ผมเคยแต่ขอแม่ไปเรียนเองอะครับ ตอนนั่นไม่ได้อยากเป็นนายร้อยอะไรหรอก เรียนตามเพื่อน บวกมีสาวที่ชอบเรียนด้วย มันเป็นคาเด็ดที่รับเด็กผู้หญิงมาเรียนด้วยครับ แต่หลักๆจะเป็นผู้ชาย

เขาก็สอนดีนะ เจ้าของสถาบันครูสอนก็เก่งดี สอบติด 4 เหล่า แต่ไม่ได้เรียนต่อรึอะำรซักอย่างนี้แหละ

มาเลิกเรียนก็เพราะเขาบอกว่า อีกไม่กี่เดือนจะไกล้สอบนายร้อยแล้วจะมีการติวเข้มฝึกหนัก ให้นักเรียนชายมากินนอนที่โรงเรียนเป็นเดือนๆ จำลองการอยู่โรงเรียนเตรียมทหาร ผมได้ยินอย่างงั้น ใครจะอยู่ก้ออยู่ แต่ไกปู 555

บ้านผมไม่เคยบังคับผมเลย เคยแต่แนะนำ

จะให้ผมไปเป็นทันตะพิบาล เรียนสองปีทำงานรอบรรจุ
ให้ผมไปเป็นนาวิกไรซักอย่างที่ ขนส่งผ่านเรือ

อะไรนักหนาไม่รุ้ แต่หัวผมไม่ได้มาด้านนี้เลย เลยขอบาย

ไม่ได้บังคับแต่อยากให้ไปสอบ ผมก็ไปสอบนะ3-4รอบแต่ไม่ได้เตรียมตัวจริงจังอะไร

ไม่ได้บังคับ แต่สนับสนุนเต็มที่ ตอนเด็กๆอยากเป็น
ทหารอากาศ เพราะชอบ f16 พอม.1ที่บ้านเลยส่งไปเรียน
ว่ายน้ำ ละไปขอโควต้านร.เตรียมมาไว้ที่บ้านคนนึง
กะให้แนะนำเรา ละก็เตรียมจะให้ไปเรียนดาวตะวัน
ตอน ม.3 มั้ง

แต่ตอนม.2 ผมดันไปหลงใหลสายวิทย์ซะก่อน
ละก็เลือกทางนี้มายาวๆ

พ่อผมเป็นทหารแต่ก็ไม่ได้บังคับเรียนนะ

ผมสอบติดทุกเหล่าแต่ร่างกายไม่ผ่าน สมัยนั้นกีฬาผมไม่เอาเลย ก่อนหน้านั้นก็แขนหักด้วย 555

แต่เอาจริงๆผมก็ไม่อยากเป็นตั้งแต่ติวเตอร์พาไปดูเรือจักรีละ
ผมรู้สึกว่าผมเข้าไปผมต้องถูกฝังสมองให้ต้องอินกับเรื่องของเขาอะ
ซึ่งตอนนั้นผมไม่อินเลยสักนิด เลยเลือกที่จะไม่เป็น

เรื่องค่าเรียน ผมเรียนแค่เสาร์อาทิตย์เลยไม่แพง
แต่เพื่อนผมอยู่ประจำเป็นเหมือนค่ายไว้ติวเลย กินนอนอยู่ในนั้น ปีละสองแสนได้ แล้วบางคนเข้าไปเรียนตั้งแต่ม1

เข้ามายกมือ บ้านผมตำรวจทหาร ตั้งแต่รุ่นทวดโตมาในค่ายทหารเห็นความเน่าเฟะของระบบ

บอกตัวเองตลอดว่าจะไม่เข้าไปอยู่ในระบบส้นทีนแบบนี้ พ่อให้ไปเรียนพิเศษเตรียมทหารก็จำใจไป

แต่พอสอบเท่านั้นแหละผมทำมั่วทุกเหล่า ทั้งที่นายเรือนี่แค่ผ่านข้อเขียนก็เส้นสบายละ

พ่อก็อึนๆกับผมอยู่พักนึงแต่สุดท้ายแกก็เข้าใจ สรุปมาจบที่รุ่นผมกับน้องชายไม่มีใครรับราชการเลย

