สำหรับFSG ผมไม่มองเรื่องงก/ไม่งกแล้วนะครับ

มองว่าเค้ากล้าลงทุนซื้อตัวตามแผนระยะยาวหรือเปล่าจะดีกว่า ซึ่งผมว่าเค้ากล้าในระดับหนึ่งนะ (VVD/Alisson)

อีกเรื่องคือการยอมขาดทุนเพื่อตอบแทนนักเตะ+รักษาสปิริตทีม เช่นการต่อสัญญากัปตัน Henderson (ยังไม่เห็น )

งกนี่แหละ ไม่ต้องพูดไรเยอะ

ผมว่าไม่ FSG ใช้เงินฉลาดและมีวิสัยทัศน์มากกว่า มีแผนค่อยๆไป มีเร่งเรื่องแชมป์ เรื่องสนามใหม่ตัวอย่างก้มีให้เห็น น่อล นี่ต้องขายนักเตะทีมก้ห่างแชมป์ไปเรื่อย FSGเหมาะสมกับหงส์สุดๆแล้ว ทำให้หงส์อยู่่ได้รายได้โตทุกปี ผมชอบการบริหารแบบนี้สุดๆแล้ว แบบนี้ค่อยเรียกการบริหารหน่อย

ผมว่าเรามีมาอีกแน่ๆ แต่อาจท้ายๆตลาด

เคสอื่น อาจไม่ได้สำคัญมาก ไม่งั้นคงเซ็นไปนานแล้ว แบบโคนาเต้ ที่มาเป็นตัวจริงแน่ๆ เลยต้องเอามาปรับตัวก่อน

ส่วนที่จะเสริม คงเป็นกำลังเสริมจริงๆ ชุดหลักๆฤดูกาลหน้าคงเป็นชุดเดิมที่มี แล้วให้เวลาตัวใหม่ปรับตัวไป อีกอย่างได้ระบายตัวที่ไม่ใช้ด้วย เพราะฉะนั้น คล็อปเลยยอมรอ เป้าหมายมี แต่ถ้าเป้าหมายย้ายก่อน ก็แสดงว่าดวงไม่สมพง เหมือนมาเลน ทีไปดอทมุน ถ้าเปนเป้าหมายจริงๆ ป่านี้บิทแข่งดอทมุนไปแล้ว นี่แสดงว่ามีเป้าอื่นเยอะแหละ

สนามก็ขยายจนใหญ่โต
สนามซ้อมก็ย้ายไปที่ใหม่เอี่ยม
ค่าแรงนักเตะ อันดับ 2 ในลีค
ตัวก็ซื้อมาจนเต็มโคต้า นักเตะต่างชาติแล้ว

บางทีคำว่าใช้เงินอย่างคนฉลาด กับ งก มันก็คั่นกํนแค่เส้นบางๆ

ผมกลับชอบที่ FSG เป็นแบบนี้แฮะ 555

เหมือนไปถามวัว มันคงตอบ “ทำไมต้องกินสเต็ก กินพาสต้า...กินหญ้าก็ได้”

ถ้างกคงไม่ลงทุนสร้างสนามซ้อมใหม่ หรือเพื่มควาจุในสนามแข่งหลอกครับ
เพราะความพร้อมในด้านนี้ลิเวอร์พูลมีน้อยกว่าทีมอื่นอยู่มากโข
ส่วนการซื้อตัวผู้เล่น ก็ราคาตามประโยชน์การใช้เลยครับ เอามาเป็นตัวจริงผมว่าแพงเท่าไหร่ลิเวอร์พูลก็ซื้อ ถ้าเอามาเป็นตัวสำรองแบยนี้นี้ ทีมก็คงคิดนานหน่อยเท่านั้นเอง

เจ้าของพรีเมียร์ลีค เอาจริงๆ นอกจากเสี่ยหมีกับชีคของแมนซิตี้
มีใครถูกนิยามว่าไม่งกบ้างอะครับ
แล้วในโลกนี้ นอกจากรีลมาดริด บาร์ซ่า PSG มีทีมไหนที่ใช้เงินแบบทุ่มเต็มที่ทุกฤดูกาลบ้างอะครับ
บริหารทีมมันก็ต้องทำหลายอย่างควบคู่กันไป
ถ้าใช้เงินแหลก การเงินเกิดติดลบแบบบาร์ซ่าขึ้นมา จะทำยังไง

งก คือแทบไม่สนใจลงทุนทำอะไรเลย ปล่อยไป เอาแค่ประคองตัว

ไม่งกครับเค้าบริหารทีมตามรายรับรายจ่าย มีเงินก็ลงทุนเสริมตลอด แต่ไม่เปย์เงินส่วนตัวแบบเจ้าของหลายๆทีมแค่นั้น แต่เอาตรงๆ นี่น่าจะเป็นเจ้าของที่ดีที่สุดของหงส์ตั้งแต่ผมเชียร์มาแล้วนะ

