ตายยาก!! เบนซ์,อุส คนละดอก "ราชัน" คัมแบ็คเชือดค้างคาว 2-1 นำฝูง
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
เรียกได้ว่าตายยากสุดๆสำหรับ เรอัล มาดริด หลังจากบุกไปโดน บาเลนเซีย นำก่อนและเกือบจะแพ้อยู่แล้วแต่ท้ายเกม ววินิซิอุส จูเนียร์ และ คาริม เบนเซม่า ช่วยกันยิงนาที 86 และ 88 ทำให้ราชันชุดขาวบุกซิวไอ้ค้างคาว 2-1 พร้อมเก็บเพิ่มเป็น 13 คะแนนจาก 5 นัด ขยับขึ้นไปนำจ่าฝูงลาลีก้าแบบเดี่ยวๆ เป็นที่เรียบร้อย
บาเลนเซีย
Starting Formation: 4-4-2
2.
เธียร์รี่ คอร์เรอา
23'
6
19.
อูโก้ ดูโร่
79'
7.5
10.
คาร์ลอส โซเลร์
15'
6
9.
มักซี่ โกเมซ
80'
6.5
7.
กอนซาโล เกเดส
79'
6
ตัวสำรอง
11.
เอลแดร์ คอสต้า
79'
5.5
3.
โทนี่ ลาโต้
23'
6.5
8.
ยูรอส ราซิช
80'
5.5
22.
มาร์กอส อันเดร
79'
6
4.
ยูนุส มูซาห์
15'
6.5
ลาลีก้า
สนาม เมสตาย่า
อาทิตย์ที่ 19 กันยายน 2564
กรรมการ ปาโบล กอนซาเลซ
บาเลนเซีย
1
2
เรอัล มาดริด
1-1 วินิซิอุส 86'
1-2 เบนเซม่า 888'
บาเลนเซียเกมนี้สภาพทีมค่อนข้างพร้อมทีเดียวเพราะขาดแค่เชรีเชฟที่เจ็บ พวกเขามาเล่น 4-4-2 โดยใช้ เกเดส,โกเมซ ยืนคู่หน้า และมีแผงกลางอย่าง ดูโร่,กีญามอน,วาสส์,โซเลร์ คอยหนุน
มาดริดเกมนี้มีปัญหาตัวเจ็บหลานยคนเหมือนเดิมเช่น เบล,โครส ที่ไม่มีชื่อ ในระบบ 4-3-3 เบนเซม่า,อาซาร์,วินิซิอุส เป็นสามประสาน โมดริช,คาเซมิโร่,บัลเบร์เด้ คอยหนุนตรงกลาง กองหลังซ้ายไปขวา นาโช่,อลาบ้า,มิลิเตา,การ์บาฆาล และ คูร์กตัวส์ เฝ้าเสาตามเดิม
• เจอกัน 5 นัดหลัง เรอัล มาดริด ชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 1
• เจอกันฤดูกาลที่แล้วชนะบ้านใครบ้านมันโดย บาเลนเซีย ถล่มก่อน 4-1 ก่อนที่ มาดริด จะเอาคืน 2-0
• เรอัล มาดริด ไม่แพ้ในลีกมา 22 นัดติด
• บาเลนเซีย ชนะเกมเหย้าในลีก 4 นัดติด
คาเซมิโร่ได้ซัดทักทายบดไปนิด
โอกาสลุ้นครั้งแรกในเกมนี้เป็นของมาดริด เป็นจังหวะที่การ์บาฆาลเปิดแฉลบบล็อคแล้วบอลมาเข้าทางบัลเบร์เด้ได้ซัดด้วยซ้ายริมกรอบเขตโทษแต่บอลก็ไปติดบล็อคแล้วเด้งเข้าทางคาเซมิโร่ที่วางเท้าซัดด้วยขวาบดหลุดกรอบออกหลังไป
บัลเบร์เด้ซัดตามน้ำติดเซฟ
