ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: COYS
: 0 ใบ
: 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2015
ตอบ: 32010
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Sep 10, 2021 19:59
[RE: แฟนบอลไทยนี้ต้องแขวะเวียดนามตลอดเลยหรอ ขนาดเขาไปรอบ 12 ทีมนะ]
จริงๆผมเข้าใจที่มู้นี้จะสื่อนะ
แต่ผมจะลองอธิบายในมุมผมถึงที่มาที่ไปของการเกลียดขี้หน้ากันของสองชาตินี้ทั้งด้านฟุตบอลและด้านอื่นๆ
ถ้าฟุตบอลความถ่อยละแน่ๆ1สิ่ง จากประสพกามดูบอลเหงียนตั้งแต่กลับมาลืมตาอ้าปากได้ตั้งแต่ปี95ที่ซีเกมส์เชียงใหม่
สไตล์นึงที่เหงียนมันไม่เคยเปลี่ยนไปเลยคือเวลาเล่นกับไทยต้องมีดาบและถ่อย และมุ่งมั่นจเอาชนะไทยตลอด ซึ่งมันคือไมนด์เซ็ทฝังหัวคนเวียตนามมาตลอดว่าต้องล้มไทยให้ได้ไม่เฉพาะเรื่องฟุตบอล แต่ต้องเอาชนะให้หมดทั้งเรื่องเศรษฐกิจ หรือแทบทุกอย่าง จนกลายเป็นว่าพอเจอไทยทีไรเหมือนมันจะมีพลังพิเศษขึ้น10เท่า จากแต่ก่อนวิ่งสู้ฟัดยังไงทุกวันนี้ก็เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือวิ่งเป็นระบบากขึ้นซึ่งแต่ก่อนวิ่งแบบไม่มีทรง ทำฟาวล์โง่ๆแบบไม่มีมาดมีทรง
ซึ่งจริงๆแต่ก่อนเราไม่ค่อยได้มองว่ามันเป็นคู่แข่งอะไรเราเท่าไหร่ในทุกๆเรื่องไม่แค่ฟุตบอล เราก็แค่พัฒนาชาติกันไปในแบบของเราเหมือนแข่งกะตัวเองและมองเป้าหมายที่สูงกว่าเราที่เราอยากเป็นแบบเขาเช่นพวกเกาหลี ญี่ปุ่นมากกว่า
และเช่นกันเหงียนมันก็อยากพัฒนาชาติเลยต้องมองเป้าหมายที่สูงกว่าเพื่อหาตัวละครร้ายๆมาเป็นแรงจูงใจในการเอาชนะซึ่งหวยก็ออกที่ไทยนั่นเอง แม้แต่แผนพัฒนาชาติโดยเหม่ยอะไรนั่นก็ยังอ้างอิงจากไทยซะเยอะ เพราะงั้นไม่แปลกที่เราจะคือเป้าหมายอันดับหนึงในการก้าวผ่านให้ได้ของชาวเหงียน
ให้นึกถึงว่าเรามุ่งมั่นจะพัฒนาให้ตัวเองไปเทียบพวกเกาหลีญี่ปุ่น ไต้หวัน แต่ถ้าลองมองในมุมชาติที่ว่ามาเค้าก็แทบไม่ได้กังวลอะไรเราเลยว่าเราจะไปแซงเค้าเพราะด้วยอะไรหลายๆอย่างเค้ารู้ว่ามันแทบเกิดขึ้นยากมากเค้าเลยก็แค่แบบ อ๋อเหรอ อืม ซึ่งมันก็ฟีลประมาณเรามองไปที่เหงียนสมัยก่อนนั่นแหละ
แต่ก็อย่างที่เราทราบทุกวันนี้พอเหงียนมันเปิดประเทศการพัฒนาชาติมันก็เริ่มเข้ามาใกล้เราแล้วของเราเหมือนหยุดนิ่งกันเพราะการเมืองที่เราทราบๆกัน ทีนี้การที่เค้าวิ่งตามเราส่วนเราเดินชิลๆหยุดรอ ไอ้เรื่องตัวเลขทางเศรษฐกิจๆอะไรมันเริ่มมาใกล้เราเข้าทุกที จากการที่เรามองมันไปแค่ว่า อ๋อเหรอ จะแข่งกับเราเหรอ มันกลายเป็นฟีลประมาณว่า เห้ยเอาไงดีวะมันเริ่มไล่หลังกรุแล้วว่ะ กลายเป็นเราก็ถึงเวลาที่ต้องมองมันแบบจริงจังสักที
