Death's Door นำเสนอทุกอย่างแบบเรียบง่ายแต่ลื่นไหล มีสไตล์และไม่น่าเบื่อ
สิ่งที่เกมนี้มีให้คุณก็คือ: การออกแบบตัวละครที่มีเสน่ห์และน่ารัก, เกมเพลย์ที่ทั้ง Relax และ Intense สลับกันไป, เพลงประกอบที่ฟังสบาย, Action-RPG แบบเบาๆ, ความยากที่เหมาะสม ไม่ยาก ไม่ง่าย กำลังดี, Puzzle ที่เหมาะสมกำลังดีเช่นกัน, ไม่มีการลงโทษที่ไม่จำเป็น, ไม่มีการ Grinding ไร้สาระ
สรุปง่ายๆ ก็คงเป็น ‘มันเป็นเกมที่ทำให้คุณสนุก และมีความสุข อย่างที่เกมเกมนึงควรจะเป็น’
ในเกม เราจะสวมบทบาทเป็น อีกาตัวน้อย ที่มีงานประจำคือไปเก็บวิญญาณตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย โดยภารกิจแรกมันดันไม่ได้จบง่ายแบบที่เราคาดคิด ทำให้เป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัย เรื่องของเกมก็เริ่มต้นง่ายๆ แบบนี้ แต่พอเล่นไปเรื่อยๆ เราจะเริ่มเข้าใจว่าไอ้หน้าที่ของอีกาพวกนี้มันคืออะไร ทำไมมันมีประตูเต็มไปหมด แล้วปัญหาที่พวกอีกากำลังเผชิญคืออะไร มันง่ายๆ ไม่ซับซ้อน แต่ก็ทำให้น่าสนใจ มีเรื่องราว มีเนื้อหาของโลกภายในเกม
ตัวเกมจะแบ่งเป็นโลกของบอสหลักๆ 3 ตัว ที่มีสภาพแวดล้อมต่างกัน จะมีพื้นที่เปิด และก็มีดันเจี้ยน ในส่วนของพื้นที่เปิด เราก็จะสามารถเดินสำรวจโน่นนี่นั่น เก็บของ หาพื้นที่ลับ ทำ Puzzle เพื่อทำให้ตัวเราเก่งขึ้นก่อนที่จะไปลุยบอสในพื้นที่นั้นๆ ใน 3 พื้นที่ แต่ว่ามันจะไม่ใช่ไปทีเดียวจบแบบไปพื้นที่ต่อแล้วไม่ต้องย้อนกลับมา เราจะได้ย้อนไปย้อนมาในสามพื้นที่ จากการปลดล็อคความสามารถของตัวละคร เพื่อเปิดพื้นที่ใหม่ๆ ภายใน 3 พื้นที่หลักนี้ เรียกได้ว่าใช้แมพได้คุ้มค่าทุกอณู
เกมเพลย์ อย่างที่เกริ่นไปข้างต้น ที่มันมีทั้งจังหวะที่ Relax เอนหลัง เล่นไม่ต้องคิดอะไรมาก เพลินๆ กับจังหวะที่ต้องลุกจากที่เอนหลัง มาตั้งใจฟาดฟันในจังหวะเพลงท่วงทำนองที่มันบิ้วในสถานการณ์ แต่หลักๆ แล้วมันจะค่อนข้างเน้นไปทางเอนหลังเล่นชิวๆ ซะมากกว่า
ส่วน Puzzle ก็ค่อนข้างจะไปทางง่าย ไม่ต้องปวดกบาลติดกับเนื้อหาเนื้อเรื่องโดยไม่จำเป็น พื้นที่ลับต่างๆ ก็ไม่ได้หายากอะไร ถ้าคนที่ชอบหรือคาดหวังใน Puzzle ก็อาจจะผิดหวังได้
การพัฒนาตัวละคร เกมนี้เราจะได้ reward จากการฆ่าพวกมอนสเตอร์ข้างทางก่อนจะไปเจอมินิบอสหรือบอส ไอ้พวกค่าวิญญาณพวกเนี้ย เราสามารถจะเอาไปอัพเกรด เช่นการเพิ่มดาเมจ ความไว สิ่งที่ผมชอบที่สุดก็คือ พอตายแล้วมันไม่ได้หายไปไหน มันก็ยังติดตัวเรา เวลาที่เราเล่นไปเผลอตายก็ไม่สูญเปล่า แต่มันก็ออกจะดูตลกที่มันไม่มีบทลงโทษอะไรเลยหรอฟะ ซึ่งแม่งไม่มี ตายก็ตายไป แค่เดินไกลหน่อย จบบบ
ในส่วนของอาวุธเราจะค่อยๆ ปลดล็อคไปเรื่อยๆ ระหว่างการเล่น รวมถึงสกิลของอีกาด้วยเช่นกัน ที่ตอนแรกเราจะมีแค่ธนู แต่ตอนหลังเราก็จะมีสกิลเวทย์มนต์ต่างๆ เพิ่ม เพื่อใช้ในการเข้าถึงพื้นที่ใหม่ๆ ในฉากนั้นนั่นเอง
สรุปปปป
Death’s Door เป็นเกมที่มีการออกแบบและการนำเสนอได้ AAA มาก (จากทีมพัฒนาหลักโดยคนสองคน!!) ทั้งเกมคุณจะเอนจอยได้อย่างไม่มีติดขัด ทุกอย่างมันลื่นไหล และไม่น่าเบื่อ มันแสดงถึงความใส่ใจและความตั้งใจที่เห็นได้ในทุกมิติของเกม ข้อเสียอย่างเดียวของเกมก็อาจจะเป็นความท้าทายที่มันไม่มาก (หรือแทบจะไม่ท้าทายเลยด้วยซ้ำ) แต่มันก็มี Achievement ที่ต้องกระตุกต่อมพวกคนชอบเล่นโหมดยากอยู่อย่างแน่นอน ก็คือการให้ใช้ร่มเป็นอาวุธอย่างเดียวตลอดเกม ซึ่งก็เป็นการตอบรับปัญหาที่ดี
ถ้าจะถามว่า Death’s Door นี่มันเป็นเกมที่ Must buy มั้ย ผมก็คงตอบว่าไม่
มันเป็นเกมที่ InstaBuy ซะมากกว่า เพราะมันควรค่าแก่การซื้อแบบไม่ต้องคิดอะไรมากเลย
...
ถ้าชอบรีวิว รบกวนฝากกดไลค์เพจ
https://www.facebook.com/an0nyme0w ได้เลยฮะ
[/url]