อันนี้​เรื่องจริงใช่ไหม​ครับ​  

เอาแผงยาท่านมาอ่านดูนะครับ เพราะแต่ละยี่ห้อส่วนผสมไม่เหมือนกัน

ดูว่าเม็ดยาของท่านกี่มิลลิกรัม/แคปซูล แล้วดูว่า แอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) มีกี่ % ของปริมาณยา

เช่น ยาท่านเม็ดละ 300 mg มี Andrographolide 6% แปลว่า 1 เม็ดจะมี Andrographolide 18 mg

dose ของ Andrographolideตามที่แนะนำคือ วันละ 180 mg x 5 วัน (ไม่เกินนี้ ตับพัง)

นั่นแปลว่าท่านต้องกินยานี้ 10 เม็ด/วัน เป็นระยะเวลา 5 วัน

 

ยังไงแจ้งสถานะด้วยนะครับให้พี่น้อง SS ทราบด้วยนะครับว่าได้เดียงยังเป็นห่วงนะครับ สู้ๆ  

 

ท่านมีอาการเป็นอย่างไรบ้างครับ อย่าเพิ่งตื่นตระหนกไปนะครับ ผมขอให้คำแนะนำเหมือนกระทู้ก่อนหน้านะครับ

เบื้องต้นระหว่างที่ท่านยังไม่ได้เตียง หรือต้องรักษาตัวที่บ้าน HOME ISOLATE
อุปกรณ์ที่ผู้ดูแลผู้ป่วยควรมี และควรทำ คือ
1.เครื่องวัดไข้ คอยมั่นวัดไข้ทุกๆ ชั่วโมง (หาซื้อได้ตามร้านขายยาและอุปกรณ์การแพทย์)
2.เครื่องวัดระดับออกซิเจนในเลือดที่ปลายนิ้ว (หาซื้อได้ตามร้านขายยาและอุปกรณ์การแพทย์) คอยมั่นวัดระดับออกซิเจนในเลือด ถ้าต่ำกว่า 95 ควรทำดังนี้
- รีบหาถังออกซิเจนและอุปกรณ์ที่ใช้ช่วยหายใจ (ถ้ามีกำลังทรัพย์หาซื้อได้ที่ร้านขายยาและอุปกรณ์การแพทย์ ถังเล็กราคาประมาณ 2500 บาท อุปกร์ที่ใช้กับถังเซทล่ะ 1500 บาท)เพื่อให้ผู้ป่วยใช้หายใจกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการหายใจลำบาก หรือผู้ป่วยมีค่าออกซิเจนตำกว่า 90
3.ยาฟ้าทะลายโจร กินตามฉลากยาแนะนำ ควรคำนวณมิลิกรัมของการทาน เพื่อไม่ให้โอเวอร์โดรส
4.ยาแก้ปวดลดไข้ ถ้าเป็นผู้ใหญ่และมีไข้เกิน 37.5 ให้ทาน 1000 มิลิกรัม ทุกๆ 4 ชั่วโมง
5.วิตามินซี ให้กินวันล่ะ 1000 มิลิกรัม (แต่ผมให้ที่บ้านผมทานมื้อล่ะ 1 เม็ดหลังอาหาร เข้าใจว่าร่างกายจะขับออกมาทางปัสสาวะเอง)
6.ซิงค์ ให้กินวันล่ะ 1 เม็ด หรือตามที่เภชสัชแนะนำ
7.วิตามินดี ให้กินวันล่ะ 1 เม็ด หรือตามที่เภชสัชแนะนำ
8.ยาแก้ไอละลายเสมหะ ให้กินตามที่เภชสัชแนะนำ
9.ยาพ่นคอเพื่อละลายเสมหะ ใช้ตามที่เภชสัชแนะนำ
10.ให้ผู้ป่วยกินอาหารและยาให้ตรงเวลา ดื่มอุ่นเยอะๆ ให้ฉี่บ่อยๆ
11.ให้หาสมุนไพร พวกเครื่องต้มยำ(ขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกูด พริกสด) ต้มกับน้ำเปล่า รอเดือดและให้ผู้ป่วยคลุมโปง และสูด

