'เคน' ปลดล็อก!! 'สเตอร์ลิ่ง' ยิงด้วยช่วยสิงโตโค่นอินทรี 2-0 ลิ่ว 8 ทีม
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
Footballs coming home กันลั่นประเทศหลังทีมชาติ อังกฤษ ทำสำเร็จ มาได้ประตูนำจาก ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ในช่วง 15 นาทีสุดท้าย ก่อนที่จะปิดท้ายด้วย แฮร์รี่ เคน โหม่งปลดล็อกให้ตัวเองและการันตี สิงโตคำราม เอาชนะ เยอรมนี 2-0 ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ
อังกฤษ
Starting Formation: 3-4-3
4.
เดแคลน ไรซ์

88'
6.5
25.
บูคาโย่ ซาก้า

69'
6.0
ตัวสำรอง
8.
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน

88'
-
7.
แจ๊ค กรีลิช

69'
7.5
ฟุตบอลยูโร 2020 รอบ 16 ทีมสุดท้าย
สนาม เวมบลีย์
วันที่ 29 มิถุนายน 2564
กรรมการ ดานนี่ มัคเคลี
อังกฤษ
2
0
เยอรมนี
1-0 สเตอร์ลิ่ง 75'
2-0 เคน 86'
อังกฤษ จัดตัวในระบบหลังสามคนตามขาดโดยให้ วอล์คเกอร์ ยืนเป็นหนึ่งในเซ็นเตอร์แบ็ค ขณะที่แนวรุกเลือกใช้ สเตอร์ลิ่ง กับ ซาก้า โดยที่ เมาท์ และ กรีลิช เป็นสำรอง
เยอรมนี เองยังมาในแผนเดิมและ รูดิเกอร์ ฟิตพอเป็นตัวจริง แต่มีการดร็อป กุนโดกาน เพื่อให้ โกเร็ทซ์ก้า ลงแทนขณะที่แนวรุก แวร์เนอร์ ได้รับโอกาส
อินทรีได้ฟรีคิกจุดอันตราย ไค ยิงไม่ผ่านบล็อก
เริ่มเกมมา เยอรมนี ได้ฟรีคิกสำคัญตรงหัวกะโหลกหน้าเขตโทษเยื้องมาทางขวานิดนึง เลือกใช้การเขี่ยเปลี่ยนจุดแล้วให้ ฮาแวร์ตซ์ วิ่งมายิงอัดแต่ก็ไม่ผ่านฝูงนักเตะ อังกฤษ ยืนบล็อกกันไว้
สิงโตกลับมาลุ้น! ราฮีม ส่องไกลโดนปัดทิ้ง
อังกฤษ มาหาโอกาสจบได้บ้างกับบอลที่จ่ายๆกันมาตรงกลางก่อนให้ สเตอร์ลิ่ง เลี้ยงหลบเข้าในแล้วขอส่องไกลมาเสาสองยังถูก นอยเออร์ ปัดออกไปก่อน
เตะมุมสิงโต แมกไกวร์ ได้โหม่งก็เบาไป
จังหวะเตะมุมของ อังกฤษ ก็เปลี่ยนเป็นโอกาสจบได้เมื่อ ทริปเปียร์ เปิดจากขวาเข้ามาแล้ว แมกไกวร์ ได้โหม่งค่อนข้างโล่งเลยแต่ขาดน้ำหนัก นอยเออร์ เลยรับไม่ยาก
ทริปเปียร์ เปิดให้ แมกไกวร์ โหม่งอีกก็ออกหลัง
อังกฤษ กลับมาได้เตะมุมอีกแล้วเปิดเข้าไปทีแรกไม่มีอะไรแถวสองเก็บได้ เปิดกลับมาให้ ทริปเปียร์ ทางขวาก่อนครอสไปในเขตโทษ แมกไกวร์ ขึ้นโหม่งได้อีกแต่ก็ลอยออกหลัง
ยังไม่เฮ! แวร์เนอร์ มายิงมุมแคบโดนเซฟได้
กลับมาเป็น เยอรมนี ลุ้นบ้างเกือบได้ประตูนำจากกลางสนามจ่ายให้ ฮาแวร์ตซ์ พลิกมาก่อนแทงเข้าเขตโทษให้ แวร์เนอร์ แข่งกับกองหลังไปมุมแคบทางซ้ายได้ยิงไม่ผ่านเซฟ พิคฟอร์ด
สิงโตได้ลูกตั้งเตะเยอะยังขาดโอกาสดีๆ
เข้าท้ายครึ่งแรกแล้วมันยังไม่ค่อยมีอะไรให้ลุ้นมาก แต่ อังกฤษ ได้ลูกตั้งเตะอยู่เรื่อยๆและก็มาได้ฟรีคิกที่ ทริปเปียร์ เปิดเข้าไปในเขตโทษ เคน พยายาม สอดมาโหม่งแต่ ฮุมเมิลส์ ตามสกัดไว้ก่อน
เกือบไปแล้ว! เคน กำลังจะได้ยิงจ่อๆเจอสกัดทิ้งทัน
