ก็ดีครับเพราะกฎนี้ในบอร์ดก็ไม่ต่างอะไรกับ ม.112 ในชีวิตจริง การที่พวกคุณสนับสนุนกฎนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับกลุ่มคนที่สนับสนุน ม.112 ในชีวิตจริง  

ก็ผมก็หมายถึงคนที่อาศัยอ้างชื่อท่านปิดปากคนอื่นนั่นละ มันก็ยิ่งทำให้คนไม่ชอบ
แล้วตัวท่านเอง พูดว่าไม่เห็นด้วยกับการถูกปิดปาก แต่ท่านทำอะไรบ้างในการสนับสนุนเสรีภาพทางความคิดของประชาชน?  

เอาจริงๆ ผมอยากให้ปลดแบนสำหรับ kinglahorse แล้วมาคุยกันต่อนะ

คุณ kinglahorse ผมไปไล่ดูในอดีต ถือว่าเป็นคนมีเหตุมีผล มีหลักการพอสมควร
แถมดูแล้วน่าจะแยกแยะอารมณ์กับเหตุผลได้ ที่ผ่านมาก็ไม่ได้หลับหูหลับตาอวยรัฐบาล
และก็ไม่ได้หลับหูหลับตา ไปฝั่งตรงข้างรัฐบาลทั้งหมดเช่นกัน ซึ่งสำหรับผมถือว่าเป็นเรื่องดี
หนำซ้ำ ยังด่ารัฐบาลอีกด้วย ลองเข้าไปดูการโพสท์ตอบกระทู้ หรือการตั้งกระทู้ ก็น่าจะพอเห็นได้
ว่า kinglahorse ไม่ได้มีเจตนาเข้ามาปั่นป่วนบอร์ด

เรื่องการเมืองต่างๆ ลองไล่ไปดูครับ เค้ามีหลักการ มีเหตุ มีผล มากพอสมควรเลย
ว่าไปตามหลักฐาน สิ่งที่เห็น สิ่งที่เป็น แยกแยะได้ดี

แต่ที่พอจะเห็นได้เช่นกัน จากการตอบกระทู้ที่ผ่านมา พอเป็นเรื่อง 112 หรือสถาบัน
kinglahorse จะมีการตอบที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน
หลักการที่เคยมี หลักฐานที่เคยสังเกตและเรียกร้องให้มองหลายๆมุม
อย่าเพิ่งตัดสินใจอะไร เมื่อเหตุการณ์มันยังไม่ชัดเจน เปลี่ยนเป็นความเห็นโดยใช้อารมณ์นำ

สำหรับกรณีนี้ แทนที่จะหักดิบด้วยการแบน
ผลลัพธ์คือ kinglahorse ก็จะยิ่งไม่พอใจในหลักการการแสดงความคิดเห็นขั้นพื้นฐานไปอีก
เพราะมันก็คือการใช้มวลชน ปิดปากคนที่เห็นต่างนั่นแหละ
และสุดท้าย เค้าก็จะไม่ได้มีมุมมองที่เปลี่ยนไปเลย

ประชาธิปไตยแบบนี้ ผมไม่เห็นด้วยครับ
มันจะต่างอะไรกับการที่อ้างว่า พปชร ภูมิใจไทย ปชป ถือว่าเป็นเสียส่วนใหญ่ของประเทศ
แล้วห้ามก้าวไกล ห้ามเพื่อไทย พูดในสิ่งที่ตัวเองคิด
ต่อให้รัฐบาลชนะเลือกตั้ง 80% เลย แต่ผมว่าฝ่ายค้าน 20% อย่างน้อยก็ควรมีสิทธิพูด
มีสิทธิในการตั้งคำถามเหมือนกัน

เมื่อสังคมรุมถล่ม ทั้งแซะ ทั้งด่า หลายท่านไม่ได้มีเหตุผลอะไรมากมายเลย ใช้อารมณ์นำซะมากกว่า
หลายท่านมีเหตุผล มีสิ่งชี้นำไปสู่เหตุสู่ผลบ้าง ถึงจะไม่เคลีย เพราะก็เข้าใจว่าใส่เต็มไม่ได้

แต่มันจะมีประโยชน์อะไรหละครับ ที่ทำแบบนี้ ผมเห็นแต่ข้อเสียมากกว่า
kinglahorse ไม่ได้เข้าใจอะไรมากขึ้นเลย แถมอาจจะมีมุมมองลบมากขึ้นด้วยซ้ำ
และเค้าก็จะไม่เข้าใจปัญหานี้ต่อไปเรื่อยๆ

