อันนี้ถ้าใครสังเกตดีๆ กับหนังส่วนใหญ่ที่ลงให้กับ Disney+ hotstar ที่ส่วนมากจะเป็นหนังเก่าและมีหนังใหม่อยู่บ้าง จะมีความยาวที่สั้นลงกว่าความเป็นจริง อย่างเรื่อง Avengers Endgame ความยาวที่แจ้งว่าใน IMDB ตัวหนังจะมีความยาวทั้งสิ้น 3 ชม. 1 นาที แต่พอลงให้กับ Disney+ hotstar จะเหลือความยาวเพียงแค่ 2 ชม. 54 นาที
.
แล้วความยาวกว่า 7 นาทีที่หายไป มันหายไปไหน ?
.
ซึ่งความยาวที่หายไปนั้น ไม่ใชเป็นการตัดหนังออกเพื่อลงสตริ่มมิ่งแต่อย่างใด แต่ความยาวที่หายไปนั้น มันคือการหายไปเพราะตัวสัญญาณที่ส่งมาต่างหาก
.
โดยปกตินั้น หนังต้นฉบับจะเป็นสัญญาณภาพที่ส่งมาในรูปแบบของ NTSC ซึ่งจะมี Fps ปกติอยู่ที่ 23.976 fps
.
แต่สำหรับหนังส่วนใหญ่ของ Disney+ hotstar จะใช้สัญญาณภาพแบบ PAL ซึ่งมี Fps อยู่ที่ 25 Fps ทำให้หนังที่เราดูใน Disney+ hotstar มีความเร็วกว่าปกติที่ควรจะเป็น
.
ลองคิดง่ายๆ
หนังความยาวทั้งหมด 3 ชม. 1 นาที จะมีจำนวนวินาทีอยู่ที่ 10,860 วินาที
ถ้าอัตราเฟรมเรทปกติของหนังอยู่ที่ 23.976 fps ตัวหนังนั้นจะมี Fps อยู่ที่ 23.976 x 10,860 =
260,379.36 เฟรม

แต่ถ้าตัวหนังนั้นมี 25 Fps ก็จะเท่ากับ 260,379.36 /25 = 10,415.17 วินาที
.
ซึ่ง 10,415.17 วินาที จะเท่ากับประมาณ 2 ชม. 54 นาที
.
ทำให้เวลาดูหนังพวกนี้ ถ้าใครใช้ทีวีดีๆจะรู้สึกว่าภาพมันเร็วกว่าที่ควรจะเป็น และคุณภาพภาพจะไม่ดีเทียบเท่าต้นฉบับ

แต่หนังของ Disney+ hotstar ก็ไม่ได้ส่งแบบ 25 Fps อย่างเดียวนะ เพราะเห็นหนังใหม่ๆหลายเรื่องก็ส่งมาเป็น 24 Fps อย่างของมาร์เวลเห็นมี Blackpanther รวมถึง Raya , Nomadland ก็เป็น 24 Fps

https://www.facebook.com/khobsanung/photos/a.1798231347073815/3111627195734217/

มองเห็นความต่างของ 1 FPS นี่มันยุคของยอดมนุษย์ ชัดๆ

ว่าไป คนที่ดูหนังเยอะๆเค้ามองออกนะ แต่ไม่ใช่ผม อาจจะแต่รู้สึกว่ามันไวกว่าตอนดูในโรง แต่ก็คงไม่มั่นใจ

ตกลงเวลาของPALกับNTSCมันเดินไม่เท่ากันหรืออะไรกันแน่ ไม่ค่อยเข้าใจ
จะร้อยเฟรมหรือพันเฟรม เวลามันต้องเท่ากันซิ

