คอมเมนเตเตอร์
Status:

: 0 ใบ

: 0 ใบ
เข้าร่วม: 29 Apr 2021
ตอบ: 11180
ที่อยู่: ***อยู่ในใจเสมอนะจ้ะ*** เข้าร่วม: 20 Mar 2000
โพสเมื่อ: Fri Aug 13, 2021 09:12
[RE: กระทรวงศึกษาอบรมครูดูลายนิ้วมือ วิเคราะห์ศักยภาพของนักเรียน]
#สแกนลายนิ้วมือ
กลับมาฮิตอีกแล้ว สำหรับการสแกนลายนิ้วมือเพื่อค้นหาศักยภาพในตัวคุณเนี่ย
ในไทยหมอเห็นว่ามีการนำมาใช้ และดูค่อนข้างเป็นที่นิยม (เป็นพักๆ) มาสัก 3-4 ปีได้ สนนราคาส่วนใหญ่อยู่ราวๆ 2,000-5,000 บาทได้ ซึ่งไม่ถูกเลย
ถามว่ามันคืออะไร สรุปคือ เค้าอ้างว่า ลายนิ้วมือเด็กสามารถบอกได้ว่า เด็กคนนั้นมีความฉลาดด้านไหน ว่างั้น เช่น เด็กคนนี้มีพรสวรรค์ด้านภาษา คณิตศาสตร์ ตรรกศาสตร์ อะไรทำนองนี้
ในฐานะหมอและนักวิจัยคนหนึ่ง เห็นปรากฏการณ์นี้แล้วก็มึนๆ ระดับหนึ่ง เพราะ .......
* เอาจริงๆ เหอะ ทางการแพทย์และทางวิจัย ต้องบอกว่าไม่มีหลักฐานอะไรสนับสนุนเลยด้วยซ้ำไปว่า ไอ้การดูดวงลายมือแบบไฮเทค (ใช้คอมพ์อ่าน) เนี่ย มันทำนายได้ว่าเด็กคนนั้นอัจฉริยะด้านไหน
ไม่มีงานวิจัยใดๆรองรับเลย เท่าที่หมอเคยพยายามหามาอ่าน ก็พบว่าเคยเจออยู่แค่ 2 งานวิจัยเล็กๆ ที่ตีพิมพ์กันแถวๆ ประเทศในเอเซียนี่แหละ (1 งานในนั้นก็พี่ไทยนี่แหละครับ อีกชิ้นก็ประเทศแถวๆ นี้แหละ)
และก็เหมือนกันคือ เป็นงานวิจัยขนาดเล็ก ตีพิมพ์ในวารสารระดับในประเทศ ตัววิจัยมีจุดอ่อนมากมาย ระดับความน่าเชื่อถือ (level of evidence) ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ในระดับที่ไม่สามารถบอกได้ว่า ลายนิ้วมือทำนายความสามารถได้จริง
และแน่นอนครับ ไม่มีงานตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติที่เชื่อถือได้เลยสักชิ้น (แต่เห็นชอบเอามาอ้างกันจัง .... และจริงๆ ในต้นฉบับงานวิจัย ก็ไม่ได้อวดอ้างขนาดนั้น)
** การที่เด็กจะเก่งอะไร โดยหลักแล้วเกิดจาก 2 สิ่ง คือ nature + nurture
nature ก็คือธรรมชาติของเด็ก ซึ่งถูกกำหนดมาแล้วแต่แรกจากพันธุกรรม ส่วน nurture หมายถึงสิ่งแวดล้อมและการเลี้ยงดู
ดังนั้นการที่เด็กคนหนึ่งจะทำอะไรได้ดี ไม่ได้เกิดจาก สิ่งที่ติดตัวมาแต่เกิดเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการเลี้ยงดู การฝึกฝน แรงบันดาลใจ และสิ่งแวดล้อมที่ดีด้วย
หากพ่อแม่ เลี้ยงดู สังเกตลูกของตัวเอง ให้เด็กได้ลองทำสิ่งต่างๆ ย่อมเห็นได้เองว่าลูกถนัดอะไร โดยไม่จำเป็นต้องไปดูดวงไฮเทค ที่ไม่มีหลักฐานรองรับแต่อย่างใด
*** และที่สำคัญที่สุด อย่าลืมเรื่อง "ความชอบและความสุข ของเด็ก" ***
ต่อให้มีอุปกรณ์สุดยอดที่บอกว่าเด็กถนัดด้านนั้นจริง แต่เด็กไม่ชอบไม่อยากทำ ทำแล้วไม่มีความสุข จะผลักและดันเด็กให้ทำด้านนั้นไปเพื่อออออ .........
#หมอคลองหลวง
เครดิต FB: สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย
แก้ไขล่าสุดโดย markmadrid เมื่อ Fri Aug 13, 2021 09:13, ทั้งหมด 2 ครั้ง