ขั้นแรกต้องบอกก่อนว่า นี่คือ Review จากคนที่อ่านซามูไรพเนจร ตั้งแต่ฉบับการ์ตููน และซื้อติดตามเดือนต่อเดือน คนที่ดูAnimation ภาคเริ่มต้น ภาคแยกพิเศษ ภาคภาพยนตร์ ก็ดูภาษาญี่ปุ่นก็เรียนเพราะชอบวัฒนธรรมญี่ปุ่นจากการ์ตูนเรื่องนี้เลยก็ว่าได้ ( จะเอาไปลงที่เพจเรียนภาษาญี่ปุ่นเบื้องต้นด้วยเพราะเอาศัพท์ง่ายๆไปลงไว้ที่นั่นอยู่แล้ว )

และก็โชคดีมากซึ่งได้เห็น การนำการ์ตูนเรื่องนี้ มาทำเป็นภาพยนตร์ ซึ่งก็ติดตามดูมาแล้วทุกภาค จนได้ดูเคนชิน ซามูไรพเนจร : ปัจฉิมบท ที่พึ่งออกฉาย ในไม่กี่วันนี้

นอกจากจะ Review แล้วก็เลยจะแบ่งเนื้อหาของข้อความ บทความ กระทู้นี้เป็น 3 เรื่องประมาณนี้
1.เนื้อหาโดยรวมของภาพยนตร์
2.ช่วงจบ
3.คะแนนที่จะให้โดยส่วนตัว

1.เนื้อหาโดยรวมของภาพยนตร์
Rurouni Kenshin: The Final เริ่มเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ญี่ปุ่นเป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา และสามารถกวาดรายได้ภายใน 3 วันแรกไปกว่า 6.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ



เนื้อเรื่อง ต้องบอกว่านี่คือ นำเค้าโครงจาก มังงะ มาเป็นโครงหลัก แต่ ทีมงานของผู้ให้ทุน ผู้สร้างก็ขึ้นชื่ออยู่แล้ว เรื่องการหักหลังคนดู มาแล้วจาก DeathNote ที่ แอล ไม่ตายในตอนจบ ก็คือเอาเนื้อหาของ ยูกิชิโระ เอนิชิ ที่ต้องการแก้แค้นแทนพี่สาว ยูกิชิโร่ โทโมเอะ ที่ต้องตายในการต่อสู้ของเคนชินและ กลุ่มนินจานักฆ่า ในยุคปฏิวัติเมจิ แต่มีการปรับให้สามารถนำเสนอ สื่อสารให้คนดูได้รู้เรื่องในระยะเวลา ประมาณ 2 ชั่วโมงได้ง่ายขึ้น ก็คือถ้าใครตามอ่านการ์ตูนอยู่แล้ว ก็จะเข้าใจเลยว่าอะไรเกิดขึ้นบ้าง แต่ถ้าใครมาใหม่ๆเลย พึ่งมาดูก็จะพอเข้าใจอยู่ว่าตัวละครในเรื่อง ต้องการอะไรบ้าง ระหว่างฝ่าย ธรรมะฝ่ายพระเอก ที่พอญี่ปุ่นเปลี่ยนยุคสมัยใหม่แล้ว ก็ต้องการให้ทุกคนอยู่อย่างสงบ กับฝ่ายที่รู้สึกสูญเสียจากสงคราม และโดยเฉพาะฝ่ายที่ต้องเคยมี เพื่อน พี่น้อง ตายเพราะ นักฆ่า บัตโตไซ ( คือมีหน้าที่ฆ่าอย่างเดียวไม่ต้องคิดอะไร คือฆ่าคนสำคัญด้วยเพลงดาบล่องนภา ที่ว่าในเรื่องมีความเร็วสูงสุดอยู่แล้ว ) ก็เลยแค้นและมารวมตัวกัน

คือต่อให้แพ้ ก็ขอตายเพราะดาบของบัตโตไซ เพราะถือว่ามีเกียรติ ประมาณนั้น





ระหว่างเส้นเรื่อง ก็จะได้เจอกับการกลับมาของเพื่อนร่วมสงคราม จากภาคก่อนๆ Reunion กัน และการเปิดฉากการทำลายล้างของฝั่งตัวร้าย มาเรื่อยๆ ซึ่งในการ์ตูนจะโหดดิบ กว่ามากๆ คือดิบและลึกลงไปจนสิ้นหวังไปเลยในบาง Part เช่นที่ผิดหวังจน เคนชิน ออกไปอยู่หมู่บ้านคนไร้ราก เอาโซ่มัดดาบตัวเองไว้ คือไม่ใช้ดาบอีกเลย เพราะมีตัวละครสำคัญตายไป