คือผมว่าหงส์ตั้งแต่ยุคคล๊อปป์เข้ามาคุม เป็นทีมที่ไม่ค่อยเสียเงินเปล่าประโยชน์กับตลาดซื้อขายนะครับ

อีกความหมายนึงคือ ค่อนข้างซื้อตัวเข้าเป้า ในจังหวะที่ใช่ และด้วยราคาที่เหมาะสม โดยเฉพาะสามปีหลัง

ถ้าตามพวก Chanel เเฟนพันธุ์แท้หงส์ทั้งหลายมาตลอด จะทราบว่า FSG มีนโยบายที่ค่อนข้างชัดเจนเกี่ยวกับการบริหารจัดการทีม

ดังนั้นอะไรที่มันจะมาเป็นดีลประเภทเเบบ ผิดผี ผิดวิธีการ คงเห็นได้ยากหน่อย

กรณีดีลระดับ Alison / VVD เกิดขึ้นได้ ต้องบอกว่าเพราะเงินจากการขายคูตี้เป็นสำคัญเลย ไม่ใช่เพราะ FSG ทุ่มเงินซื้อ

มาดูในเชิงลึกกว่านั้น FSG ไม่ได้มุ่งหวังแค่การซื้อตัวผู้เล่นเก่งๆ ดังๆ เข้าทีมเท่านั้น แต่ FSG ยังลงทุนในเรื่องอื่นๆ ให้ทีมอีกด้วย

ทั้งสนามซ้อมเเห่งใหม่ การขยายสนามถึงสองรอบ (จาก 45,000 คนเล็กต๊อกต๋อย กลายเป็นสนามความจุระดับ 61,000 คน แซงขึ้นเป็นสนามใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของประเทศอังกฤษทันที)

นอกจากนั้นก็ยังทุ่มพัฒนาระบบ Academy ให้กลับมาแข็งเเกร่งอีกครั้ง ทำให้สโมสรได้ประโยชน์ทุกทาง

ถ้าเด็กมันเก่ง ก็ดันขึ้นมาใช้ได้ ประหยัดเงินหลายสิบล้านปอนด์ให้กับทีม ซึ่งตอนนี้เราก็จะเห็นมากมายที่เเทรกขึ้นชุดใหญ่ได้

ไล่มาตั้งแต่ TAA / Jones / Elliot / Kelleher / Gomez และถ้าขึ้นชุดใหญ่มาไม่ได้ ก็สามารถขายออกไปได้ในราคากำไรกว่าเท่าตัว

ถ้านับรวมเอา Sterling ที่ขายไปทำกำไรเน้นๆ อีก ... เราไม่ได้เห็นอะไรเเบบนี้มาตั้งแต่ยุค โอเว่น ฟาวเลอร์ คาราเกอร์ เจอราร์ด เลยนะครับ

มันก็ถือว่า นโยบาย FSG ทำให้สโมสรมีสถานะทางการเงินเเข็งเเกร่งกว่ายุคสองพี่น้อง Gillette ราวฟ้ากับเหวเลยทีเดียว และอาจจะดีกว่ายุคไหนๆ ที่ผ่านมาเลยก็ว่าได้

นอกจากนั้น ถ้าตามข่าวเรื่อยๆ ก็จะทราบว่า แม้เพดานค่าเหนื่อยสูงที่สุด จะไม่เคยสูงไปถึงระดับทีเท่ากับ เเมนยู เเมนซิตี้ เชลซี หรือที่ทีมอื่นๆ ให้ได้ แต่ฐานค่าเหนื่อยของสโมสรมีการเพิ่มขึ้นมาทั้งระนาบ คิดเป็นเปอร์เซ็นตั้งแต่ FSG เข้ามาบริหารเเล้ว เพิ่มขึ้นถึง 95% หรือเกือบเท่าตัว

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็คือ มันก็ทำให้ทุกคนมีความเป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้น ตัวเยาวชน ตัวสำรอง ตัวระดับที่เป็นแค่เเบ๊คอัพอยู่ ก็จะรู้สึกว่าตัวพวกเค้าเองก็มีความสำคัญกับทีมไม่เเพ้กับคนอื่นๆ ก็ต้องพยายามถีบตัวเองขึ้นมาให้ได้ พวกตัวจริง ก็ได้รับผลตอบเเทนเเบบสมน้ำสมเนื้อ แต่ก็ไม่มีใครได้มากโดดเด่นไปกว่าใคร ทำให้ไม่เกิดภาวะสตาร์ในทีมแค่บางคน แต่ให้ความรู้สึกที่ทั้งทีมเป็นสตาร์ร่วมกันทุกคน

