตัวผมประมาณ 4-5 คน จบป.เอกอังกฤษ เป็นหัวหน้าภาควิชาและรศ.ด้วยซ้ำ เงินเดือนรวมค่าตำแหน่ง ฯลฯ ยังไม่ถึง 60k เลยนะแล้วค่าตำแหน่ง ศ.เอง + ไม่ถึง 50k หรอกครับ หรืออีกคน จบโทเยอรมัน เรียนเอกอยู่ตอนนี้ สอน ABAC ด้วย ยังไม่ถึงแสนเหมือนกันครับ  


เพราะว่าครูที่ขาดคือครูเฉพาะทางครับ คุณต้องไปเรียนหมอเรียนวิศวะก่อน แล้วอยากเป็นครูค่อยไปเสริม
ไม่มีใครจบครุแล้วสอนหมอไงครับ แล้วอยากที่บอก พออะไรที่เป็นเฉพาะทางเงินเดือนมันไม่น้อยอยู่แล้ว คุณเอาเงินเดือนครูปกติมาเทียบครูวิศวะ อาจารย์หมอหมอ ศาสตราจารย์ปกติไม่ได้

Career pathของครูราชการ คือ ไปเป็นผอ.ครับ ซึ่งเป็นไปตามระบบ สอบCสอบขั้นตามอายุงานไป
requirementไม่ช่วยอะไรเลย แล้วราชการไม่มีไล่ออกครับ อยู่กันไปยาวๆ ระบบมันเป็นแบบนี้จะหวังให้คนพัฒนาหรอ

ผมถึงบอกเพิ่มเงินเดือนไม่ช่วยอะไรเลย ถ้าคุณเก่งจริงอยู่ที่ไหนคุณก็เก่ง อยู่ที่ไหนคุณก็อยู่นอกกรอบ คนพร้อมจะจ่ายอยู่แล้ว ครูดังๆมีแต่คนแย่งตัวครับ

มีคนที่หวังเงินเดือนขั้นต่ำตั้งแต่เลือกเรียนด้วยหรอ เป็นผมจะดูว่ามันได้สูงสุดตรงไหนหรือเฉลี่ยตรงไหนมากกว่า
สมมุติปรับเป็นครูเริ่มต้น20K ตันเฉลีย30-40kเหมือนเดิม หมอเริ่มเท่ากัน20k ตัน100k คิดว่าคนจะเลือกเป็นครูมากขึ้นหรอครับ

ครูที่เก่งยังไงก็เก่ง เค้าไม่เรียกร้องหรอกให้ปรับฐานเพราะเค้าจะไม่หยุดที่ฐานครับ คนที่หวังฐานขั้นต่ำเพิ่มคือคนหวังเข้าไปสบายไม่ต้องทำอะไรเลยมากกว่า

ปล.ไม่ต้องถึงABACครับ แค่อ.วิศวะคอม มช เงินเดือนเริ่มต้น40-50K
 


นี่ไง ประเด็นคือคุณโฟกัสที่คนเก่ง ผมโฟกัสที่คน”ทั่วไป”ด้วยไงครับ ผมถึงใช้คำว่า equity ไง คือเราไม่ได้ต้องการ endorse แค่คนเก่ง แต่เราต้อง extend ไปถึงคนธรรมดาที่เหลือด้วยเช่นกันไงครับ แล้วก็ไม่ได้ให้โฟกัสแค่ starting salary ด้วยครับ แต่แท่งเงินเดือนมันต้องไปด้วยกันครับ ไม่งั้นใครอยากจะไปเป็นครูล่ะครับ เพราะครูมันคือ foundation สำหรับการพัฒนาคนในอนาคตเลยนะครับ

แล้วคุณไปโฟกัสที่แค่เงินเดือน ผมก็บอกไปแล้วว่ามันต้องปรับทั้งระบบครับ เงินเดือนเริ่มต้น requirement ตามทาง ค่าตอบแทนอื่นๆ การกำหนดสโคปทำงานให้ชัดเจน ฯลฯ เพื่อดึงให้คนเก่งเข้ามาในระบบไงครับ ไม่ใช่เอาแค่พวกไม่รู้จะเรียนอะไรมาเป็นครู มันต้องทำให้เกิด reformation ครับ