ภาพ ยูกิชิโระ โทโมเอะ ซึ่ง น่าจะเป็นดาราดังมากคนหนึ่ง เพราะเปิดตัวใกล้ๆหนังจะฉายเลย และก็สวยใกล้เคียงกับการ์ตูน ทีมCasting เก่งมาก



ในหนังจะเล่าถึงการกำเนิดของปัญหา ความแค้นจากเอนิชิ ผ่านตัวละครพระเอกเอง โดยที่มีตัวละครสำคัญมาก คือ ยูกิชิโระ โทโมเอะ ที่เป็นภาพวาดของผู้หญิงผมยาว สวยในแบบของคนญี่ปุ่น ที่ใส่เสื้อสีขาว
เนื้อหาก็คือ โทโมเอะ จริงๆแล้วกำลังจะเป็นเจ้าสาว แต่ว่าสงครามกลางเมืองและการสู้รบเล็กๆในมุมเมือง ทำให้ผู้ชายคนที่เธอรัก ต้องมาเจอกับมือสังหารระดับที่แตกต่างกันทำให้ต้องตาย โทโมเอะก็เลยต้องหาทางแก้แค้น ( จะว่าสปอยล์ก็ไม่ได้เพราะ ใครๆก็จะรู้เนื้อเรื่องนี้อยู่แล้ว )

ด้วยความที่เป็นการตูนดัง จึงไม่สามารถ ดำเนินเรื่องตามเนื้อเรื่องของการ์ตูนได้หมดเพราะมันจะไม่สนุกไปอีก ทำให้ต้องพลิกแพลงบทเล็กๆน้อยๆ ( ตรงนี้โดนวิจารณ์เยอะเช่นกัน แต่ผมเฉยๆ หรือให้วิจารณ์ด้วยก็ต้องบอกว่า ต้องจับคู่Battle ให้ดีกว่านี้เช่นกัน แต่เรื่องฉากผมชอบนะ พอไ้ดเลยล่ะ )

จึงทำให้มีหลายฉากที่ Surprise มากๆ และมีตัวละครลับออกมาอีกด้วย ซึ่งถ้าสายการ์ตูน จะต้องกรี๊ด เพราะว่ามันเป็นตัวละครลับที่ ตอนสู้กับพระเอก ก็ไม่ได้อยากให้เค้าตาย (ในการ์ตูนนะเพราะมันเท่ มาก คือซาโนสุเกะยังบอกเลยว่า นึกว่าไอ้หน้าโหดที่ไหนที่เกือบชนะเคนชินได้ ที่แท้ก็หน้าใสใสนี่เอง)
และเคนชินเองก็เป็นคนปล่อยชีวิตเค้าไป และบอกให้ไปลองพเนจรค้นหาชีวิตตัวเองดู ซึ่งก็กลับมาในภาพยนรต์จริงๆ แต่จะกลับมาเป็นคนดี คนร้าย นี่ก็หักหลังคนดูอีก 2 ตลบ



2.ช่วงจบ
ในช่วงแรก จะมีการปูเนื้อเรื่องสลับกับการต่อสู้โชว์ของบ้างประปราย สลับกับฉากแอคชั่นที่พอดูได้สำหรับผมเอง ( ผมสาวกหนังจีนหนังดาบ ปีนี้ยังไม่ได้ดูเลย เลยชอบเป็นพิเศษ )
จบมาถึงตอนจบที่ ก็ตามฟอร์ม ที่ต้องมีกองกำลังให้พระเอก ฟาร์ม ซึ่งก็ทำได้ดี มีเพื่อนพระเอกของเรามาช่วยจนส่งพระเอกไปเจอกับ Boss ของภาคได้

