'มาห์เรซ' ขอเบิ้ล! 'พัลเมอร์' ซัดด้วยเรือฉิวอัดคลับ บรูช 5-1
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เก็บชัยชนะไปอย่างไม่ยากเย็นหลังได้ ริยาด มาห์เรซ ยิงเบิ้ลรวมถึง โคล พัลเมอร์ เจ้าหนูดาวรุ่งเปิดซิงประตูแรกในเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก เรือใบสีฟ้า ไปเสียท่านิดโดนตีไข่แตกแต่ยังอัด คลับ บรูช 5-1 รั้งรองฝูงของกลุ่ม เอ ตามหลัง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง แต้มเดียว
คลับ บรูช
Starting Formation: 3-5-2
4.
สตานลี่ย์ เอ็นโซกี้

79'
4.5
19.
คามาล โซวาห์

56'
5.0
3.
เอแดร์ บาลันต้า

68'
5.5
26.
มัตส์ ริทส์

56'
5.0
90.
ชาร์ลส เดอ เคเตลาเร่

79'
6.5
ตัวสำรอง
25.
รุด ฟอร์แมร์

56'
6.0
29.
บาส โดสต์

79'
-
44.
บรานดอน เมเคเล่

79'
-
28.
อิกนาเซ ฟาน เดอ เบรมท์

56'
6.0
72.
โนอาห์ เอ็มบัมบา

68'
5.5
ฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กรุ๊ป เอ
สนาม ยาน เบรย์เดิลสตาดิโอน
วันที่ 19 ตุลาคม 2564
กรรมการ อิสต์วาน โควัคส์
คลับ บรูช
1
5
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
0-4 พัลเมอร์ 67'
1-4 ฟานาเค่น 81'
0-1 คันเซโล่ 30'
0-2 มาห์เรซ 43'
0-3 วอล์คเกอร์ 53'
1-5 มาห์เรซ 84'
จากผัง คลับ บรูช ปรับระบบมาเป็นหลังสามคน แล้วให้ ลัง กับ เคเตลาเร่ ยืนในแดนหน้าร่วมกัน
ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ โรเตชั่นโดยให้ เอแดร์ซอน กลับมาเฝ้าเสาและส่ง กรีลิช ลงมายืนเป็นกองหน้าเท่ากับว่า สเตอร์ลิ่ง โดนดร็อปกลับไปเป็นสำรอง
กรีลิช กระดกบอลเข้าประตูแต่โดนจับฟาวล์
แมนฯ ซิตี้ มีจังหวะส่งบอลเข้าประตูได้ในจังหวะที่เปิดยาวขึ้นหน้า กรีลิช วิ่งแข่งกับ มาต้า มาก่อนจะใช้ดัน มาต้า ล้มลงแล้วค่อยกระดกบอลเข้าประตู แต่กรรมการรออยู่แล้วเป่าจับฟาวล์
เรือยิงได้อีกแล้วแต่ ลาปอร์ต ถูกจับล้ำหน้า
แมนฯ ซิตี้ ส่งบอลเข้าประตูไปอีกหนแต่ก็ไม่ได้เหมือนเดิม หลังฟรีคิกตักเข้าไปในเขตโทษให้ โรดรี้ สอดมาแปะเข้าไปตรงกลางจบด้วย ลาปอร์ต ยิงเข้าไปแต่ก็มีการจับล้ำหน้า ลาปอร์ต
โฟเดน ยิงใส่เสาแรกยังเข้าข้างตาข่าย
ยังเป็น แมนฯ ซิตี้ บุกมาหาจังหวะจบอีกทีจากที่ แบร์นาร์โด้ จ่ายให้ โฟเดน พาบอลเข้าเขตโทษทางซ้ายแต่โดนประกบติดเหมือนกันเลยเลือกยิงเสาแรกยังเข้าข้างตาข่าย
เรือมาใหม่ KDB ยิงตรงตัวก่อนมีธงล้ำหน้า