ปล. ไอ้ที่ผมบอกว่าไม่ถึงแสนเนี่ย อันนั้นรศ.ในสาขาที่ในไทยมีไม่ถึง 10 คนเลยนะ แล้วเป็นสาขาที่ขาดด้วยครับ (เป็นสาขานึงของแพทย์เลย) แล้วก็สอนทั้งโททั้งเอกเลยนะครับ นั่นคือที่ผมบอกว่ามันควรจะเพิ่มไงครับ คือเขยิบขึ้นทั้งแท่งครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
"Your energy introduces you before you even speak."
"Be the same person privately, publicly, personally."
"Science explain people, but could not understand them."
“Keep a little fire burning, however small, however hidden.”
"Nullum magnum ingenium sine mixtura dementiæ fuit”
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Dec 2010
ตอบ: 495
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Oct 27, 2021 12:48
[RE: อาชีพไหน ควรเงินเดือนเยอะที่สุดครับ]
byrd.tt พิมพ์ว่า:
littlel3ear พิมพ์ว่า:
byrd.tt พิมพ์ว่า:
littlel3ear พิมพ์ว่า:
byrd.tt พิมพ์ว่า:
littlel3ear พิมพ์ว่า:
เงินเดือนบอกอะไรไม่ได้หรอก
หมอยังมีรวยมีจน หมอบางคนเป็นแพทย์ทั่วไปยันเกษียรรพ.รัฐก็มี บางคนดังไปเปิดคลีนิคมีแต่คนตาม
ครูบางคนยังรวยกว่าหมอ เช่นครูลิลี่ ครูในเดอะเบรน พวกอาจาร์ยมหาวิทยาลัยเอกชนดังๆ
ขอแค่เก่งในวิชาชีพแล้วไปให้สุดทางอะ รายได้มันจะมาเอง
ถ้าไปดูแต่ครูรร.รัฐก็ตามนั้นอะ ทุกอาชีพมันมีทางไปอยู่แล้ว
 


แต่สิ่งที่เราควรจะทำ คือการลงช่องว่างลงนิครับ (นั่นคือคอนเซปท์ของรัฐสวัสดิการด้วย) ที่จะพยายามให้ครูทั่วไป มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้ ทำให้คนไม่ต้องดิ้นรนมากจนเกินไป แล้วก็ทำในสิ่งที่สำคัญที่สุดของอาชีพตัวเอง ผมไปอยู่เมืองนอกมา ก็ไม่เห็นว่าครูต้องไปสอนพิเศษอะไร เพราะรายได้จากทางหลัก มันก็เพียงพออยู่แล้วครับ

เหมือน equality vs equity น่ะครับ  



หลักการDemand Supplyเลยครับใครๆก็เป็นครูได้แม้ไม่จบครู ถ้าคุณให้เงินเดือนครูเยอะ ใครๆก็ไปสอบครู หมอหรืออาชีพที่ต้องใช้ความชำนาญเฉพาะก็จะขาดแคลนครับ

ที่ผมยกตัวอย่างไปไม่เกี่ยวกับรายได้หลักหรืออะไรนะ แค่จะบอกว่าขอแค่คุณเก่งคุณก็ออกมาจากระบบอยู่ดี แม้แต่ตปท ก็มีครูรวยครูจนครับ ครูที่มหาลัยแย่งตัวจ่ายกันแพงๆหรือครูได้เงินน้อยกว่าเงินเดือนขั้นต่ำ

เอาง่ายๆครับจบมาเป็นครู เงินเดือน12k นี่คือเลเวลของครูที่ใครก็เป็นได้ แต่ถ้าคุณไปเรียนเฉพาะทางเป็นชำนาญการเป็นศาตราจารย์ อยู่รร.ดังๆบดินทร์ หรือโรงเรียนอินเตอร์นี่ได้แตะแสนนะ อาจารย์มหาลัยจุฬา ธรรมศ นิด้า รังสิต หอการค้า นี่หลายแสน ถ้าไปป.โทนี่ก็อีกเลเวลเลย
อาจารย์สอนสถิติที่ปรึกษาตอนผมเรียนเงินเดือนหลักล้านครับ เยอะกว่าหมออีก เพราะตลาดไม่ได้ขาดแคลนครูครับ แต่ขาดครูที่เก่งต่างหาก

