ไหนๆ ก็ไหนๆ ความเห็นผมมีดังนี้

1. หมอไม่ผิดในการตัดสินใจทางการแพทย์ แพทย์ที่ไหนมาดูก็รู้เห็นตรงกัน

2. ที่หมอโดนไล่ออก ให้เดาก็น่าจะเพราะเรื่อง confidentiality มันไม่ควรทำแบบนี้อยู่แล้ว

3. การติดกล้องวงจรปิดในห้องผู้ป่วย เป็นมาตรฐานการรักษาอยู่แล้ว  

ไหนๆ ก็ไหนๆ ความเห็นผมมีดังนี้

1. หมอไม่ผิดในการตัดสินใจทางการแพทย์ แพทย์ที่ไหนมาดูก็รู้เห็นตรงกัน

2. ที่หมอโดนไล่ออก ให้เดาก็น่าจะเพราะเรื่อง confidentiality มันไม่ควรทำแบบนี้อยู่แล้ว

3. การติดกล้องวงจรปิดในห้องผู้ป่วย เป็นมาตรฐานการรักษาอยู่แล้ว  

ขออธิบาย สองเรื่องครับ
1.โทรศัพท์รพ. จะอัดเสียงอัตโนมัติอยู่แล้วครับ ไม่ว่าเอกชน หรือรัฐบาล เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาแบบเคสนี้ครับ แต่ปกติจะไม่เปิดเผยสู่ภายนอก จะเรียกมาเคลียกันภายใน หรือชั้นศาล ดังนั้นคนปล่อยเสียงจะเป็นใครก็ได้ครับ
2.ปกติ แพทย์เจ้าของ/ข้จะเป็นคนแจ้งอาการ และบอกให้กลับบ้าน เป็นหลัก แต่กรณีมีปัญหา ทางรพ.จะมีทีมเข้ามาคุยครับ โดยปกติก็คนที่ใหญ่มากกว่านั้น เข่นทีมผู้ตรวจการพยาบาล รองผอ. ผอ.รพเป็นต้นครับ  

ไม่ได้ฟังคลิป แต่จากที่อ่านคอมเม้นท์ ปัญหาน่าเป็นการสื่อสาร แพทย์ประเมินถูกจริง
แต่ไม่สามารถจัดการกับความกลัวของคนไข้ได้ ขอเทียบคุณณวัฒน์กับคนที่รู้จัก
คือเป็นคนมีเงิน แต่ไม่มีความสามารถ หรือมั่นใจในการจัดการเรื่องพื้นฐานด้วยตัวคนเดียว
หลายๆอย่างต้องมีคนจัดการให้ หรือแม้จะทำเองก็ต้องมีลูกน้องอยู่ข้างๆถึงสบายใจ

ป่วยหนักแบบนี้อาจเป็นครั้งแรกในชีวิตเลย แถมเป็นโรคที่ถึงตายได้ มันคือความกลัว
ความกังวลของตัวผู้ป่วย แล้วแบบมีเงินพร้อมจ่าย ก็ไม่อยากเสี่ยงลุกเสียม้า ออกไปแล้ว
ถ้ากำเริบขึ้นมาอีก คนดูแลก็ไม่มี ไม่ก็กลัวว่ากลับมาจะไม่มีที่ให้รักษาแบบตอนนี้
คือถ้าตัวเองยังไม่รู้สึกเต็มร้อย คือสำหรับเขาคือยังไม่ปรกติ

คิดว่าคนแบบคุณณวัฒน์ เป็นอะไรประมาณนั้น ถ้าให้เขาเตรียมอะไรที่บ้านให้พร้อม
หรือแบบมีหลักประกันว่าอยู่ที่บ้าน มีพยาบาลส่วนตัว มีคนดูแล มีอุปกรณ์ช่วย
ให้เขามั่นใจเรื่องมันน่าจะง่ายกว่านี้ เพราะเขามีเงินจ่ายได้

อย่าคาดไปหวังเรื่องเสียสละอะไร นาทีแบบนั้นคนเราคิดแต่เรื่องชีวิตตัวเองก่อนอยู่แล้ว