ในการ์ตูนจะเว่อร์ๆหน่อย การปรับสเกลของพลังลง ทำให้เราได้ดูได้ไม่เขิน และเกือบสมจริงยิ่งขึ้น
ต้องบอกว่า เอนิชิเหมือนตัวแทนของจอมยุทธ จีนกลายๆ เพราะลักษณะการใช้ท่าต่อสู้ เสื้อผ้า ดาบที่ใช้ก็คือ มาจากหนังจีน หนังกำลังภายในเลย (ในการ์ตูนแกคือเสือในภาพวาดจีน เคนชินคือมังกรเวลาเปรียบเทียบเป็นศิลปะ ฉากของการต่อสู้ )

ตอนจบ ก็ต้องดราม่าหน่อย สายการ์ตูนอาจจะพอสมใจนิดๆ แต่ถ้า คนที่ไมไ่ด้รู้จักตัวละครไม่ได้ชอบมากอาจจะผ่านๆ ไม่ชอบก็เป็นได้ รวมๆจนจบจริงๆของหนัง การต่อสู้สุดท้าย ฉากซึ้ง สำหรับผมก็พอใจอยู่
จบแบบไหน ต้องไปดูเอง ไม่เหมือนการ์ตูนแน่นอน



3.คะแนนที่จะให้โดยส่วนตัว

ผมดูบางเพจให้ 9/10 บางคนบอกไม่ชอบเลยก็มี
ส่วนตัวให้ที่ 8/10 คือ เหมาะแก่การดู ซึ่งคนที่ไม่เคยติดตามมาก่อนก็ดูได้ครับ ไม่ได้เสียเวลามากเกินไป
สำหรับเวลาว่างๆ เปิดดูเพลินๆได้ ( นี่จะซ้ำ ภาคภาษาญี่ปุ่นอีกรอบ )

8/10 นี่คือ เนื้อเรื่อง พอใช้(เนื้อเรื่องไม่ซับซ้อน) ฉาก ให้คะแนนในขั้นดีมาก ความประทับใจให้ในขั้นดี
แต่ก็ขอบอกไว้ว่า อย่าคาดหวังมากไป ดูสนุกๆ ก็พอ

ดูไปดูมาคิดถึงเพื่อนที่ญี่ปุ่นมาก ผมมีเพื่อนที่นั่นด้วย เค้าพาไปเที่ยวที่เมืองเก่า เกียวโต ไปแบบชาวญี่ปุ่นแท้ๆพาไป สนุกสุดๆ ดูแล้วแบบคิดถึง

จบการนำเสนอครับ




comment จาก โกดังหนัง

https://www.facebook.com/kodungnung/photos/a.1685775548368400/2936809313265011/

ดูแล้วมันปูความอินของโทโมเอะสั้นไปหน่อย คือมันขาดว่าทำไมโทโมเอะอยู่ดีๆรู้สึกงั้นได้ไงหรือมาอยู่กับเคนชินได้ยังไงมันตัดไปตัดมาไวไปหน่อย

ฉากสู้โอเคนะแต่ซาโนะมันกากไปหน่อย ไซโตนี่ดีเลยเท่ห์เก่ง ส่วนอาโอชิเจ็บเพราะช่วยคนอื่นหนีระเบิดเกมส์ซะงั้นช็อคมาก ส่วนยาฮิโกะบทอย่างเหงา อีกคนก็สึบาเมะ

เอนิชิดูไม่ปูมาให้เป็นหัวหน้าองค์กรเท่าไหร่(คือในงะมันก็ดูไม่เหมือนแหละ)จริงๆผมว่ามันเสริมได้มากกว่านี้ไหนจะเรื่องร่างกายเคนชินอีก และไอ่ 4 จตุรเทพก็ไม่มีบทเลยแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะบทนั้น และเรื่องความแค้นของทีมเอนิชิมันแทบไม่ได้ปูเลยว่าแต่ละคนทำไมมาร่วมกับเอนิชิ เลยดูลอยๆไปนิด

และส่วนสุดท้ายที่ขัดใจนิดๆคือ เอนิชิเป้าหมายแค่เคนชินกับคนเกี่ยวข้องใกล้ๆเพื่อทำทัณฑ์มนุษย์ นี่พวกเล่นระเบิดเมืองเล่นเลย

เห็นด้วยหลายจุดเลยเช่นกันครับผม มีหลายอย่างที่ทำได้ดีกว่านี้

ผมว่าน่าจะทำ part1 - part2 แบบเดียวกับชิชิโอ เวลาเล่าเรื่องจะได้อินตัวละครผมถึงชอบมากตอนสู้กับชิชิโอ มันทำให้เรารู้สึกว่าเก่งจริงๆเป็นบอสที่ยิ่งใหญ่ แต่นี่ผมว่าถูกบีบเรื่องเล่ามากเกินไปแปปๆจบ ยังไม่ได้ทันได้อินอะไร ผมเลยค่อยข้างเซงมากกับภาคนี้

