ถือเป็นการออมครับ

สำหรับมุมของผม (อายุ 41 ทำธุรกิจส่วนตัว) ประโยชน์ของประกัน ผมมองแค่การลดหย่อนภาษีและลดความเสี่ยงสุขภาพมากกว่าผลตอบแทนครับ ประกันสุขภาพ ประกัน PA ประกันชีวิต ผมทำรวมกันแค่เต็มวงเงินลดหย่อน

เรื่องออมและผลตอบแทน ผมไปลงทุนอย่างอื่นที่ความเสี่ยงสูงกว่านี้ครับ เพราะเคยออมกับประกันผลตอบแทนที่ได้จะโดนเงินเฟ้อกินเรียบครับ ตอนครบกำหนดได้คืน อารมณ์เหมือนได้คืนแค่เงินต้นเท่านั้น

ไม่คุ้มคับ เงื่อนไขเยอะ ถอนก่อนไม่ไได้ ผลตอบแทนไม่ได้มากเลยเทียบกับเงินเฟ้อ
ประกันควรจ่ายทิ้งคับ
ถ้าซื้อประกันออมทรัพย์ ไปศึกษาการลงทุนเพิ่มนิดหน่อยคับ มีหลายสินทรัพที่ถ้าถือยาวเป็น10ปี+ ขนาดนั้น แล้วผลตอบแทนดีกว่าประกันออมทรัพย์ ทั้งยังซื้อขายได้ตลอดเวลา

การออม การเก็บเงิน ก็สำหรับคนที่ไม่มีหัวลงทุน ไม่กล้าลงทุน กลัวเสี่ยง
มันเป็นวิธีเก็บเงินที่เซฟดีครับ นอกซะจากท่านหัวลงทุน โปรเจคมีเยอะ ก็เอาไปลงทุนดีกว่า

หรือดีที่สุดคนรวยก็แบ่งเป็ฯ2ส่วน เก็บมาออมและลงทุนไปด้วย
มีแต่งอกเงยครับ ทำไปเถอะ
แต่ดูดีๆว่าได้เท่าไร มันมีหลายแบบหลายเล่ม คนรวยๆส่งล้านได้คืน3-4ล้าน ยังไงก็คุ้ม

ตอบง่ายๆ เลยนะครับ อันนี้ถือเป็นวิธีคิดง่ายๆ

แม้ท่านจะอยากเอาเงินไปลงทุนก็ตาม
แต่ในความจริง ท่านคงไม่เอาเงินเก็บทั้งหมดไปลงทุน ถูกไหมครับ
ท่านต้องแบ่งเงินไปเก็บฝากธนาคารด้วย ซึ่งคงเป็นสัดส่วนที่เยอะกว่าการลงทุน
เพราะอะไร นั่นเพราะท่านรู้ว่า เราลงทุนด้วยเงินทั้งหมดไม่ได้ มันไม่ถูกต้อง
ต้องแบบมาเก็บ มาออมด้วย

งั้นกลับมามองใหม่ ประกันไม่ใช่การลงทุนครับ มันคือการออมเงิน การประกันความเสี่ยงบางอย่าง เช่น ชีวิต สุขภาพ
ถ้าใครบอกท่านว่า เอาเงินที่ทำประกันไปลงทุนดีกว่า
ผมว่าคนนั้นไม่ได้เข้าใจเรื่องการบริหารการเงินอย่างแท้จริง

ฝากเงินไว้กับประกัน แทบไม่มีความเสี่ยง
การันตีได้เงินคืนครบทุกบาททุกสตางค์ และอัตราผลตอบแทนอาจจะสูงกว่าฝากธนาคาร
แต่มันไม่มีสภาพคล่อง ถอนไม่ได้ แต่สิ่งดี คือมันเป็นวินัยทางการเงินของเรา
และที่สำคัญ มันดีสำหรับ คนที่มีพ่อแม่ ลูกเมีย
เพราะไม่มีการฝากเงินแบบไหนที่สามารถการันตีเงินก้อนใหญ่ให้เราได้ตั้งแต่แรก ที่เราเริ่มฝากเงินก้อนเล็ก
สมมติท่านมีครอบครัวหรือพ่อแม่ที่ท่านต้องเลี้ยงดู
ท่านส่งประกันปีละ 20,000
ตั้งแต่งวดแรก มันการันตีว่าท่านมีวงเงินประกันมูลค่าหลายแสนแล้ว
หากวันนี้เกิดเหตุไม่คาดฝัน คนที่ท่านรักจะมีเงินก้อนนี้ช่วยให้ผ่านช่วงเวลายากลำบากได้

มันต้องแยกคิดครับ แบ่งเงินเป็นก้อนๆ วางแผนแบบปีระมิด
เรื่องสำคัญก่อน เสี่ยงน้อยก่อน แล้วค่อยๆ ไปเรื่อยๆ

ถามว่าต้องการอะไร
ออมเงิน
ประกัน
ลงทุน

ทำทั้งสามอย่างยังได้ รึไม่ทำอันไหนก็ได้ แค่แพลนให้ชัด ยิ่งถ้าระยะยาวต้องคิดดีๆก่อนลงเงิน

ลงมาหลายกองแล้ว ไม่เคยได้กำไรเลย

หลังจากส่งประกันจนครบแล้ว ให้ไปหักเงินจ่ายกองทุนสำรอง 15% ไปเลยครับ อย่างน้อยก็ลดหย่อนภาษีได้และเป็นการลงทุนระยะยาว ยังไง 10 ปี+ ก็กำไรเป็นกอบเป็นกำ

ส่วนประกันสะสมทรัพย์ถ้าหักลดหย่อนทุกอย่างยังเจอฐานภาษีแพงๆอยู่ จะทำเพื่อลดหย่อนภาษีก็ไม่เสียหายนะครับ แต่ถ้าฐานภาษีแค่ 5-10% อย่าไปทำเลย มันเหมาะสำหรับคนฐานเงินเดือนเยอะๆ