อีกครั้งของมาดริด อาซาร์กระชากพลิ้วมาทางฝั่งขวาก่อนแทงให้่บัลเบร์เด้หลุดไปซัดตามน้ำในกรอบฝั่งขวา บอลพุ่งตรงกรอบแต่ติดเซฟมามาร์ดาชวิลี่ ก่อนที่อัลเดเรเต้จะเคลียร์ทิ้งออกไปได้
โซเลร์เจ็บเล่นต่อไม่ไหว
บาเลนเซียโชคร้ายเมื่อโซเลร์เกิดอาการบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหวทำให้ต้องถูกเปลี่ยนตัวออก และเป็นมูซาห์ที่ได้โอกาสลงไปเล่นแทน
ค้าวคาวซวยจัด!คอร์เรอาเจ็บอีกราย
เกมผ่านมาครึ่งทางครึ่งแรกบาเลนเซียโชคร้ายผู้เล่นเจ็บเป็นรายที่สอง คราวนี้เป็นคอร์เรอาที่เจ็บบริเวณต้นขาจากจังหวะวิ่งเบียดกันกับอาซาร์ ทำให้เจ้าถิ่นต้องใช้โควต้าเปลี่ยนตัวคนที่สอง โดยเป็นลาโต้ที่ลงไปเล่นแทน
ราชันเจ็บบ้าง...
มาดริดมีตัวเจ็บเหมือนกัน โดยเป็นการ์บาฆาลที่ฝืนเล่นต่อไม่ไหวทำให้ต้องถูกถอดออกและเป็นบาซเกซที่ได้ลงไปเล่นแทน
คาเซมิโร่ได้ปั่นติดซฟ
ราชันชุดขาวสวนกลับได้จบอีกครั้ง เป็นจังหวะที่อาซาร์ได้บอลมาทางริมกรอบฝั่งขวาก่อนไหลขวาให้คาเซมิโร่ได้วางเท้ากดด้วยขวา บอลพุ่งโค้งตรงกรอบแต่ไปติดเซฟมามาร์ดาชวิลี่
กาเบรียลสอดโขกติดคูร์กตัวส์
ค้างคาวเกือบได้ประตูขึ้นนำสุดๆ จังหวะที่วาสส์รับหน้าที่เปิดฟรีคิกเข้าไปในกรอบเขตโทษแล้วเป็นกาเบรียลที่โฉบสอดไปโหม่ง บอลเปลี่ยนทางตรงกรอบติดเซฟคูร์กตัวส์อย่างน่าเสียดาย
สุดท้ายจบครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0 โดยที่ทั้งสองฝั่งยังมีจังหวะเข้าทำแบบจะแจ้งไม่เยอะเท่าไหร่
เกเดสซัดเน้นๆหลุดข้ามคาน
บาเลนเซียเริ่มครึ่งหลังได้ดีที่เดียว จังหวะนี้่น่าขึ้นนำแบบสุดๆ จังหวะที่มูซาหืได้บอลพลิ้วหลุดเขาไปในกรอบฝั่งขว่าก่อนปาดเรียดไปบบริเวณจุดโทษให้เกเดสวางเท้าซัดด้วยขวาเน้นๆ แต่บอลพุ่งเหินข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย
ดูโร่ได้แปเรียดติดเซฟคูร์กตัวส์
ครั้งของบาเลนเซีย เป็นจังหวะที่พวกเขาดักได้หน้ากรอบเขตโทษของมาดริดก่อนที่เกเดสจะได้บอลเข้าไปในกรอบฝั่งขวา เขาดึงจังหวะแล้วไหลให้ดูโร่แปด้วยซ้าย ก็ยังพุ่งเรียดไปติดเซฟคูร์กตัวส์
บาซเกซหวดแถวสองติดเซฟ
โอกาสของมาดริดบ้าง เป็นจังหวะที่พวกเขาขึงเกมรุกอยู่แล้วเป็นบาซเกซได้เหลี่ยมวอลเลย์ด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลพุ่งไปตรงตัวติดเซฟมามาร์ดาชวิลี่
