ไม่แน่ใจว่าเซนเซย์ตั้งแต่คุณแม่เสียแล้วเหมือนแกยังดิ่งอยู่ การตัดสินใจเกือบทุกอย่างในรอบนี้แทบพลาดหมด บวกกับทีมงานที่แกไม่พาติดสอยมา+ล่ามคนใหม่ที่อาจแปลศัพท์ฟุตบอลให้แกไม่ได้แบบคนเก่า ส่วนวิธีแก้ปัญหาผมมองลงไปในการปลูกฝังรุ่นเด็กลงมา
ผมว่าเราต้องปลูกฝังแนวคิดการเล่นแบบญี่ปุ่นหรือเกาหลีตั้งแต่U16 ขึ้นไป ชุดรุ่นต่ำกว่า15-16ลงมา ปล่อยให้เด็กเล่นตามจินตนาการของตัวเองไป ไม่ต้องเน้นการแข่งขันหรือแทคติก ให้เด็กสนุกกับการเล่นฟุตบอลเหมือนเราเล่นตอนพักกลางวันกับเพื่อนที่โรงเรียน แต่ปัญหาตั้งแต่รุ่นเด็กคือพ่อ-แม่บางทีอยากเอาผลชนะไปอวดคนอื่นหรือเสพติดผลชนะจนเกินไป แล้วกลายเป็นโค้ชก็ต้องโดนบีบให้ทำตาม ส่วนเด็กก็เครียดต้องมาซ้อมหนักตามที่พ่อแม่หวังไว้ พอเด็กเครียดความหลงไหลในฟุตบอลก็จะหายตาม แล้วเด็กก็จะไม่ตั้งใจในการเล่นฟุตบอล

ตอนแกคุมญี่ปุ่นลุยบอลโลก ทีมงานแกเพียบเลย เก่งๆทั้งนั้น อย่างโมริยาสุโค้ชทีมชาติปัจจุบันก็ทีมงานแก

ตอนแรกก็อวยกันนี่ครับเรื่องไม่เอาสตาฟมา เพราะอยากให้ทีมงานที่เป็นคนไทย เรียนรู้ด้วยตัวเอง
ยังยกให้แกเป็นอาจารย์กันอยู่เลย

เรื่องภาษากับสตาฟนี่แหล่ะ
เอาตามตรง สตาฟไทยคือนักบอลเก่านะครับ ไม่ได้มีความรู้เรื่องภาษาเลย แค่อังกฤษก็ยากแล้ว นี่มาเจอล่ามปุ่นแบบพุดไทยได้ไม่ค่อน native ยิ่งไปกันใหญ่เลย ผมว่าจุดเปลี่ยนมันอยู่ตรงนี้แหล่ะ

ล่ามที่แปลไทยแบบเป็นคำๆกับล่ามที่แปลไทยเป็นไทยได้สวยๆ ความเข้าใจมันต่างกัน
แล้วที่ฟังๆสัมภาษณ์ ล่ามค่อยข้างแย่เลยในการแปลภาษาฟุตบอล เหมือนว่าไม่ค่อยมีความรู้ทางนี้ด้วย

ผมว่าแกชินกับมาตรฐานกับญี่ปุ่นมากไป
ถ้าโค้ชไม่ทำเต็มที่ บางทีมาตรฐานสูงมันสามารถกลบตรงนี้ได้

แต่นิชิโนะประเมินมาตรฐานนักเตะไทยพลาด จริงๆมันต้องลงแรงเยอะกว่าปกติ แต่แกดูเหมือนจะทำงานแบบปล่อยๆซะมากกว่า

ยิ่งเจอเคสแม่เสีย โควิด ไปกันใหญ่เลย

ฝีมือมีนะ แต่พูดตรงๆ แกดูหมดไฟแล้ว จากที่ต้องลงแรงมากกว่าอยู่ญี่ปุ่นกับปล่อยกว่าเดิม เละเลย