ถ้าให้เล่าความเน่าของระบบผมเล่าได้เป็นวัน พวกนายร้อยจบมา ตั้งใจทำงานรับราชการมีอยู่แค่หยิบมือบอกเลย

บ้านแฟนผมครับ

ป.ล. แฟนผมเป็นผู้หญิง

ผม ม.3 ม.4 ครับ
ทุกวันอาทิตย์ต้องไปเรียน

ทุกปิดเทอมต้องไปกินอยู่ที่โรงเรียนกวดวิชาเป็นเดือนๆ เป็นช่วงชีวิตที่น่าเบื่อสุดๆครับ เป็นช่วงชีวิตที่ อยากให้ถึงวันพรุ่งนี้ไวๆ ในทุกๆวัน นอน 3 ทุ่ม ตื่นตี 5 บ้างก็มีรุ่นพี่ที่จบจากที่นี่ไปแบบพวกที่สอบติดอะครับ

กลับมาช่วยฝึก ตื่นมาเยี่ยวกลางดึกก็ต้องลุกนั่งก่อน

ขี้หมาป้ายหัว หมากฝรั่งป้ายหัว เอาน้ำขังที่พื้นมาแปรงฟันตอนเช้า มีหมด ไม่ได้พูดเกินเลยครับ เกิดขึ้นจริงๆล้วนๆ

เอาจริงๆช่วงอายุนั้นผมก็ไม่ได้ต่อต้านเท่าไหร่ครับ เค้าส่งผมไป ผมก็ไป ผมก็ทำเต็มที่ของผมแล้้ว แต่ก็ไม่ติด

ขึ้นมหาลัยก็ยังต้องโดนบังคับอ่านพวกหนังสือสอบไปสอบนายสิบต่อ สอบติดนะครับ ละก็ไปสัมภาษณ์ที่ราบ 11 หรือ ราบ 1 หนะจำไม่ได้ เลข 1 นิแหละ

ก็ไปตกสัมภาษณ์ + ร่างกายแหละ คือตกแม้มทุกอย่างเลยมั้ง

แอบบ่นซะงั้น

เมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้วพ่ออยากให้เป็นตำรวจ สอบข้อเขียน ร่างกายผ่านหมด มีคนบอกว่าขอ 3 หมื่น วิ่งให้ติดแน่นอน ผมเลยตัดสินใจง่ายๆเลย ไม่เอาไปเป็นคนธรรมดาเรียนมหาลัย หาความก้าวหน้าด้วยตนเองดีกว่า วันนี้เป็นที่โครตภูมิใจว่าวันนั้นตัดสินใจไม่ผิดเลย

บ้านไม่บังคับครับ แต่จุดชี้วัดบ้านผมคือ ต้องเป็นหมอ
ผมเคยไปสอบปี 44 แต่สอบไม่ได้ แล้วร่างกายไม่เอื้ออำนาย ปี 45 เลยไม่ไปสอบอีก
เลยคิดว่า เออ โชคดีแล้วที่สอบไม่ติด

ผมครับโดน
พ่ออยากให้ไปติวไปสอบอาจเพื่อลบปมตัวแกเอง(พ่อผมสอบติดแต่ไม่ได้เรียนไม่มีเงินจ่ายค่าเรียนหรือไรนี่แหละ)
เนื่องด้วยตัวผมเป็นเด็กเก่งของห้อง(โรงเรียนบ้านนอก)ตัวความหวังโรงเรียนถูกครูทุกคนวางตัวให้เป็นนูนนั้นนี่(ไม่ถามกรูเลย) แกก็ส่งผมไปเรียนโรงเรียนในเมืองก็ยังคงอยู่ห้องเก่งของโรงเรียนแต่ไม่ได้เป็นตัวทอปละไม่ได้เป็นเป้าหมายของครูละ
และผมก็ไม่ยอมไปสอบไปติวเลย ไม่ว่าจะเรียนเตรียม เรียนพิเศษ ฟิ เค ชีว แล้วไม่ชอบระบบราชการแต่ไหนแต่ไร จะมีข้อสงใสตลอด ทำไมช้า ทำไมพูดจาไม่ดี ทำไมไม่ตั้งใจให้เรา ครู ตำรวจ ทหาร ไม่เอาเลย สุดท้ายขัดใจพ่อ ไม่ไปเฉยๆ แกก็งอลไปพักใหญ่ๆเลย จนสอบติดวิศวะ แกก็ดีใจนะ ตอนรับใบ ป.ตรี น้ำตาแกซึมเลยแหละ สงใสดีใจที่ผมไม่ต้องเข้าไปอยู่ในระบบเฮงซวยส้นตรีนแตกแบบนั้น.
แต่แล้วน้องชายผมก็สอบติด ตร.ได้ยศพันตรีปีที่ผ่านมาไม่เห็นมันมีเฟอร์รารี่ขับ ทุกวันนี้ยังโทรมายืมตังกันอยู่