เรื่องลดช่องว่างเห็นด้วยครับ แต่มันต้องอยู่บนฐานของdemand supply หรือควมชำนาญการแหละ
มันเลยออกมาเป็นแบบนี้
ลูกพี่ลูกน้องผมเรียนอย่างแย่มัธยมจะจบไม่จบเอา มหาลัยจบราม สุดท้ายไปเป็นครูพละรัฐ เงินเดือนมากกว่าผมที่จบsupplyอีกตอนเริ่ม (มันเริ่ม15k ผมเริ่ม13k) ตอนแรกมันยังชวนให้ไปเป็นอาจารย์เลยครับ ทำงานชิวๆเหมือนเดิมทุกปีๆ ทุกวันนี้มัน25kกว่าๆ+ค่าครูปกครอง โอทีนู้นนี่ ไม่น้อยเลย
ตอนปิดเทอมก็ว่าง เตรียมนู้นนี่แปปเดียว บางวันมีสอนแค่2คาบ กลับบ้านปลูกบอนไซโคดสบาย อยู่ยาวๆยัน60 ไม่มีโดนไล่ออก

พนักงานบริษัทนี่ทำงานดึกดื่น ต้องพัฒนาตัวเองตลอด อายุ40ถ้าตามโลกไม่ทันก็โดนบีบออกละ เทดโนโลยีมาใหม่ก็ต้องตาม ตอนนี้ใช้Excel Accessก็ต้องเรียนBIเพิ่ม อยู่ดีๆก็มีระบบWMSเข้ามา ใครๆก็ใช้กัน ถ้าใช้ไม่เป็นก็โดนบีบออกจ้างใหม่ ก็เด็กๆมันเป็นกันหมดทั้งภาษาอังกฤษทั้งVBA เราแม่งเกิดมาโรงเรียนสอนdos ไม่รู้อีก2ปีต้องเปลี่ยนอะไรอีก อยากจะขึ้นเป็นleaderก็ต้องไปพัฒนาสกิลmanagementอีก คือชีวิตแม่งแข่งขันตลอด อยู่ดีๆยกเงินเดือนครูขึ้นมาดีกว่า เอ้า กูพยายามมาเพื่ออะไร
 


1. มันก็เป็นเรื่องของ supply & demand เหมือนเดิมครับ พอคุณขึ้นเงินเดือนครู มันก็จะมีคนเก่งอยากไปเรียนหรือสอบครูเพิ่มขึ้น มันก็จะบีบให้คนไม่เก่งน้อยลงไปเองครับ เพราะคนเก่งก็จะได้รับการคัดเลือกก่อนคนไม่เก่งครับ แล้วคุณคิดว่าเราจะขาดหมอหรืออาชีพเฉพาะทางหรอครับ ไม่เลยครับ แบบนั้นมันจะเป็นว่าใคร"ชอบ"หรืออยากเป็นอะไรก็เป็นได้ครับ เพราะรายได้มันดีพอที่จะใช้ชีวิตดีๆได้ ไม่ใช่ว่าทุกคนอยากมีเงินเยอะๆ ต้องไปเรียนหมอ เรียนวิศวะหมด

2. เราไม่ใช่อยู่ดีๆก็จะมาเพิ่มแค่เงินเดือนสิครับ เพิ่ม requirement เข้าไปด้วย เหมือนที่คุณบอกว่าทุกวันนี้ใครๆก็เป็นครูได้ ก็เพิ่มไปเลยครับ เหมือนพนักงานออฟฟิศนั่นแหล่ะครับ ต้องได้สกิลอะไรบ้างก็ว่าไป (จริงๆครูเองก็ต้องพัฒนานะครับ มันมีมาตรฐานประเมินผลใหม่ๆมาเรื่อยๆ)

3. ผมคือพนักงานออฟฟิศนะครับ แล้วก็มั่นใจด้วยว่าตัวเองพยายามมาตลอดชีวิตเหมือนกัน ยิ่งผมอยู่ในสาย IT ผมนี่ไม่สามารถไม่อัพเดตความรู้ได้เลยครับ ไม่งั้นตกรถแน่ๆ ซึ่งต่อให้ไม่ได้เป็นพนักงานออฟฟิศ ไอ้การเรียนรู้ตลอดชีวิตก็เป็นเรื่องปกติที่ควรจะทำอยู่แล้วนะครับ