ด้วยนิสัยของชนชาติด้วยส่วนหนึงคือนิสัยประจำชาติเหงียนคือพวกบ้าพลัง กระตือรือร้น มุ่งมั่น ซึ่งมันจะคนละสไตล์กับนิสัยประจำชนชาติเราที่เป็นคนง่ายๆ สบายๆ อะไรก็ได้ ใจดีโอบอ้อมอารี มีความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งด้วยนิสัยของเหงียนมันเป็นหนึ่งในคุณลักษณะของผู้ชนะในการจะทำอะไรสักอย่าง แต่นิสัยแบบนี้ผมว่าข้อเสียคือมันบ้าการเอาชนะจนขาดสติในบางครั้งจนเหมือนเข้าพรวดโฉ่งฉ่าง
ทีนี้มาว่าเรื่องฟุตบอล เอาจริงๆเราเริ่มมาเดือดๆกับแฟนบอลเวียตนามเมื่อหลังๆนี่เองประมาณหลังปี2013เป็นต้นมาซึ่งตรงกับช่วงที่เหงียนดรีมทีมยู19ชุดเด็กเทพในตำนานถือกำเนิดขึ้นแน่นอนเอ่ยชื่อมาใครก็รู้จักท่านเทพ เหงียนกงเฟืองในตำนานนั่นเอง แล้วไทมไลน์ช่วงนั้นคือชุดนั้นของเหงียนมันชนะเกมอุ่นเครื่องบ่อยจนแฟนบอลเริ่มติดใจ จนถึงขนาดที่ว่าลงเตะกับทีมชาติยู19ทีมชาติเหงียนชุดจริงแทบไม่มีใครเชียร์ทีมชาติเลยเชียร์แต่ยู19เฉพาะกิจของท่านเทพแล้วพอคัดบอลยู19เอเชียก็ขนชุดท่านเทพไปผสมกับทีมชาติจริงผลงานดีชนะออสซี่ได้ชนะทีมใหญ่ได้จนเกิดวลีจากเกรียนเหงียนโซเชียลว่า wait u 19 นั่นเอง
ซึ่งนั่นคือการถือกำเนิดของสงครามโซเชียลในอาเซียนกับเหงียน เพราะเหงียนโม้ยู19จนแฟนบอลอาเซียนหมั่นไส้ แต่ด้วยความเหงียนมันไม่สนใจชาติอื่นมันสนใจแค่ไทยมันเลยชอบมาแขวะเปรียบเทียบกับไทยมากที่สุดซึ่งเหตุผลก็คือที่ผมกล่าวมาจากข้างบนที่รัฐบาลเหงียนฝังหัวมาให้เอาชนะไทยโดยใช้ไทยเป็นตัวตั้งในทุกด้านทืั้งกีฬา เศรษฐกิจ บันเทิง เกมส์ ท่องเที่ยว ฯลฯ นับจากนั้นแหละ สองชาตินี้เลยเป็นอริกันอย่างเป็นทางการสืบมาจนบัดนี้และตลอดไป
เพราะงั้นหลังจากนั้นๆมานิดๆหน่อยๆมีแขวะกันเสมอ ประเด็นเท่าจิ๋มมดก็เอามาแขวะกันได้ ส่วนนึงที่หนักคือสื่อเหงียนด้วยความเป็นคอมมิวนิสต์สื่อมันต้องบิดเบือนข่าวเป็นธรรมดาเพื่อสร้างศูนย์รวมความเกลียดชัง เพื่อให้คนในชาติไปในทางเดียวกัน
หลายๆข่าวจากฝั่งไทยเอาเฉพาะเรื่องฟุตบอลมีการบิดเบือนเนื้อหาเรียกแขกให้คนเกีลยดไทยอยู่เรื่อยๆ
ยก ตย.ข่าวเจให้สัมภาษณ์ปกติซึ่งถือว่าไม่น่ามีประเด็นอะไรแล้วที่ฟังน้องพูดคือพูดดีแถมให้เกียรติคเหงียนมากแต่มันแปลข่าวไปอีกทางเลยคือหาว่าไปดูถูกมัน อยู่ดีๆเจอเหงียนบุกเฟสบุคเฉยแบบงงๆ ซึ่งมันก็มีบางครั้งที่เจมันผิดจริงอย่างตอนที่เจไปเม้นตอนฐิติพันธ์ตบหัวนักบอลเหงียนตอนคิงส์คัพแต่นอกจากนั้นคือโดยปั่นข่าวแบบงงๆทั้งนั้น
