อยากรู้ว่าบางทีมที่ใช้เพลย์เมกเกอร์ตัวหลักของทีมเป็น Wide playmaker อย่างเช่น เมสซี่ กรีลิช ซานโช่ หรือซีเยค แบบนี้การสร้างสรรค์เกมรุกหรือการจ่ายบอล killer pass จะมีแค่จากครึ่งสนามซ้ายหรือขวาหรือเปล่าครับ เช่น กรีลิชที่เป็นปีกซ้าย การสร้างเกมรุกจะมีแค่จากครึ่งสนามซ้ายมั้ย เพราะว่าถ้ายืนกลางรุกมันโยกไปอยู่ด้านซ้ายขวาง่าย แต่ยืนทางซ้ายจะเปลี่ยนไปทางขวามันอาจจะต้องใช้พลังงานเยอะอะไรอย่างงี้ หรือแล้วแต่แทคติกของโค้ชแต่ละคน

เชลซี ช่วงหลังใช้เมาท์ยืนตัวรุกฝั่งซ้าย

มันเล่นได้นะครับ

ถ้าเปรียบเทียบก็เหมือนคนที่แบบ ข้างซ้ายถือโล่ ข้างขวาถือดาบ

เราจะเน้นโจมตีจากด้านในด้านหนึ่งเป็นหลัก

มันอาจจะดูไม่หลากหลาย แต่มันจะเล่นง่ายครับ การวิ่ง การยืน มันจะไม่ค่อยงง

แต่ถ้าแบบมันตันจริงๆ ก็จะโยกสลับฝั่งไปจากซ้ายไปอยู่ขวา อะไรแบบนี้ก็ได้ครับ

แล้วอีกอย่าง การให้ตัวทำเกมมาอยู่ด้านข้าง มันจะมีพื้นที่เยอะครับ

ให้ยืนตรงกลาง ถ้าไม่แน่จริง โดนปิดตายเอาได้ง่ายๆเลย

Wide Playmaker ก็เน้นสร้างสรรค์เกมจากครึ่งนึงของสนามของฝั่งที่ตัวเองอยู่แหละครับ ก็จะรับผิดชอบแค่พื้นที่ตรงนั้นไป ยกเว้นโค้ชจะสลับตำแหน่งไปอีกฝั่งระหว่างเกม แต่คิดว่าไม่ค่อยมีแบบลากจากฝั่งซ้ายไปขวาเลยเพราะคงเปลืองแรงและทับตำแหน่งกับเพื่อน

ผมทวนคำถามนานมาก
ถ้าขมวดคำถามจากนี้


ก็ไช่เลยครับ ตามที่ท่านเข้าใจ เค้าถึงเอา playmaker ไปวางไว้ตรงนั้นใน formation
เพราะถ้า ผจก ทีมจงใจให้เล่นทั้งสองฝั่ง ก็คงเอาไว้ตรงกลาง เป็น playmaker อยู่หลังกองหน้า

แต่ก็คงแล้วแต่สไตล์นักเตะด้วย ประกอบกับ ผจกทีมจะเอาสไตล์ไปใช้แบบไหน
ยกตัวอย่างมาต้า นี่สไตล์ชัดว่าเป็น playmaker แต่ไม่ว่าจะอยู่กับเชลซีหรือแมนฯยูฯ มาต้าจะได้เล่น wide playmaker หรือ false winger เสมอ มากกว่าจะไปยืน หลังกองหน้า ทั้งๆที่เล่นให้กับหลายโค้ช

อีกคนนึงที่สังเกตุกันน้อยแต่เป็นหนึ่งใน wide playmaker หรือ false winger ในยุคก่อนก็คือเบ็คแฮ่มนี่แหละครับ
ยืนปีก 442 แท้ๆ แต่เล่นแบบ wide playmaker ทั้งพื้นที่ขยับและการจ่ายบอลสุดท้ายหรือรองสุดท้าย
ลองหาคลิปดูได้ครับ แบ็คแฮ่มถูกป๋าสั่งให้เล่น wide playmaker บ่อย ไปมาดริดถึงไปเล่นกลาง 3 กับมาดริดได้สบาย รวมถึงกับทีมชาติยุคที่เป็นกัปตันด้วย

ตอนแรกไม่รู้ความหมายWide Player ก็เลยเอาไปค้น
เจอพี่เบ็คขึ้นมาคนแรก

มันหมายถึงผู้เล่นที่รับหน้าที่สวิตซ์บอลข้ามฟากหรือเปล่า?

จากที่สังเกตการเปลี่ยนบอลข้ามฟากส่วนใหญ่มักเป็นแนวทะแยงมากกว่า
เพราะถ้าฝั่งขวาได้บอล พื้นที่ด้านซ้ายมันจะว่าง

อย่างของแมนยู เกมที่บรูโน่ลงพร้อมป็อกบา
แรชฟอร์ดมันจะสลับกับป็อกบาชั่วขณะ
แรชฟอร์ดเปลี่ยนไปยืนซ้าย เพื่อรอบอลยาวจากบรูโน่ทแยงจากทางขวา

ส่วนตัวผมแยกย่อยไปอีกว่า Wide Playmaker คือพวกยืนชิดขอบสนามเลย แบบมาเรซ กรีลิช ซิเย็ค

ใจความที่ต้องเล่นแบบนี้ หลักง่ายๆคือ ดึงแบคข้างใดข้างนึงออกมาหาตัวเอง (ปีกระบบเป๊ปจะยืนกว้างมากๆ)

พวกนี้จะโดนสั่งให้เลี้ยงจี้กดดันแบค เพื่อให้อีกทีมกดดันจนหาคนมาซ้อน

เพื่อสร้างพื้นที่ให้กองกลางสอดไปเล่นกับกองหน้า

ผมว่าสามตัวที่ยกมาเห็นค่อยข้างชัดว่าเล่นริมจริงๆ กับสโมสร

พวกนี้จะถนัดเล่นกับแบ็คที่ overlab ขึ้นไปพื้นที่ริมใน เพื่อเล่นบอลสุดท้าย



ต่างกับพวก Messi silva Mata หรือ Bale ในยุคโบอาส ที่โค้ชไม่กำหนดพื้นที่การเล่นเลย

คือ Free Roam อยากจะเติมซ้ายเติมขวา สอดไปยิง ตามใจได้เลย เพราะจินตนาการสูง

ถ้าเอา Heat map มากาง พวกหลังที่กล่าวมาจะยืนทั่วสนาม ผมไม่นับเป็น Wide playmaker



เป็น Revolution การเล่นที่ใหม่ขึ้นเรื่อยๆ จนน่าสนใจ เพราะ 10 ปีผ่านไปเราไม่เห็นกลางรุกเบอร์ 10

แบบในอดีตแล้ว ไม่รู้อีก 5 ปีฟุตบอลจะเป็นแบบไหนได้อีก

แล้วแต่แท็คติกโค้ช

เวลาเปลี่ยนรับเป็นรุกจากลูกเตะมุม ผมสังเกตเห็น
1) เบล จะยืนรอทางปีกขวา (สมัยเรดแนปป์)
2) อ.ยัง กับ ดาวนิ่ง ยืนรอข้างหน้าสลับด้านกัน

ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับวิธีเล่น บางแผนเหมือนแค่เอาไปยืนในกราฟฟิค
แต่พอลงเล่นจริงไม่ใช่ตัวติดเส้น หุบเข้าในมาปั้นเกม

มันเล่นได้แต่การชิงจังหวะจะเสียเปรียบ