โอกาสงามของ เรือใบ เลยกับจังหวะที่แทงให้ แบร์นาร์โด้ เข้าเขตโทษทางซ้ายก่อนหักมาตรงกลางถึง เดอ บรอยน์ จับแล้วยิงแต่ตรงตัว มิโญเลต์ แต่ถ้าเข้าก็ไม่ได้อีกมีธงล้ำหน้าตามมาทีหลัง
เรือนำเรียบร้อย! ดิอาส วางยาวถึง คันเซโล่ จิ้มลอดขาเข้า
หลังจากบุกฝั่งเดียวก็มีประตูนำให้กับ ซิตี้ เข้าจนได้ เมื่อ โฟเดน กลางสนามเลยเปิดโด่งขึ้นหน้ามามี คันเซโล่ รออยู่ไม่ล้ำหน้าพักอกเอาบอลลงโดนเบียดก็ยังไม่ล้มก่อนจะจิ้มลอดขา มิโญเล่ต์ พาทีมนำ 1-0
คลับ บรูชขอลุ้นหน่อยแต่ เอ็นโซกี้ โหม่งโดนบางเฉียบ
คลับ บรูช พยายามบุกมาบ้างจนได้เตะมุมในช่วงท้ายครึ่งแรก เคเตลาเร่ รับหน้าที่เปิดเข้าไปตรงกลางแต่ เอ็นโซกี้ พยายามโหม่งแล้วโดนบางสุดๆบอลไปออกข้างแทน
เรือได้จุดโทษ! มาห์เรซ ลุกมายิงเองไม่พลาดนำห่าง
แล้ว แมนฯ ซิตี้ ก็มาได้จุดโทษเข้าให้ภายหลังจังหวะทำชิ่งเข้าเขตโทษ เดอ บรอยน์ จับบอลหลุด มาห์เรซ เก็บได้ทันก่อนถูกแหย่สกัดล้มไปกรรมการเป่าให้
มาห์เรซ เป็นคนลุกมาสังหารเองแล้วก็ไม่พลาด แมนฯ ซิตี้ นำห่าง 2-0
เรือได้จบอีกสองหนแต่ยังไม่มีประตูเพิ่ม
แมนฯ ซิตี้ บุกมาอีกทีก่อนหมดครึ่งแรกจากที่ เดอ บรอยน์ จ่ายตามช่องให้ โฟเดน เข้าเขตโทษล็อกไว้แล้วไหลให้ มาห์เรซ วิ่งมายิงติดเซฟ จังหวะสองตามเก็บได้จ่ายคืน มาห์เรซ ก่อนวนออกมาให้ เดอ บรอยน์ ส่องหน้าเขตโทษก็ข้ามคาน
มาอีกลูก! วอล์คเกอร์ สอดมายิงเสียบเสาไกลตุงสาม
กลับมาครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี้ ค่อยๆเดินเกมบุกไปแล้วก็ได้ประตูทิ้งห่างออกไปอีก จากการฝากบอลไป มาห์เรซ ทางขวาก่อนจ่ายคืน เดอ บรอยน์ แล้วแทงเข้าเขตโทษให้ วอล์คเกอร์ วิ่งสอดมายิงเสียบเสาไกล แมนฯ ซิตี้ นำสบายๆ 3-0
ยังไม่สี่! โฟเดน หลุดเดี่ยวมายิงไม่ผ่าน
เกือบมีลูกสี่ให้กับ ซิตี้ ด้วยกับบอลที่ โฟเดน ได้ทีหลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษทางซ้ายดวลกับ มิโญเล่ต์ เสาแรกแต่ดันยิงไปไม่ผ่านเซฟ
ฟรีคิก มาห์เรซ ปั่นข้ามคาน
แมนฯ ซิตี้ ได้ฟรีคิกหน้าเขตโทษเยื้องมาทางขวามี เดอ บรอยน์ กับ มาห์เรซ ยืนกันอยู่สองคนก่อนลงเอยที่ มาห์เรซ ปั่นด้วยซ้ายข้ามคาน
ลงปุ๊บยิงปั๊บ! ราฮีม เปิดเรียดให้ พัลเมอร์ ยิงลูกสี่
แล้วลูกสี่ของ เรือใบ ก็มาเข้าจริงๆด้วยการแทงทะลุช่องให้ สเตอร์ลิ่ง วิ่งสอดมาทางซ้ายถึงเขตโทษปาดเข้ากลางให้ พัลเมอร์ เพิ่งลงมาได้เล็งแล้วยิงจากหน้าเขตโทษเข้าประตู แมนฯ ซิตี้ นำสบายๆ 4-0