แทนที่จะทำแบบนั้น มาคุยกันไปเรื่อยๆ แลกเปลี่ยนมุมมองไปเรื่อยๆ
(ถ้าจะบอกว่าไม่อยากแลกเปลี่ยนมุมมองกับคนแบบนี้
ผมว่าไอ่หลักการ มองคนเท่ากัน มันก็ใช้ไม่ได้แล้วหละครับ เพราะคนที่คิดแบบนั้น ก็มองคนไม่เท่ากันละหละ)

อย่างที่บอก kinglahorse เป็นคนมีเหตุมีผลเหมือนกัน ต่อให้ในกรณี้นี้จะแปลกๆ
แต่ถ้าอธิบายด้วยเหตุด้วยผลไปเรื่อยๆ มันจะมีปัญหาอะไรหละครับ
เรื่องสเปนเอย คำตอบของคำถาม "หากการลงนามหมายถึงการลงมายุ่งกับการเมือง..."เอย

ก็น่าจะให้เค้าตอบไปเรื่อยๆนะ ก็ถือเป็นการแลกเปลี่ยนกัน
รับฟังว่าเค้าคิดยังไง เราก็จะได้เข้าใจเค้ามากขึ้น
และเค้าก็น่าจะเข้าใจ และมองเห็นสิ่งต่างๆในอีกมุมมากขึ้นเช่นกัน
เช่นเรื่องที่เค้าบอกว่า รับรองก็ผิด ไม่รับรองก็ผิด แล้วทำไมไม่รับรองหละ
คำถามนี้ ผมว่าคนมีเหตุมีผล ก็คงเอากลับไปคิดทบทวนแล้ว ว่าที่ผ่านมาคิดผิดหรือถูก อะไรยังไง

ซึ่งคำถามในใจเค้า อาจจะมีมากกว่านี้ก็ได้ ซึ่งก็เอามาถกกัน
จะคุยกันซัก 100 หน้า ผมก็ไม่เห็นว่าจะเสียหายอะไร

เข้าใจว่ากฎ 40 เรื้อนมันก็เป็นกติกาที่ตั้งมา
แต่จุดประสงค์จริงๆ ก็น่าจะตั้งมาเพื่อกำจัดเกรียน กำจัดพวกไร้สาระรกบอร์ด
ในบางกรณี ก็มีคนมาปั่นเรื่องพวกนี้แบบเกรียนๆไม่น้อย ให้หัวเสียกันเล่น
แต่กรณนี้นี้ ผมเห็นว่าเค้ามีมุมมองของเค้าแบบนั้นจริงๆ ไม่ได้มีเจตนากวนเท้า
จึงน่าจะปลดแบนมา ให้มาคุยกันจนถึงที่สุด
น่าจะทำให้บอร์ดนี้ มีประโยชน์มากกว่าการปิดปาก แบบหักดิบแบบนี้ ซึ่งไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรเลย
แถมอาจจะเป็นโทษด้วยซ้ำ  

แต่หลังจากปี45 มีการเซ็นรับรองการรัฐประหาร ถึง2ครั้ง (49,57)

 

ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมพวกคุณถึงได้มีปัญหากับกลุ่มคนที่รักรัชกาลที่ 9 และไม่เข้าใจว่าพระองค์ทำอะไรให้พวกคุณโกรธแค้นกันนัก

55555 นี่เหรอประชาธิปไตย พอผมแสดงความคิดเห็นที่ไม่เห็นด้วยหรือไม่เป็นที่พึงพอใจก็กดเรื้อน น่าขำสิ้นดีกับพวกประชาธิปไตยจอมปลอม  

ไปศึกษาประวัติได้ตาสว่าง สิ่งที่ฉุดรั้งประเทศไม่ให้ไปไหน ต้องยอมรับด้วยว่าส่วนนึงมาจากสิ่งที่ท่านบอกว่าทำอะไรให้โกรธแค้นนี่แหละ  

เอ้าาา คนเค้าไม่เห็ด้วยกับคุณ เค้ากดเรื้อน เค้าทำตามกติกา เห็นแล้วไม่น่าจะปล่อยผ่านได้ เอาไปอีก 1 เรื้อน