กลับมาที่เรื่องตัวผู้เล่น ... ทำไมเราถึงเงียบกริบในตลาดรอบนี้

ถ้าจะเทียบกับทีมอื่นๆ ยกตัวอย่างที่เป็นที่ต้องจับตามองสุดๆ อย่างเเมนยูตอนนี้ ถามว่า กับขุมกำลังผู้เล่นที่เเมนยูมีอยู่มันตอบโจทย์ทีมเเล้วหรือยัง ? ผมว่าเเฟนเเมนยูทุกคนตอบได้ง่ายมากๆ ว่ามันยังมีพื้นที่ว่างให้ต้องเร่งพัฒนาอีกหลายจุด

การได้ซานโช่ และวารานเข้ามา ก็นับเป็นสิ่งที่เเมนยู "จำเป็น" ต้องทำ เพื่อยกระดับทีมให้กลับขึ้นมาสู้ในสังเวียนที่เเมนยูควรจะอยู่ได้เหมือนเดิม คือการลุ้นเเชมป์ในทุกๆ รายการ

หันกลับมามองที่ทีมของเราครับ เรามองกันแค่รายชื่อ 11 ตัวเเรกก่อนว่า มันมีใครบ้างในทีม

ซาลาห์ / มาเน่ / เฟอร์มิโน่ / เฮนโด้ / ติอาโก้ / ฟาบินโย่ / VVD / TAA / โรเบิร์ตสัน / โคนาเต้ / อลิซง

ถ้าไม่นับว่าเจ็บเเบบยับเเม่ยับแบบฤดูกาลที่เเล้ว มีตำเเหน่งไหนบ้างที่คิดว่า หาตัวผู้เล่นในตลาดปัจจุบันได้ดีกว่านี้ ...

ณ เวลานี้ ผมกล้าพูดเต็มที่ว่าเราเป็นทีมระดับหัวเเถว ไม่เหมือนเมื่อ 4-5 ปีก่อนเเล้วนะครับ จะให้ไปวิ่งไล่ขอซื้อผู้เล่นหลายๆ คน ทำเหมือนทีมเรามีผู้เล่นกากๆ ในทีมเยอะ เเบบนั้นคงจะไม่ใช่

ผมพูดตามตรงเลยว่า ถ้าไม่ไปเอาระดับ Halaan / Mbabpe / Chiesa / Predi ตัวทำนองนั้นเข้ามา ก็ไม่มีใครในตลาดตอนนี้ที่จะมาทำให้ 11 ตัวจริงมันดูลงตัวกว่านี้ได้ ตัวระดับเหล่านั้นต้องการันตีตัวจริงให้เท่านั้น + ต้องได้ค่าเหนื่อยที่หงส์ไม่มีวันให้ถึงในเร็ววันนี้ แล้วต่อให้จ่าย 200 ล้านดึง Mbabpe มาได้ ก็ไม่มีอะไรการันตีว่า น้องเป้มันจะเล่นดีในพรีเมียร์ลีค ถ้ามาเเล้วเเป๊ก มองในมุมถ้าคุณเป็น FSG เป็นเจ้าของเงินอะ มันก็ได้ไม่คุ้มเสี่ยงใช่มั๊ยล่ะครับ

หันมามองที่ตัวสำรอง ....โอริกี้ / โจต้า / เอลเลียต / ชาคิรี่ / มินามิโนะ / เกต้า / อ๊อกเหล็ก / โจนส์ / มิลเนอร์ / โกเมซ / มาติป / ซิมิคาส / เคลเลเฮอร์ แน่นอนจุดนี้เเหละที่ทำให้หงส์ยังดูไม่เทพเท่าทีมใหญ่อื่นๆ ถ้าเทียบเเมนซิตี้เเล้วยิ่งไปกันใหญ่

แต่ว่ากันตามเนื้อผ้า แต่ละคนไม่ได้มีมาตรฐานที่ห่วยแตกในระดับที่ไปเเทนตัวจริงไม่ได้ เราไม่ได้กำลังเห็นชื่อประเภท คอนเชสกี้ / เเคโรล / สเปียริ่ง / ตราโอเร่ อะไรเทือกๆ นั้นอีกเเล้วนะครับ ตัวสำรองที่เรามีมันสร้างความแตกต่างให้ทีมได้ทั้งนั้นเเหละ ...