พ่อผมเป็นทหารชั้นประทวนแกก็อยากให้ผมเป็นนายร้อย ตอนนั้นเตรียมทหารยังมีแค่2ปีที่นครนายกแล้วค่อยแยกเหล่า
ตอนเรียนม.4ก็ไปสอบเล่นๆไม่ติดซักเหล่า ตอนม.5พ่อก็อยากให้เราไปสอบอีกที ช่วงนั้นมีสอบทางช้างเผือกของทอ.ลองไปสอบดูก็ติด พวกโรงเรียนกวดวิชาก็มาเสนอให้ไปเรียนคอสก่อนสอบจริงด้วยราคาพิเศษ ตอนนั้นก็คิดอยากประหยัดเงินพ่อแม่จะได้ไม่ต้องเรียนมหาลัย ก็ไปเรียนกับเพื่อนๆ เพื่อนจ่ายเต็มเราจ่ายแค่50% ได้เรียนห้อง1 ช่วงสอบก็ไปสอบหมดทุกเหล่า
สรุปเราติด3เหล่า(ไม่ติดตำรวจ) เด็กกวดวิชาห้อง1ติดรอบแรกเกือบหมดทุกคนอย่างน้อยๆต้องมี1เหล่า (ไม่ต้องบอกก็รู้ชื่อโรงเรียนกวดวิชาสมัยนั้นที่ดังที่สุด) ตอนนั้นรู้สึกดีใจนะที่ทำให้พ่อแม่หน้าบานเลย สุดท้ายตอนเลือกรอบ2ต้องเลือกเหล่าเดียว เชื่อป่ะว่าวันสอบรอบ2ทดสอบร่างกาย ตรวจร่ายกาย ผมเจอไอ้พวกกะเลวกะราดที่เป็นลูกหลานนายพลบานเลย ไม่รู้แม่มผ่านเข้ามากันได้ยังไง แล้วสุดท้ายผลลัพธ์คือผมไม่ติดรอบสอง แล้วพวกนั้นหล่ะครับ ใช่ครับแม่มติดผ่านเข้าไปเรียนเฉย55555 ไม่ต้องอะไรครับขนาดคัดกรองเด็กหนุ่มที่จะเข้าไปบริหารราชการทหารยังจังไรขนาดนี้ อย่างอื่นไม่ต้องพูดแล้วครับ ผมกลับมาพร้อมความเฟลแต่พ่อก็เข้ามากอด(ปกติไม่ค่อยกอดอยู่แล้วพ่อเป็นทหารอ่ะนะ) และพ่อก็ร้องไห้ กลายเป็นผมต้องปลอบพ่อไปเลย ทุกวันนี้รู้ซึ้งแล้วครับความกะโหลกกะลาของประเทศเรามันฝังรากลึก ยากเกินเยียวยาแล้วครับ

ผมเกือบละ พ่อเป็นติ่งไอตูปขั้นสุด ทุกวันนี้ยังพูดว่าถ้าส่งเรียนนายร้อยตอนนั้นตอนนี้สบายไปแล้ว

ผมไม่ได้เรียนเตรียม แต่บ้านผมทั้งตระกูลไล่มาเป็นทหารกันหมด

ปู่ก็บอกว่าต่อไปผมต้องเป็นทหาร แต่ผมไม่เอาเลย ไม่ชอบ

สรุปสายทหารที่ตระกูลรับช่วงต่อกันมาน่าจะจบที่รุ่นผมแล้วล่ะ