ส่วนตัวแล้ว ผมพยายามมาเยอะมาก แต่ถ้าวันใดวันนึงมีอาชีพใดอาชีพนึงที่"จำเป็น"ต้องได้รับการยกระดับชีวิตขึ้นมา ผมเองก็ไม่ติดครับ ผมมองว่าพนักงานทำความสะอาด ยาม แม่บ้าน แรงงาน ทุกคนควรจะได้รับค่าแรงขั้นต่ำที่มากกว่าด้วยซ้ำครับ ทุกคนพยายามในแบบของตัวเองอยู่เสมอๆนะครับ หรืออย่างที่ผมทุกวันนี้เสียภาษีปีละเป็นแสน ผมก็ไม่เคยบ่นครับถ้าเงินตรงนั้นมันไปช่วยให้คนที่ลำบากดีขึ้นกว่าทุกวันนี้นะ

ปล.อาจารย์มหาลัย เงินเดือนไม่ถึงแสนแน่ๆครับ ถ้าไม่รับงานนอกนะ คนรอบตัวผมประมาณ 4-5 คน จบป.เอกอังกฤษ เป็นหัวหน้าภาควิชาและรศ.ด้วยซ้ำ เงินเดือนรวมค่าตำแหน่ง ฯลฯ ยังไม่ถึง 60k เลยนะแล้วค่าตำแหน่ง ศ.เอง + ไม่ถึง 50k หรอกครับ หรืออีกคน จบโทเยอรมัน เรียนเอกอยู่ตอนนี้ สอน ABAC ด้วย ยังไม่ถึงแสนเหมือนกันครับ  


เพราะว่าครูที่ขาดคือครูเฉพาะทางครับ คุณต้องไปเรียนหมอเรียนวิศวะก่อน แล้วอยากเป็นครูค่อยไปเสริม
ไม่มีใครจบครุแล้วสอนหมอไงครับ แล้วอยากที่บอก พออะไรที่เป็นเฉพาะทางเงินเดือนมันไม่น้อยอยู่แล้ว คุณเอาเงินเดือนครูปกติมาเทียบครูวิศวะ อาจารย์หมอหมอ ศาสตราจารย์ปกติไม่ได้

Career pathของครูราชการ คือ ไปเป็นผอ.ครับ ซึ่งเป็นไปตามระบบ สอบCสอบขั้นตามอายุงานไป
requirementไม่ช่วยอะไรเลย แล้วราชการไม่มีไล่ออกครับ อยู่กันไปยาวๆ ระบบมันเป็นแบบนี้จะหวังให้คนพัฒนาหรอ

ผมถึงบอกเพิ่มเงินเดือนไม่ช่วยอะไรเลย ถ้าคุณเก่งจริงอยู่ที่ไหนคุณก็เก่ง อยู่ที่ไหนคุณก็อยู่นอกกรอบ คนพร้อมจะจ่ายอยู่แล้ว ครูดังๆมีแต่คนแย่งตัวครับ

มีคนที่หวังเงินเดือนขั้นต่ำตั้งแต่เลือกเรียนด้วยหรอ เป็นผมจะดูว่ามันได้สูงสุดตรงไหนหรือเฉลี่ยตรงไหนมากกว่า
สมมุติปรับเป็นครูเริ่มต้น20K ตันเฉลีย30-40kเหมือนเดิม หมอเริ่มเท่ากัน20k ตัน100k คิดว่าคนจะเลือกเป็นครูมากขึ้นหรอครับ

ครูที่เก่งยังไงก็เก่ง เค้าไม่เรียกร้องหรอกให้ปรับฐานเพราะเค้าจะไม่หยุดที่ฐานครับ คนที่หวังฐานขั้นต่ำเพิ่มคือคนหวังเข้าไปสบายไม่ต้องทำอะไรเลยมากกว่า

ปล.ไม่ต้องถึงABACครับ แค่อ.วิศวะคอม มช เงินเดือนเริ่มต้น40-50K
 


นี่ไง ประเด็นคือคุณโฟกัสที่คนเก่ง ผมโฟกัสที่คน”ทั่วไป”ด้วยไงครับ ผมถึงใช้คำว่า equity ไง คือเราไม่ได้ต้องการ endorse แค่คนเก่ง แต่เราต้อง extend ไปถึงคนธรรมดาที่เหลือด้วยเช่นกันไงครับ แล้วก็ไม่ได้ให้โฟกัสแค่ starting salary ด้วยครับ แต่แท่งเงินเดือนมันต้องไปด้วยกันครับ ไม่งั้นใครอยากจะไปเป็นครูล่ะครับ เพราะครูมันคือ foundation สำหรับการพัฒนาคนในอนาคตเลยนะครับ