และด้วยความเกรียนของสองชาติที่พอๆกันมันเลยยั่วยุกันไปมาจนหลังๆผมเริ่มขี้เกียจอ่านละเพราะรู้ว่าเหงียนมันชอบคิดเองเออเองเสมอเหมือนชอบคิดว่าตัวเองเป็นนางเอกแสนดีโดนกระทำฝ่ายเดียวทั้งที่บางครั้งหลักฐานชัดเจนว่าพวกมันก็ถ่อยแต่มันก็ไม่ยอมรับเลยรู้สึกว่าจะไปเสียเวลาชีวิตกับพวกบ้านี้ทำไม
และหนึ่งในนิสัยเสียของมันคืออยากให้คนเค้ายอมรับยอมซูฮกมันแต่พอคนชาติอื่นเค้าไม่ยอมรับไม่ซูฮกมันแต่หันมาชมไทยมันกลับไม่ยอมไปด่าเค้าด้วยว่าชมไทยทำไมไม่เห็นเมพเท่าพวกมันเลย เอ๊า อะไรของพวกมรึงเนี่ย คือด้วยความที่มันเป็นรองเรามานานพอได้ลืมตาอ้าปากหน่อยเลยแสดงธาตุแท้เหมือนเด็กขี้อิจฉาออกมาชัดเจน
ซึ่งผมก็ไม่ได้จะอวยแต่เราด่าแต่เหงียนนะ เกรียนฝั่งเราเองก็ใช่ย่อย ซึ่งก็งี่เง่าพอกัน
ซึ่งพอแก่ขึ้นผมก็เลือกเสพย์ละเพราะรู้แกวหมดแล้วอันไหนมีเหตุผลอันไหนเกรียนก็ปล่อยผ่าน อาจมีบางเรื่องที่ทืำใจยอมรับไม่ได้แต่มันก็คือความจริงเวลาผ่านไปเดี๋ยวมันก็หายเจ็บ
ซึ่ง ณ ปัจจุบันมีหลายเรื่องที่เหงียนมันยอมรับเราถ้าไม่นับฟุตบอลนะ เช่นเรื่องการท่องเที่ยว การบันเทิง วอลเล่ย์บอล ฟุตซอล ยิ่งถ้านับเรื่องบันเทิงนี่เหมือนคนละชั้น พวกเหงียนเสพย์สื่อบันเทิงเราเยอะมากลองไปดูตามยูตูบได้ ละคร ซีรีส์ เพลงไหนดังๆ หรือไม่ดังมากจะต้องมีคอมเมนต์จากเหงียนเสมอ ดาราดังบ้านเราเหงียนรู้จักทุกคน แล้วถ้ามองกลับกันถามว่าคนบ้านเราสนใจสื่อบันเทิงเหงียนมั๊ย ผมกล้าตอบยเลยเลยว่าไม่ ถึงมีก็ไม่มาก ลองให้เวลา10วิตอบชื่อดาราดังเหงียนดูสิ เอาที่ไม่ใช่ หงอก จีง,เอลลี่เจิ่น,จีจี้,จุนวู ผมกล้าพูดเลยว่าคนไทย100คนมีไม่ถึง20คนที่ตอบได้ใน10วิว่าใครคือดาราดังเหงียนนอกจากชื่อที่พูดมา และเอาจริงๆนอกจากแฟนฟุตบอลแล้ว ในเรื่องอื่นแฟนเวียตนามค่อนข้างนิสัยดีแหละทั้งเรื่องบันเทิง ท่องเที่ยว ผมสิงอยู่ในกลุ่มชาวเวียตพวกนี้นิสัยคนละเรื่องกับพวกแฟนบอลเลย ซึ่งเค้าก็ไม่ได้แย่ทั้งหมด ดีๆเค้าก็มีเยอะ ชมเราจริงใจก็มีเยอะ
แต่นั่นแหละด้วยนิสัยเหงียน วันนึงถ้ามันขึ้นมาเทียบได้ใกล้เคียงเรา นิสัยที่แท้จริงมันจะเผยออกมา จากที่เคยยอมรับสุดใจจะกลายเป็นเนิร์ฟเราได้ทันที
ทั้งหมดที่ผมกากมาก็มาจาก คหสต ล้วนๆและข้อมูลที่มีก็คือเจอมาจริง ติดตามจริงๆ ไปบวกไปแลกมาจริงตั้งแต่วันแรกๆที่เป็นอริกันจนทุกวันนี้แขวนคีย์บอร์ดเรียบร้อยนั่งจิบชาดูคนกัดกันอย่างเดียวพอ ถ้าไปขัดใจใครก็ขออภัยด้วย แค่อยากให้หลายคนที่อาจจะยังไม่ทราบว่าทำไมสองชาติถึงเกลียดขี้หน้ากันมีที่มายังไง เอาไว้เป็นเกราะป้องกันเวลาเจอเหงียนมาป่วนจะได้ใจร่มๆ หากเป็นประโยชน์ก็ขอบคุณหากไม่ได้เรื่องก็ขออภัย