หาทางไปตรวจเพื่อเอาผล PCR ตามโรงพยาบาลหรือจุดตรวจต่างๆให้ได้ กรณีอาการเริ่มหนัก และเป็นผู้ป่วยระดับสีเหลืองขึ้นไป (ถ้าได้ผลตรวจให้ดูค่า ct หรือ ถามค่า ct จากผู้แจ้งผลว่าเท่าไหร่ ถ้าต่ำกว่า 20 จะถือว่าการติดเชื้อสูง ให้เฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด หรือรีบหาโรงพยาบาลแอดมิท) ผมแนะนำให้แอดไลน์ @covid191 เจ้าหน้าทีให้คำปรึกษากรณีเราต้องการคำปรึกษาดีมากครับ

จากประสบการณ์ส่วนตัวผมที่บ้านผมติดทั้งหมด 6 คน หลาน 3 พี่สาว 1 พ่อและแม่ และผมโทรไปหมดแล้ว 1330 กด 14 1668 1669 ฯลฯ เจ้าหน้าที่รับเรื่องและไม่ได้รับการตอบสนองใดๆ ผมเข้าใจเจ้าหน้าที่หน้างานว่าเคสเยอะ และไม่ได้โกรธเจ้าหน้าที่ใดๆ และเคสของคนที่บ้านผมต้องดูแลกันเองและพากันไปตรวจเอง หาโรงพยาบาลเอง จนตอนนี้ พ่อกับแม่ ได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลและอาการทรงตัว คุณแม่เพิ่งออกจาก ICU มาได้สองวัน

ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้นะครับ สำคัญคือเราต้องมีสตินะครับ อย่าวิตกกังวลจนเกินไป ผมยอมรับว่าช่วงแรกๆผมเครียดมากๆ และได้ผ่านช่วงเวลาดังกล่าวมาแล้วครับผม

ขอแก้ไขและสอบถามเพิ่มเติมนะครับ ท่านต้องสำรวจอาการตัวเองก่อนครับ ก่อนจะคิดเรื่องหาเตียงหรือไปโรงพยาบาลสนาม และท่านมีสถานที่กักตัวเองหรือไม่ เพราะว่า ถ้าท่านสำรวจอาการตัวเองแล้วและอาการไม่เข้าข่ายผู้ป่วยอาการหนัก สีเหลืองหรือสีแดง ผมคิดว่าควรรักษาตัวอยู่ที่บ้านนะครับถ้ามีสถานที่กักตัว เนื่องจากการไปโรงพยาบาลสนามเราสามารถรับเชื้อเพิ่มหรือแพร่เชื้อเพิ่มได้ครับ และที่สำคัญสุดคือ
1.ถ้าตัวท่านยังไหวการไปตรวจเพื่อเอาผล PCR เตรียมไว้ดีที่สุดครับ ซึ่งถ้าท่านได้ผล PCR มาแล้วการหาเตียงจะง่ายขึ้นครับ
2.มีวินัยรักษาตัวเองครับ กินอาหารให้ตรงเวลา กินยาให้ตรงกับอาการและตรงเวลา

ปล. ที่บ้านผมทนไปหาตรวจ PCR และได้ผลทุกคน หลานผม 3 คน และพี่สาว อาการไม่หนักและอายุไม่เยอะ หมอให้รักษาตัวที่บ้านครับ ตอนนี้หายแล้วครับ ส่วนพ่อกับแม่อายุเยอะ และอาการหนักกว่าคนอายุน้อย ทางโรงพยาบาลส่งรถพยาบาลมารับถึงบ้านและตอนนี้ก็ยังรักษาตัวอยู่ที่ รพ ครับ ก่อนหน้านี้มีแต่ผล antigent และมีประกัน ก็โดน รพ ไล่กลับบ้านอยู่ดีครับ