ทีนี้พอมันเป็นเเบบนี้ สเป๊คตัวผู้เล่นที่เราต้องการจะเอาเข้ามาเพิ่มมันก็จะเป็นโจทย์ที่ยากขึ้น นอกจากเงื่อนไขว่าจะต้องยอมเป็นตัวเเบ๊คอัพไปก่อนเเล้ว เราจะไปหาตัวสำรองที่ดีกว่า ตัวสำรองตอนนี้ แต่ไม่เรียกร้องที่จะให้ลงตัวจริงมากๆ ที่ไหนได้บ้าง ... เป็นใครได้บ้าง ?

นอกจากนั้นก็ยังจะต้องมาคำนึงถึง โควต้าผู้เล่นที่สโมสรจะลงทะเบียนได้อีก ... จะเป็น Home Grown กี่คน ต่างชาติกี่คน Slot มันก็มีจำกัด และยังต้องมองไปถึงการวางเเผนระยะกลางถึงระยะยาวอีก ที่ต้องดูเเววเยาวชนเด็กเทพที่เราไปสอยๆ มา ตัวอย่างเช่น คูเมติโอ้ / มูเซียลอฟส์กี้ เป็นต้น เพื่อดูว่า มันจะสอดเเทรกขึ้นชุดใหญ่ได้มั๊ย สร้างความแตกต่างในระดับที่ไม่ต้องไปหาซื้อตัวใหม่เลยหรือไม่

ไอโจทย์พวกนี้เเหละ และรวมไปถึงสถานการณ์ที่ 11 ตัวจริงเรามันเเกร่งอยู่เเล้วทุกตำเเหน่ง ทำให้มันเป็นเรื่องที่ยากที่จะวางเเผนหาผู้เล่นมาเสริมได้ ในสเป๊คที่ใช่ และจะเข้ามาสร้าง impact กับทีมได้อย่างมีนัยยะสำคัญ ... ว่าง่ายๆ คือซื้อมาเเล้วต้องทำให้ทีมดีขึ้น โดยที่ยังอยู่ในกรอบของข้อจำกัดต่างๆ ที่กล่าวมาทั้งหมด ...

ดังนั้นมันไม่ใช่แค่เรื่องเงินหรอกครับ และจนถึงตอนนี้ ผมคิดว่าผมมั่นใจพอที่จะพูดว่า FSG ไม่ได้งก และจริงๆ ก็มีตังถึงอยู่เเล้ว แต่คุณจะต้องไม่คาดหวังให้ FSG ทุ่มเงินซื้อตัวดังๆ หรือซื้อเข้ามาเยอะๆ เป็นประจำแบบที่คุณอยากเห็น เพราะมันไม่ใช่เเนวทางของเค้าเท่านั้นเอง

ที่สุดเเล้ว ตัวละครสำคัญที่สุดของภาพนี้คือ Klopp

Klopp คือจิ๊กซอส่วนสำคัญที่สุด ที่ทำให้เเผนการบริหารทีมของ FSG มันเจิดจรัสได้แบบที่มันเป็นทุกวันนี้ ... ขายใครก็ได้ขายไป จะประหยัดงบกับตรงไหนก็ได้ แต่นาทีนี้ เสีย Klopp ไปไม่ได้เลย

เห็นด้วยกับเม้นบนเลย เราคงเราคงได้แต่มองตาปริบๆดูทีมรวยๆซืัอนักเตะดังๆ
อิจฉาก็อิจฉาหรอก แต่ทำไงได้ เรารุ้ว่าทีมเราไม่ได้มีตังค์เยอะแบบทีมเจ้าของรวยๆ
แต่ในอีกทางหนึ่งผมกลับอยากเห็นนักเตะดังๆเหล่านั้นมาเล่นที่พรีเมียลีกนะ คงจะมีสีสันให้ได้ลุ้นดี และอยากรุ้ว่าคล็อปจะพาทีมสุ้กับทีมอื่นๆได้ดีแค่ไหน

ไม่งก แต่ไม่ทะเยอทะยานเท่าที่ควร ไม่ยอมต่อยอดความสำเร็จเพลย์เซฟเกินไป เป็นแมนยูยุคป๋าได้เเชมป์แล้วเค้าอัดตรงนั้นไม่ยั้งถึงได้ครองลีกนานเป็น 10 ปี

ไม่งกครับ ถ้านิยามคำว่า "งก" เนี่ย ผมให้ดู "ไมค์ แอชลี่ย์" ของนิวคาสเซิลเป็นตัวอย่าง

ใช้เงินแบบฉลาดครับ
เอาจริงๆนะ การที่ทีมๆนั้นไม่ได้ใช้เงินออกไปอย่างบ้าคลั่ง
แล้วได้แชมป์ ประสบความสำเร็จ
มันน่าดีใจกว่า ทีมที่ทุ่มเงินซื้อๆๆๆ แล้วได้แชมป์อีกนะครับ

อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวผมนะครับ (อาจจะเพราะผมทำธุรกิจด้วยเลยคิดแบบนี้)