เรือเกือบได้ลูกห้า วอล์คเกอร์ ปาดบอลห่างตัว กุนโดกาน ไป
น่ามีลูกห้าให้กับ แมนฯ ซิตี้ เข้าด้วยเมื่อ พัลเมอร์ เป็นคนแทงให้ วอล์คเกอร์ แล่บเข้าเขตโทษทางขวาแต่ดันปาดเข้ากลางเผื่อไปหน่อย กุนโดกาน เลยสอดมายิงไม่ได้
เรือมาอีก! ราฮีม สอดมายิงติดเซฟก่อนซ้ำเข้าข้างตาข่าย
โอกาสของ แมนฯ ซิตี้ ยังมาไม่หยุดแค่เปลี่ยนเป็นประตูไม่ได้เมื่อ สเตอร์ลิ่ง วิ่งตัดจากริมเส้นซ้ายมารับบอลในเขตโทษมีพื้นที่ว่างๆได้สับไกไปติดเซฟซ้ำอีกรอบก็เข้าข้างตาข่าย
เอแดร์ซอน ได้ออกแรงบ้างปัดลูกโหม่ง เคเตลาเร่
เอแดร์ซอน ยืนเหงามาทั้งเกมได้ออกแรงบ้างแล้วหลัง คลับ บรูช บุกขึ้นมาทางขวาด้วยการจ่ายให้ ฟาน เดอร์ เบรมท์ มาทางขวาถึงเขตโทษดึงเอาไว้แล้วครอสให้ เคเตลาเร่ โหม่งแต่โดนปัดทิ้ง
ไข่แตก! บอลครอสสะกิดเข้าทาง ฟานาเค่น ยิงเข้า
ท้ายเกม คลับ บรูช ตีไข่แตกเข้าจนได้หลัง ฟาน เดอ เบรมท์ ทางขวารับบอลมาพลิกถึงเขตโทษก่อนเปิดมามี ฟอร์แมร์ สะกิดเปลี่ยนทางมาหา ฟานาเค่น ได้ยิงเข้าไปพาทีมไล่มาห่างๆ 4-1
ยิงมายิงกลับ! แฟร์นานฯ เปิดยาวให้ มาห์เรซ หลุดเดี่ยวซัดหาย
แต่ยิงมา แมนฯ ซิตี้ ก็ยิงคืนได้จากกลางสนาม แฟร์นานดินโญ่ ชิพขึ้นหน้าทีเดียว มาห์เรซ หลุดเดี่ยวไม่ล้ำหน้าเดี่ยวๆกับ มิโญเลต์ ไม่พลาดเล็งแล้วล่อเป้าเข้าไปเลย แมนฯ ซิตี้ ปิดท้าย 5-1
เรือน่ามีอีกประตูแต่ ราฮีม ยิงไม่ดี
น่าจะมีอีกสักลูกให้ แมนฯ ซิตี้ จริงๆหลัง กุนโดกาน ส่งให้ คันเซโล่ เติมขึ้นไปทางซ้ายแล้วเปิดจังหวะแรกเข้าไปในเขตโทษ สเตอร์ลิ่ง สอดมายิงแต่ดันโดนไม่ดีซะงั้นเลยอดมีประตู
จบเกม แมนฯ ซิตี้ ยังเก็บชัยชนะเหนือ คลับ บรูช 5-1 ขึ้นมาเป็นจ่าฝูงชั่วคราวก่อนจะหล่นกลับไปเป็นรองจ่าฝูงโดยตามหลัง เปแอสเช คะแนนเดียว
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 4-3-3
14.
อายเมอริค ลาปอร์ต

57'
6.5
16.
โรดรี้

71'
7.5
17.
เควิน เดอ บรอยน์

65'
7.0
20.
แบร์นาร์โด้ ซิลวา

57'
7.5
47.
ฟิล โฟเดน

64'
8.0
ตัวสำรอง
8.
อิลคาย กุนโดกาน

57'
6.5
7.
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง

64'
6.0
6.
นาธาน อาเก้

57'
6.0
25.
แฟร์นานดินโญ่

71'
6.5
80.
โคล พัลเมอร์

65'
7.0
แก้ไขล่าสุดโดย redenzo เมื่อ Wed Oct 20, 2021 04:04, ทั้งหมด 6 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