นี้ถ้าดูหนังระบบ 60fps 260,379.36/60=4,339.656 1.20ชั่วโมงเอง งั้นเหรอ

ลืมเรื่องความยาวหนังที่เป็นชั่วโมงเป็นนาทีไปก่อนครับ

สมมติง่ายๆว่าหนังทั้งเรื่องมีความยาว 1000 เฟรม (คิอเป็นภาพนิ่งๆ 1000 ภาพเรียงกันบนฟิล์มแล้วเครื่องฉายต่อเนื่องจนเป็นภาพเคลื่อนไหว)

ถ้าเครื่องฉายด้วยความเร็ว 23 เฟรม/วินาที หนังจะใช้เวลาฉาย = 1000/23 = 43 วินาที

แต่ถ้าเครื่องฉายด้วยความเร็ว 25 เฟรม/วินาที หนังจะใช้เวลาฉาย = 1000/25 = 40 วินาที

สรุปคือ หนังความยาว (ด้วยจำนวนเฟรมเท่ากัน) ถ้าฉายด้วยความเร็ว fps ที่น้อยกว่า จะใช้เวลาฉายนานกว่า fps ที่มากกว่า

ทีวีผมมันมองอครับ เฟลมเรตต่ำๆภาพจะโดดๆ อย่างเห็นได้ชัด

เอาจริงมันไม่ได้ใกล้เคียงกันขนาดมองยากเลยนะ

24 กับ 25 นี่ค่อนข้างต่างกันชัดเจนเลยนะครับ


ลองดูภาพข่าว ภาพโฆษณา (25) กับเปิดหนังดู (24) <-- [หนังนะ ไม่ใช่ละครทีวี]
มันต่างกันเห็นๆอยู่นะ

มันแปลงที่สัญญาณของต้นฉบับไฟล์อ่ะครับ นั่นแปลว่าถ้าหนังที่ถ่ายทำ24fpsมาแปลงเป็น60fps หนังก็จะได้เวลาแบบที่คุณว่านั่นแหละ ก็เฟรมภาพมีเท่าเดิมแต่ใน1วิแสดงภาพได้มากขึ้นเท่าตัวมันก็ต้องเร็วขึ้น เหมือนปรับ2X

แต่กลับกันถ้าเอาไฟล์ต้นฉบับมา1ไฟล์ แต่เอาไปเปิดกับหลายๆจอที่ค่าfpsต่างกันแบบนี้เวลาเท่าเดิมครับไม่ว่าจะเปิดจอไหน แค่ว่าจอที่fpsสูงมันก็จะดูสมูทกว่า เหมือนเวลาเล่นเกมที่เค้าซีเรียสกัน คร่าวๆก็แบบนี้

แต่ปกติถ้าไม่ได้ถ่ายทำกันที่60fpsแต่แรกมันไม่มีใครไปแปลงหรอกครับเพราะมันจะเร็วแบบที่ว่า แต่ไอ้ 23.97 24 25 30 นี่แปลงกันไปมาเป็นเรื่องปกติเลยครับ ปกติดูไม่รู้หรอก อย่างภาพยนตร์ที่ถ่ายแบบฟิล์มสมัยก่อนก็ไม่ได้สมูทอะไรมากอยู่แล้ว ถือเป็นเสน่ห์อย่างนึงเหมือนกัน ดังนั้นการที่ช้าเร็วนิดเดียวไม่มีผลเลย

แต่ถ้าแปลงต้นฉบับ23.97เป็น25หรือ30แล้วดันใช้จอแพงๆHzสูงๆภาพลื่นๆ อาจจะไม่รู้สึกในเรื่องของเวลา(ถ้าไม่ไปจับผิดอ่ะนะ) แต่เวลาดูภาพอาจจะดูไวๆแบบนิดนึง ซึ่งผมว่าตรงนี้แหละที่จะรู้สึกขัดใจ ยิ่งฉากแพนกล้องช้าๆ+เปิดเพลงบิ้วช้าๆไปด้วย ถ้าคนเคยดูมาก่อนแล้วเซนส์ดีๆผมว่ารับรู้ได้ว่าต่าง