อเซนซิโอ้แฮตทริค! เบนซ์เบิ้ลยิง+จ่าย "ราชัน" อัดมาญอร์ก้า 6-1
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
กลายเป็นงานง่ายๆในช่วงกลางสัปดาห์ของ เรอัล มาดริด เมื่อพวกเขาเปิดบ้านยำใหญ่ มาญอร์ก้า 6-1 โดยได้ มาร์โก อเซนซิโอ้ ทำแฮตทริคบวกกับ คาริม เบนเซม่า ที่ยิง 2 จ่าย 2 ทำให้ทีมราชันชุดขาวเก็บเพิ่มเป็น 16 คะแนนจาก 6 นัด พร้อมกลับขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงลาลีก้า
เรอัล มาดริด
Starting Formation: 4-3-3
6.
นาโช่

80'
7
25.
เอดูอาร์โด้ คามาวินก้า

60'
7
11.
มาร์โก อเซนซิโอ้

72'
10
21.
โรดรีโก้

72'
7
9.
คาริม เบนเซม่า

80'
10
ตัวสำรอง
22.
อิสโก้

72'
7.5
17.
ลูคัส บาซเกซ

72'
6
43.
เซร์กิโอ ซานโต้ส

80'
6
16.
ลูก้า โยวิช

80'
6
27.
อันโตนิโอ บลังโก้

60'
6.5
ลาลีก้า
สนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว
พุธที่ 22 กันยายน 2564
กรรมการ ฆาเบียร์ อัลเบโรล่า
เรอัล มาดริด
6
1
มาญอร์ก้า
1-0 เบนเซม่า 3'
2-1 อเซนซิโอ้ 25'
3-1 อเซนซิโอ้ 29'
4-1 อเซนซิโอ้ 55'
5-1 เบนเซม่า 78'
6-1 อิสโก้ 84'
คามาวินก้าได้โอกาสลงตัวจริง
เรอัล มาดริด ต้องการชนะเพื่อแซงกลับไปเป็นจ่าฝูง วันนี้ในระบบเดิม 4-3-3 เบนเซม่า ยังเป็นความหวังหน้าเป้าโดยมี วินิซิอุส,โรดรีโก้ ขนายบข้าง ตรงกลางมีปรับเปลี่ยนเล้กน้อย โดยที่ คามาวินก้า และ อเซนซิโอ้ ได้โอกาสลงตัวจริงไปเล่นกับ บัลเบร์เด้
ฝั่งมาญอร์ก้าไปเล่น 4-2-3-1 โดยแนวรุกมีกองหน้าตตัวใหม่อย่าง ฮ็อปปี้ ยืนค้ำและมี คุโบะ,คัง-อิน,ลาโก้ คอยหนุน
• เจอกันในฤดูกาลก่อนหน้านี้เป็นการชนะบ้านใครบ้านมัน แต่ก่อนหน้านั้น 8 นัด เรอัล มาดริด ชนะ 7 เสมอ 1
• เรอัล มาดริด ไม่แพ้ในลีก 23 นัดติด
อย่างไว!เบนเซม่าฉวยโอกาสฉกหลุดซัด 1-0
เริ่มเกมมาได้ไม่ทันไรราชันชุดขาวมาได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่เหมือนจะไม่มีอะไร กองหลังดาวรุ่งอย่างกาย่าไปจับบอลพลาดลั่นเข้าทางเบนเซม่าที่วิ่งฉกหลุดเดี่ยวเข้าไปซัดด้วยขวาผ่านมือเรย์น่าตุงตาข่าย 1-0 ของทีมชุดขาวอย่างรวดเร็ว
คุโยะเกือบซัดเจ๊าเร็ว
มาญอร์ก้าได้ลุ้นบ้างเหมือนกันและเกือบเป็นประตูตีเสมอจากจังหวะที่คุโบะชิงจังหวะเอาชนะกูเตียร์เรซทางริมเส้นฝั่งขวาก่อนกระชาดหนีเข้าไปถึงกรอบเขตโทษแล้วได้เหลี่ยมแปด้วยซ้ายเน้นๆ แต่บอลพุ่งเรียดหลุดเสาสองไปอย่างน่าเสียดาย
อเซนซิโอเปิดมุมเกือบโค้งเข้า
มาดริดเกือบได้ประตูที่สองจากจังหวะเตะมุมทางฝั่งขวาที่อเซนซิโอ้ปั่นด้วยซ้ายฮุคไปที่เสาแรก บอลจะโค้งเข้าประตูอยู่แล้วแต่เรย์น่ายังผวาปัดออกไปได้หวุดหวิด
ลาโก้แตะซัดเน้นข้ามคาน ราชันเกือบโดน