555 ภาคชิชิโอมันทำไว้ดีเกิน เพื่อนผมไม่อ่านการ์ตูนยังบอก เฮ้ย สนุกว่ะ(ภาพยนตร์ภาคชิชิโอ)
เสียดายตอนเรียนไม่อ่านการ์ตูน

เดี๋ยวจะมีภาคแยกของตัวเองเลยครับ​ ที่ญี่ปุ่นพึ่งเข้าเมื่อต้นเดือน​ Rurouni kenshin : The Beginning

เอนิชิมันมีพูดถึงอยู่นะว่าทำไมถึงระเบิดเมือง ตอนมันสู้กัน

เรื่องนี้ดีที่ฉากแอคชั่นแค่นั้นเลย บทตัวอื่นๆอย่างง่อยแต่ก็พอเข้าใจได้ว่าตัวละครมันเยอะ
ไซโตแอ็คทั้งเรื่อง
ซาโนะก็นักเลงบ้านๆเลย กลายเป็นตัวขายขำแทน
ยาฮิโกะก็เด็กน้อยแบบเด็กน้อยจริงๆ ไม่มีคิวบู้ใดๆ
อาโอชิจริงๆบทน่าจะดีที่สุดจากตัวอื่นๆแต่ตัวนักแสดงดันมีปัญหาบทโดนตัดจบจากระเบิด กลายเป็นลูกน้องสาวชื่อไรจำไม่ได้มาสวมบทสู้แทน

จริงๆภาคนี้แยกเป็น2ภาคแบบภาคชิชิโอยังได้ แต่รวมๆก็โอเคดูจบเพลินๆกับภาพซาโนะโดนกระทีบอย่างหมาติดตาผมเลย หมดกันตัวโปรดผม

ส่วนตัวอย่างที่เคยพูดไป ภาคนี้สำหรับผมมันคือภาคที่แสดงบาดแผลทางจิตใจที่เคนชินได้รับจากการเป็นบัตโตไซ ในความคิดผมหนังทำจุดนี้แทบไม่ได้เลย ผมเลยรู้สึกผิดหวังแต่ก็พอเข้าใจว่าเวลามีน้อยตัวละครเยอะ แต่ก็น่าจะหยิบจุดที่สำคัญๆมามากกว่านี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดในภาคนี้มันไม่ใช่การต่อสู้ แต่มันคือการที่สุดท้ายเคนชินก็ให้อภัยตัวเองได้และสามารถMove on ออกจากชื่อบัตโตไซได้ซะที จริงๆจะบอกว่าให้อภัยตัวเองก็ไม่ถูก

เอาตรงๆผมก็ผิดหวังนะภาคนี้ หวังไว้เยอะมาก

แต่เล่าเรื่องค่อนข้างเอื่อย ปมโทโมเอะเข้าใจว่าถ้าเล่าคงไม่หมด เลยเก็บไว้เล่าใน The Beginning

แต่ผมว่าจบแบบนี้มันดูไม่อลังเลยอะ ผมว่าสู้ทำเป็นต่อกันสองภาค แล้วปูบทให้โทโมเอะเต็มๆไปเลยภาคแรกจะดีกว่า พอมาภาคสองคนจะได้อินๆหน่อย อันนี้เล่าจบไปละ ละค่อยไปเล่าเสริมซะงั้น

ส่วนพวกลูกกระจ๊อกระดับหัวแถวนี่ไม่เคยหวังเลย จุปปงกาตานะนี่ก็มีแค่โจที่บทดูจะเด่นๆ นอกนั้นบทพูดมีป่าวจำไม่ได้แหละ

ส่วนเอนิชิจริงๆก็อยากให้ปูบทตอนไปจีนหน่อยว่าพอพี่สาวตายแล้วลำบากลำบนขนาดไหน จะได้เพิ่มความอินว่าเออมาล้างแค้นแบบยอมลำบากจริงๆ อันนี้แค่บอกว่าไต่เต้าขึ้นมาเองไม่ได้เห็นแฟลชแบ็คอะไรเลย