เอาแล้ว!ดูโร่ส้มหล่นซัดหาย 1-0 ค้างคาวนำ
แล้วแฟนบอลบาเลนเซียก็ได้เฮสุดเสียงจากจังหวะที่ฟุลคิเยร์เปิดบอลจากทางริมเส้นฝั่งขวาโด่งเข้สไปในกรอบเขตโทษ ก่อนที่บอลจะตกใส่ศีรษะของบาซเกซแล้วเข้าทางปืนของดูโร่ทางเสาสอง เขาจัดการซัดด้วยซ้ายผ่านบล็อคมิลิเตาพุ่งหนีคูร์กตัวส์ตุงตาข่ายไปเลย 1-0 ทันที
เบนซ์ลุยยิงเองติดเซฟ
หลังจากเสียประตูราชันเกือบตีเสมอได้ทันควัน จากจังหวะที่เบนเซม่ากระชากบอลมาที่ริมกรอบเขตโทษก่อนได้เหลี่ยมกดด้วยซ้ายเน้นๆ บอลพุ่งตรงกรอบแต่ก็ไปติดเซฟมามาร๋ดาชวิลี่
เบนซ์ปั่นไกลเข้าซองมามาร์ดาชวิลี่
อีกครั้งของมาดริด เป็นจังหวะที่เบนเซม่าได้เหลี่ยมวางเท้าปั่นไกลด้วยขวา บอลพุ่งโค้งได้น้ำหนักแต่ก็ยังไปเข้าซองมามาร์ดาชวิลี่
เอาคืนได้!วินิซิอุสซัดแฉลบ 1-1 ราชันเจ๊า
ท้ายเกมมาดริดโหมบุกหนักแล้วมาได้ประตูตีเสมอจนได้ จากจังหวะที่เบนเซม่าพักบอลริมกรอบเขตโทษก่อนไหลให้วินิซิอุสหลุดไปเอียงตัวแปด้วยขวาทางกรอบฝั่งซ้าย บอลพุ่งไปแฉลบฟุลคิเยร์เปลี่ยนทางเข้าเสาแรกไปเลย 1-1 หมดสิทธิ์สำหรับมามาร์ดาชวิลี่ที่ขยับเสียหลักไปแล้ว
โกงตาย!เบนซ์โฉบเปลี่ยนทาง 2-1 ราชันแซงนำ
แล้วทำไปทำมาราชันมาได้ประตูแซงนำเฉยเลย จากจังหวะที่วินิซิอุสได้บอลทางริมกรอบฝั่งซ้ายก่อนแต่งเข้าขวาแล้วครอสเข้าไปตรงกลางให้เบนเซม่าโฉบแแทรกตัวใช้หัวไหล่กระแทกบอลเปลี่ยนทางตุงตาข่ายไปเลย
ราชันคัมแบ็คเชือด 2-1 นำฝูงเดี่ยว
สุดท้ายราชันปิดเกมเอาชนะไป 2-1 ทำให้พวกเขามีเพิ่มเป็น 13 คะแนนจาก 5 นัด ขึ้นไปรั้งจ่าฝูงแบบเดี่ยวๆได้เป็นที่เรียบร้อย พร้อมกับทำสถิติไม่แพ้ในลีก 23 นัดติด
เรอัล มาดริด
Starting Formation: 4-3-3
2.
ดานี่ การ์บาฆาล
25'
6
14.
คาเซมิโร่
67'
6.5
10.
ลูก้า โมดริช
67'
6
15.
เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้
78'
6.5
7.
เอแด็ง อาซาร์
78'
6.5
ตัวสำรอง
22.
อิสโก้
78'
6.5
17.
ลูคัส บาซเกซ
25'
6.5
16.
ลูก้า โยวิช
78'
6
21.
โรดรีโก้
67'
6
25.
เอดูอาร์โด้ คามาวินก้า
67'
6.5
แก้ไขล่าสุดโดย MEGITSAMA เมื่อ Mon Sep 20, 2021 04:11, ทั้งหมด 16 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