มาญอร์ก้าน่าสได้ประตูตีเสมอสุดๆ จากจังหวะที่เล่นชิ่งหน้ากรอบเขตโทษแล้วเป็นคัง-อินที่ไขว้ให้ลาโก้แตะหลุดเข้าไปซัดด้วยขวาในกรอบเขตโทษ แต่บอลพุ่งแรงข้ามคานออกหลังไป
ราชันหนี!อเซนซิโอ้ซ้ำจ่อไม่เหลือ 2-0
ราชันบุกต่อเนื่องแล้วมาได้ประตูขึ้นนำเป็น 2-0 จากจังหวะที่วินิซิอุสแทงทะลุช่องให้โรดรีโก้หลุดเข้าในกรอบฝั่งซ้ายถึงเส้นหลัง เขาตวัดเปิดแฉลบแล้วบอลปลิ้นไปติดเซฟเรย์น่า แค่บอลก็กระฉอกมาเข้าทางอเซนซิโอ้ที่แปซ้ำด้วยซ้ายจ่อๆเบียดเสาแรกตุงตาข่ายไปเลย
ยังไม่ยอม!คัง-อินกระชากปั่นสุดสวย 2-1
มาญอร์ก้าใจไม่เสีย เมื่อพวกเขามาได้ประตุตีไข่แตกจากจังหวะที่คัง-อินชิ่งกับฮ็อปปี้แล้วกระชากลุยเดี่ยวมาถึงหน้ากรอบเขตโทษแล้วได้เหลี่ยมปั่นด้วยซ้ายเน้นๆ บอลพุ่งโค้งผ่านมือคูร์กตัวส์ตุงตาข่ายไปอย่างสวยงาม 2-1
เข้าทำสวย!อเซนซิโอ้เบิ้ล 3-1 ราชันบวกเพิ่ม
โดนตีไข่แตกไม่ทันไรมาดริดมาได้ประตูหนีห่างเป็น 3-1 จากจังหวะง่ายๆที่มิลิเตาจ่ายบอลเรียดจากกลางสนามไปหน้ากรอบเขตโทษให้เบนเซม่าพิงแล้วแตะจังหวะเดียวให้อเซนซิโอ้รับช่องพาบอลเข้าไปยิงด้วยซ้ายในกรอบเขตโทษตุงตาข่าย
วินิซิอุสซัดไกลหลุดกรอบ
อีกครั้งของมาดริด คราวนี้เป็นจังหวะที่วินิซิอุสรับบอลจากบัลเบร์เด้แล้วได้โอกาสลองซัดด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลก็พุ่งหลุดกรอบไป
อเซนซิโอ้ยิงจ่อติดบล้อค
มาดริดน่าได้ประตูที่สี่สุดๆ จากจังหวะบอลเปิดเข้าไปในกรอบเขตโทษแล้วเบนเซม่าโขกชงให้อเซนซิโอ้โฉบมายิงจ่อๆ แต่ไปติดกาย่าที่พุ่งมาบล็อตได้หวุดหวิด
วินิซิอุสหลุดยิงไมดี
ท้ายครึ่งแรกแล้วราชันยังมาเรื่อยๆ คราวนี้เป็นจังหวะที่วินิซิอุสรับบอลจากอเซนซิโอ้เข้าไปยิงในกรอบเขตโทษแต่บอลก็เบาไปติดเซฟของเรย์น่า
สุดท้ายจบครึ่งแรกเป็นมาดริดที่เล่นได้ดีกว่าและออกนำไปก่อน 3-1 ฝั่งมาญอร์ก้าก็มีโอกาสวูบวาบเหมือนแต่ก็ยังไม่เด็ดขาดเท่า
ลาโก้หลุดซัดข้ามคาน
เริ่มครึ่งหลังมาเป็นมาญอร์ก้าที่ได้ลุ้นก่อน จากจังหวะที่ลาโก้ จูเนียร์ได้บอลหลุดเข้าไปในกรอบฝั่งซ้าย ก่อนเอียงปั่นด้วยขวาแต่บอลพุ่งหลุดข้ามคานไป
วินิซิอุสจังหวะจบยังห่วย
มาดริดน่าได้ประตูที่สี่แบบสุดๆ จังหวะที่เล่นชิ่่งมาที่หน้ากรอบเขตโทษแล้วเป็นเบนเซม่าที่ไหลให้วินิซิอุสหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย เขาดึงจังหวะหลอกกองหลังเข้าขวาก่อนแปไปติดเซฟเรย์น่า
เบนซ์ชาร์จหายแต่โดน VAR จับฟาวล์
มาดริดได้เฮเมื่อเบนเซม่าชาร์จลูกเปิดเรียดของโรดรีโกตุงตาข่าย แต่กลายเป็นเฮเก้อเพราะโดน VAR จับว่าเป็นจังหวะที่เขาวิ่งไปฟาวล์ใส่ซาสเตรเสียก่อน
ฮ็อปปี้ตวัดวอลเลย์ข้ามคาน
มาญอร์ก้าได้ลุ้นจากจังหวะเตะมุมทางฝั่งซ้าย เป็นคัง-อินที่เปิดเลยไปเสาสองแล้วเป็นฮ็อปปี้ที่ได้ตวัดวอลเลย์ด้วยขวา แต่บอลก็พุ่งหลุดกรอบออกหลังไป