สรุปจากความเห็นแต่ละคนได้ว่า
1. ไม่ยอมเอาทีมงานตัวเองมา
2. ไม่สามารถโค้ชนักเตะรายคนได้ เพราะไม่มีผู้ช่วยคู่ใจ
3. สื่อสารไม่ได้เพราะล่ามถ่ายทอดศัพท์ฟุตบอลได้ไม่ดี
4. ไม่รู้จักนักเตะ ไม่มีตัวจริงในใจ
5. ปัญหาครอบครัว
6. ปัญหาโควิด

ช่วงที่ฟอร์มดีๆ แทบไม่มีใครถามหาทีมงานแกซักคน
แต่พอฟอร์มแย่ถามหาทีมงานกันเพียบ

สรุปได้เลยว่าผลงานในสนามนั้นสำคัญที่สุด ต่อให้เบื้องหลังงานมันจะเป็นยังไงก็ตาม

หืมถ้าเป็นจริงตามที่ว่าแกไม่ขอทีมงานเองนี้

ผมก็เห็นควรว่ารีบๆไล่ไปเถอะครับ

ทำงานไม่ทุ่มเท เท่ากับที่ขอค่าเหนื่อย มีที่ไหนทำงานไม่มีทีมงานมา ไปๆมาๆ แทบไม่ดูฟอร์มนักเตะที่สนามด้วยตัวเอง เหมือนให้เวลากับทีมชาติน้อยกว่าเรื่องส่วนตัว

ทำงานไม่สมกับเป็นมืออาชีพ คุยแต่เรื่องเงิน

ไม่ทุ่มเท ถ้ารู้ว่าทีมชาติเราอ่อนก็ควรหาแผนที่เอามาใช้แล้วเหมาะสม การเสนอแผนงานวากรากฐานทีมเยาวชนก็ไม่เห็นเป็นชิ้นเป็นอัน เหมือนมาทำไปวันๆ รอเอาเงินเดือน

ผมว่าสมาคมชุดนี้โคตรตามใจแกเลยนะ
เอานักเตะไปขนาดนั้น ค่าใช้จ่ายไม่ใช่น้อยๆเลย
ผมเป็นนายกสมาคมเจอขอนักเตะขนไปเยอะขนาดนั้นก็มีเครียดเหมือนกันนะ แต่นี้ก็จัดให้ตามที่ขอ

ผมว่าทัวร์นาเม้นนี้ นิชิโนะรับไปเต็มๆเลยนะ

ตัดเรื่องนอกสนามออกไป แท็คติคอะไรต่างๆ การเลือกตัวลงสนาม ผมว่าไม่ไหวเลย

เรื่องที่แกไม่ยอมเอาทีมงานมาด้วยผมคิดว่าน่าจะเกี่ยวกับเรื่องเงินนี่แหละครับ

ย้อนความนิด จริงๆแล้วที่แกได้คุมญี่ปุ่นชุดฟุตโลก2018 เพราะญี่ปุ่นตอนนั้นไล่โค้ชวาหิดออกกระทันหันนิถ้าจำไม่ผิด

นิชิโนะเหมือนรับหน้าที่แทนกระทันหันเพราะเป็นคนในสมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น ว่าง่ายๆคือโค้ชปลดเกษียณตัวเองไปแล้ว ไทยเราไปดึงมาก็ตามนั้นจริงๆดูหมดไฟ ไม่กระตุ้นอะไรเลยตอนแข่ง ผมเป็นนักเตะก็หมดใจนะ

มาๆไปไม่ค่อยอยู่ไทยยาวเท่าไร สมาคมตามใจทุกอย่างล่ามก็เลือกเอง ทีมงานดันบอกว่าไม่ต้องเอาอีก 555
ไทยเราเหมือนโดนหลอกกินตังเลย

จากที่ผมฟังช่องโค้ชธงมาแกบอกว่าไม่เกี่ยวนะครับ สมาคมจะออกค่าใช้จ่ายแยกให้หมดแต่นิชิโนะไม่เอามาเองยืนยันว่าจะปั้นโค้ชไทยๆ

ขอบคุณครับ แปลว่าผมเข้าใจแกผิดไปเอง