หวิดจะมีประตูนำให้กับ อังกฤษ เข้าให้แล้วหลัง สเตอร์ลิ่ง ตัดบอลได้พาโต้กลับมาแล้วกะจะลุยเดี่ยวเข้าเขตโทษมาเองแต่โดนรุมไปไม่รอด บอลยังถูกสกัดเข้าทาง เคน ทางซ้ายในกรอบแตะหนี นอยเออร์ ได้แต่แรงไปสุดท้ายเจอ ฮุมเมิลส์ สกัดทิ้งทัน
เกือบจะเฮ! บอลเปิดมาถึง ฮาแวร์ตซ์ ยิงโดนปัดข้ามคาน
กลับมาครึ่งหลังเกือบจะมีประตูให้กับ เยอรมนี เข้าแล้วด้วยจังหวะ โกเซนส์ เปิดจากซ้ายเข้ามาแล้วเลยมาถึง ฮาแวร์ตซ์ ยิงอัดทันทีแต่โดน พิคฟอร์ด ปัดข้ามคานไปได้
อินทรีได้โต้กลับแต่ไม่มีโอกาสได้ยิง
เยอรมนี ได้โอกาสโต้กลับมาหลัง รูดิเกอร์ ดักบอลได้รีบจ่ายออกขวาให้ ฮาแวร์ตซ์ พาบอลขึ้นมาเองตามด้วยจ่ายให้กับ แวร์เนอร์ ซ้ายมือกระชากหนีเข้าเขตโทษแล้วพยายามหักมาหน้าประตูแต่ก็ยังโดนดักไว้
ต่างฝ่ายต่างปรับเกมแล้วส่งตัวรุกลงทั้งสองทีม
เยอรมนี ตัดสินใจปรับเปลี่ยนก่อนด้วยการเปลี่ยนเอา แวร์เนอร์ แล้วให้ กนาบรี้ ลงมายืนแดนหน้าแทน
ส่วน อังกฤษ ที่เกมเงียบไปตั้งแต่เริ่มครึ่งหลังมาก็ถอดเอา ซาก้า ออกแล้วให้ กรีลิช ลงสนามมาแทนหลังแฟนบอลในสนามตะโกนเรียกชื่อเขาก่อนหน้านี้
สิงโตมาแล้ว!! ชอว์ ปาดเรียด ราฮีม ชาร์จจ่อๆออกนำ
แต่แล้วไปๆมาๆ สิงโต กลายเป็นฝ่ายเอาประตูออกนำเข้าจนได้ เริ่มต้นมาจากที่ สเตอร์ลิ่ง รับบอลมาแล้วจ่ายหน้าเขตโทษให้ เคน พักไว้จ่ายย้อนที่ กรีลิช ใกล้ๆก่อนจะส่งให้ ชอว์ เติมมาซ้ายมือปาดเรียดไปหน้าประตูจบที่ สเตอร์ลิ่ง สอดมาชาร์จตุงตาข่ายนำ 1-0
อินทรีได้ฟรีคิก มุลเลอร์ ยิงไปติดกำแพง
เยอรมนี บุกกลับมาทันทีเรียกฟรีคิกได้หน้าเขตโทษเยื้องมาทางขวา ลงเอยที่ มุลเลอร์ เป็นคนวิ่งมายิงแต่ก็ติดกำแพงเต็มๆ
สิงโตใจแทบวาย! ราฮีม จ่ายพลาดโดนโต้กลับแต่ มุลเลอร์ ยิงเฉี่ยวเสา
ขยับเข้าสู่ช่วงท้ายเกม อังกฤษ ใจหล่นไปอยู่ตาตุ่มเกือบโดนตีเสมอแล้ว มาจากที่ สเตอร์ลิ่ง จ่ายพลาดทำให้ เยอรมนี โต้กลับ ฮาแวร์ตซ์ ตามมาเก็บบอลก่อนจะแทงให้ มุลเลอร์ หลุดเดี่ยวขึ้นไปถึงเขตโทษแล้วยิงเลยส่งบอลเฉี่ยวเสาออกไปน่าเสียดาย
จบแล้วนาย!! สิงโตตัดบอลสวนกลับ เคน โหม่งไม่เหลือ
แต่แบบนี้คงจบแล้วเมื่อ อังกฤษ บุกกลับมาเอาประตูทิ้งห่างได้สำเร็จ จากที่ตัดบอลได้กลางสนาม ชอว์ พาขึ้นมาแล้วส่งให้ กรีลิช สอดเข้าทางซ้ายในเขตโทษก่อนจะเปิดมาให้ เคน ก้มโหม่งตุงตาข่าย อังกฤษ นำห่าง 2-0
จบเกม อังกฤษ ทำได้เฉือนเอาชนะ เยอรมนี 2-0 ทำให้พวกเขาผ่านเข้ารอบไปรอเจอผู้ชนะระหว่าง สวีเดน กับ ยูเครน
นอกจากนี้ อังกฤษ ยังเอาชนะ เยอรมนี ในรอบน็อคเอาท์ของทัวร์นาเมนต์ใหญ่ได้เป็นหนแรกนับตั้งแต่ปี 1966
เยอรมนี
Starting Formation: 3-4-2-1
4.
มัตธิอัส กินเตอร์

87'
5.5
20.
โรบิน โกเซนส์

88'
5.5
25.
โธมัส มุลเลอร์

90+2'
5.0
11.
ทิโม แวร์เนอร์

69'
5.0
ตัวสำรอง
23.
เอ็มเร่ ชาน

87'
-
10.
แซร์จ กนาบรี้

69'
5.5
19.
เลรอย ซาเน่

88'
-
14.
จามาล มูเซียล่า

90+2'
-
แก้ไขล่าสุดโดย redenzo เมื่อ Wed Jun 30, 2021 01:30, ทั้งหมด 6 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