แฮตทริคไปเลย!อเซนซิโอ้กดอย่างงาม 4-1 ราชันสบายๆ
ราชันมาได้ประตูหนีห่างเป็น 4-1 จนได้ จากจังหวะที่อเซนซิโอ้รับบอลจากเบนเซม่าแล้วแต่งเข้าซ้ายแล้วกดเต็มข้อจากหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงผ่านมือเรย์น่ายัดเสาซ้ายมือสุดสวย เป็นแฮตทริคของเจ้าตัวด้วย
ลาโก้หมุนตัวซัดเรียดผ่านหน้าประตู
จังหวะเตะมุมทางฝั่งซ้ายของมาญอร์ก้า คัง-อินเปิดไปที่เสาแรกแล้วบอลตกพื้นเข้าทางลาโก้ที่หมุนตัวตวัดยิงด้วยซ้าย แต่บอลก็พุ่งเรียดผ่านหน้าประตูหลุดเสาสองไป
อับดอนยิงใบไม้ร่วงข้ามคาน
มาญอร์ก้ายังพยายามเอาประตูตีตื้น คราวนี้ได้ลุ้นจากจังหวะที่อับดอนได้โอกาสวางเท้าดีดวอลเลย์ด้วยซ้ายหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงแต่ฮุคข้ามคาน
หนีไปอีก!เบนซ์ซัดแฉลบราชันโกย 5-1
ราชันชุดขาวมาได้ประตูหนีเป็น 5-1 จากจังหวะที่อลาบ้าวางบอลจากกลางสนามเข้าให้เบนเซม่าหลุดไปพักลงในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนที่จะได้จังหวะตวัดยิงไปแฉลบบล็อคของวัลเยนท์เปลี่ยนทางเข้าประตูไปเลย
ครึ่งโหล!อุสถวานพานอิสโก้ซัดไม่เหลือ 6-1
ท้ายเกมราชันมาบวกเพิ่มเป็นครึ่งโหล จากจังหวะบอลยาวจากแดนตัวเองของอลาบ้าอีกแล้ว คราวนี้เป็นวินิซิอุสที่ชิงเหลี่ยมเอาชนะซาสเตรหลุดไปเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนครองดึงจังหวะรอแล้วไหลให้อิสโก้เติมมาแปด้วยขวาเข้าไปง่ายๆ 6-1
คูร์กตัวส์มีจังหวะเซฟบ้าง
มาญอร์ก้าน่าได้ประตูปลอบใจก่อนจบเกม จากจังหวะที่นายด่านอย่างเรย์น่าเปิดบอลยาวให้ปรัตส์หลุดเดี่ยวไปทางกรอบฝังซ้าย เขาพยายามจะยกนิ่มแต่คูร์กตัวส์ยังปัดมือเดียวเอาไว้ได้
บาบ้าส่องไกลติดเซฟ
มาญอร์ก้ายังพยายามลุ้นอยู่ คราวนี้เป็นจังหวะที่บาบ้าได้วางเท้าซัดด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษแต่บอลก็พุ่งไปตรงตัวติดเซฟคูร์กตัวส์
ราชันถล่มครึ่งโหลแซงฝูง
สุดท้ายจบเกมเป็นเรอัล มาดริดที่เปิดบ้านถล่มชนะไป 6-1 ทำให้พวกเขาเก็บเพิ่มเป็น 16 คะแนนจาก 6 นัด ขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูง พร้อมกับทำสถิติไม่แพ้ในลีก 24 นัดติดต่อกัน
มาญอร์ก้า
Starting Formation: 4-4-2
29.
โจเซป กาย่า

59'
4.5
6.
เฟบาส

59'
6
17.
ทาเคฟุสะ คุโบะ

46'
6
11.
ลาโก้ จูเนียร์

76'
6.5
25.
แมตธิว ฮ็อปปี้

59'
6
ตัวสำรอง
18.
ฆอเม่ คอสต้า

59'
6
9.
อับดอน ปรัตส์

59'
6
7.
จอร์ดี้ เอ็มบูล่า

76'
6
12.
ไอดริสซู บาบ้า

46'
6
10.
อันโตนิโอ ซานเชซ

59'
6
แก้ไขล่าสุดโดย MEGITSAMA เมื่อ Thu Sep 23, 2021 05:53, ทั้งหมด 9 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