แล้วคุณไปโฟกัสที่แค่เงินเดือน ผมก็บอกไปแล้วว่ามันต้องปรับทั้งระบบครับ เงินเดือนเริ่มต้น requirement ตามทาง ค่าตอบแทนอื่นๆ การกำหนดสโคปทำงานให้ชัดเจน ฯลฯ เพื่อดึงให้คนเก่งเข้ามาในระบบไงครับ ไม่ใช่เอาแค่พวกไม่รู้จะเรียนอะไรมาเป็นครู มันต้องทำให้เกิด reformation ครับ

ปล. ไอ้ที่ผมบอกว่าไม่ถึงแสนเนี่ย อันนั้นรศ.ในสาขาที่ในไทยมีไม่ถึง 10 คนเลยนะ แล้วเป็นสาขาที่ขาดด้วยครับ (เป็นสาขานึงของแพทย์เลย) แล้วก็สอนทั้งโททั้งเอกเลยนะครับ นั่นคือที่ผมบอกว่ามันควรจะเพิ่มไงครับ คือเขยิบขึ้นทั้งแท่งครับ  


เรื่องคนทั่วไปผมตอบไปแล้วนะ ตรงๆนะ ประชากรวัยทำงาน36ล้านคน เป็นครูได้กี่คน ผมว่าเกินครึ่ง ครูบางคนยังสอนสู้ติวเตอร์ที่ไม่ได้จบครูไม่ได้เลยครับ ต่อให้requirementขนาดไหนบนพื้นฐานความเป็นจริงก็แค่นั้น สอนเด็กประถม มัธยม หรือมหาลัยต้องการrequirementอะไรมากมายหรอ แล้วถ้าคุณขยับฐานครูเพิ่มแล้วอาชีพอื่นหละ คิดว่าคนแบบไหนจะไปกองอยู่ที่อาชีพครูครับคนที่ดีขึ้นหรอ อย่างที่บอกคนที่มองเงินเดือนขั้นต่ำคือคนหวังงานสบายนั้นแหละ ถึงบอกมันอยู่ที่Demandอาชีพไหนใช้ความสามารถความชำนาญการเยอะก็ควรเงินเดือนสูงอะถูกแล้ว
เผลอๆไปตั้งrequirementต้องจบครุ ต้องผ่านcerนู้นนี่นั้น จะได้ครูแย่ลงซะมากกว่า ครูดังๆ ติวเตอร์ดังๆ หรือวิทยากรส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เรียนครูนะครับ มันคือประสบการณ์ สอนสิ่งที่ไม่มีในตำรา ซึ่งเป็นครูหรือเรียนครูโดยตรงมันหาไม่ได้ อย่างอาจารณ์ที่ผมชอบที่สุดคือแกทำIT directorที่CPว่างก็มาสอนเป็นอาจารย์พิเศษที่นิด้า ยกระดับฐานเงินเดือนช่วยอะไรแกได้หรอ แกจะออกจากCPมาทำครูเต็มตัวหรอ
อย่างที่เม้นบนๆบอกอะ ส่วนใหญ่คือสาขาที่ไปเรียนอย่างอื่นไม่ได้เลยมาลงสาขานี้

และเมื่อเพิ่มเงินครู คิดว่าใครจ่ายหรอครับ ภาระก็ตกอยู่กับผู้ปกครองไงครับไม่ใช่รัฐหรอก ค่าเทอมก็เพิ่มขึ้น
ทุกวันนี้ผปคก็เลือกครูครับ รร.อนุบาลแสงโสมเอย รร.อินเตอร์เอยตอนนี้ค่าเทอม 200K-300Kนะครับ และครูในst. stephen’sเงินเดือนไม่น้อยแน่ๆเพราะความสามารถเค้ามี ปรับขั้นต่ำช่วยยกระดับได้หรอในเมื่อครูที่เก่งใครได้ขั้นต่ำบ้าง ใครหรือคนแบบไหนได้ประโยชน์จากการกำหนดฐานเงินเดือน


แก้ไขล่าสุดโดย littlel3ear เมื่อ Wed Oct 27, 2021 13:04, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel