Top Comment [RE: ทำไมทหารญี่ปุ่นในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ถึงโหดร้ายครับ]
สมัยก่อน ญี่ปุ่นเองต้องการจะจบสงครามในจีนเร็วๆ ไม่ได้ต้องการจะพิชิตจีนแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด กะไว้แค่ว่าจีนเสียหายไปมากๆเดี๋ยวจีนก็ต้องยอมเจรจา
แต่ทางจีนไม่ยอมเจรจา ยื้อสู้ไปเรื่อยๆ ญี่ปุ่นพยายามส่งสัญญาณให้จีนมาเจรจาแต่จีนไม่สนใจตลอด
ญี่ปุ่นจึงต้องส่งกองทัพเข้าไปจัดการจีนให้มากขึ้นเพื่อเร่งให้จีนยอมแพ้ แต่จีนก็ยังไม่ยอม ถอยหนีเข้าไปลึกในแผ่นดินและต่อต้านตลอด
ญี่ปุ่นเจอแบบนี้ก็มีแต่ต้องส่งกำลังเข้าไปมากขึ้นเพื่อบีบจีนให้ยอมแพ้ แต่ก็กลายเป็นไปติดหล่ม บุกต่อก็ไม่ไหว ถอนตัวก็ไม่ได้
เพราะว่าญี่ปุ่นจบเกมที่จีนไม่ได้ จึงจำเป็นต้องเปิดศึกเพิ่มครับ เพื่อหาทรัพยากรมาป้อนเพิ่มขึ้น จะได้มีทรัพยากรไปถล่มจีนให้มันจบๆไป
เป็นการสร้างสงครามใหม่เพื่อเลี้ยงสงคราม เพราะลำพังญี่ปุ่นเองทรัพยากรมีไม่มากพอที่จะพิชิตจีนได้แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
จึงเที่ยวไปทำสงครามใหม่ไล่ยึดดินแดนอื่นๆเพื่อดูดทรัพยากรมาสู่ญี่ปุ่น ญี่ปุ่นจะได้มีทรัพยากรใช้สอยและผลิตกองทัพไปพิชิตจีนให้เรียบร้อย
ซึ่งการจะมายึดดินแดนอื่นๆก็เท่ากับว่าต้องเป็นภาคบังคับที่จะต้องเปิดศึกกับอเมริกา อังกฤษซึ่งเป็นเจ้าอาณานิคม
จึงชิงเล่นงานอเมริกาไปก่อนเพื่อถ่วงเวลาไปยึดดินแดน แต่กระนั้นทรัพยากรที่ได้มาก็ยังไม่ค่อยจะพอ ญี่ปุ่นต้องทำสงครามต่อเนื่องไปเรื่อยๆ
จากฟิลิปปินส์ไปอินโดจีน ไปมลายู ไปอินโดนีเซีย ไปพม่า ไปอินเดีย ไม่มีที่สิ้นสุด ที่จีนเองก็ไม่มีอะไรคืบหน้า
กลายเป็นจากการติดหล่มแค่ในจีน กลายเป็นไปติดแหง็กอยู่ตามที่ต่างๆโดยไม่ค่อยมีผลตอบแทนอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
และยังเป็นการกระจายสรรพกำลังออกไป ยิ่งทำให้การจัดการสะสางสงครามในจีนยากขึ้น เพราะยากที่จะรวมกำลังกลับมาถล่มจีนเต็มกำลังได้
https://m.pantip.com/topic/31375787?
หลังจากที่กองทัพญี่ปุ่นบุกนานกิง
เหตุการณ์ประวัติศาสตร์:โศกนาฎกรรมสังหารหมู่ที่นานกิง NanJing Massacre(จีน: 南京大屠殺) หรือรู้จักกันในนาม “การข่มขืนที่นานกิง” เป็นเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นหลังจากการที่ทหารกองทัพจักพรรดิญี่ปุ่นเข้าบุกยึดเมืองนานกิง ไว้ได้ในวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2480 ในยุทธการนานกิง เป็นส่วนหนึ่งในสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่สอง และต่อมาคือส่วนหนึ่งของสงครามโลกครั้งที่สอง
ทหารกองทัพจักรพรรดิญี่ปุ่นได้ทำการทารุณกรรมแก่เชลยสงคราม สังหารพลเรือน โดยการทารุณกรรมต่างๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ “การข่มขืน” ผู้หญิงพลเรือนจำนวน 20,000 – 80,000 คน ซึ่งเป็นที่โด่งดังไปทั่วโลก
หลังจากที่กองทัพญี่ปุ่นบุกเข้านานกิงได้เรียบร้อยแล้ว ก็ทำการเข้าปลดอาวุธทหารจีนที่ยอมแพ้และยอมตกเป็นเชลย โดยมีคำสั่งต่อทหารญี่ปุ่นว่าให้กำจัดคนจีนและเชลยทุกคนที่จับได้ และจากที่ประชุมตกลงว่า จะทำการแบ่งเชลยออกเป็นจำนวนเท่าๆกัน และจะถูกนำออกมาจากที่คุมขังเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 50 คน เพื่อนำไปประหาร ใช้ทหารกองร้อยที่ 1, 2 และ 5 โดยกองร้อยที่ 1ใช้พื้นที่บริเวณนาข้าว และบริเวณพื้นที่ลุ่มทางตะวันตกเฉียงใต้ของกองร้อยที่ 2 และกองร้อยที่ 5 ใช้พื้นที่บริเวณนาข้าวทางตะวันออกเฉียงใต้ของที่ตั้งกอง
การดำเนินการกับเชลยศึกจีน
6 สิงหาคม ค.ศ. 1937 เนื่องจากกองทัพญีปุ่นไม่สามารถหาอาหารมาให้แก่เชลยศึกอย่างเพียงพอได้ จึงคิดทำการสังหารเชลยศึกเสีย แต่กฎหมายระหว่างประเทศในขณะนั้นได้ให้การคุ้มครองแก่เชลยศึกอยู่ จักรพรรดิฮิโรฮิโต จึงได้มีรับสั่งแก่ทหารทุกนายให้ยกเลิกการใช้คำว่า เชลยศึก กับชาวจีนที่ถูกจับได้ และนำเชลยศึกเหล่านั้นไปทำการสังหารที่บริเวณแม่น้ำแยงซี การสังหารเชลยศึกส่วนใหญ่เกิดขึ้นในวันที่ 18 ธันวาคม (ซึ่งถูกเรียกว่า String Gorge Massacre) ทหารญี่ปุ่นใช้เวลาในช่วงเช้าเพื่อมัดเชลยศึกเหล่านั้นเข้าด้วยกันเป็นจำนวน หลายแถว และเปิดฉากยิงใส่ด้วย ปืนกล เชลยศึกที่ถูกมัดอยู่ไม่สามารถหนีได้ ทำได้เพียงกรีดร้องเท่านั้น เชลยศึกราว 57,500 คนถูกสังหาร
เชลยศึกบางส่วน ถูกทหารญี่ปุ่นมัดเข้าด้วยกัน และให้เชลยศึกเหล่านั้นเหยียบ กับระเบิด เพื่อสังหารหมู่ บ้างก็มัดเชลยเหล่านั้นเข้าด้วยกันแล้วจุดไฟเผา
หลังสงคราม
แม้ว่าสงครามโลกครั้งที่สองได้จบลงไปแล้วด้วยความพ่ายแพ้ของจักรวรรดิ ญี่ปุ่น จากการกระทำสังการหมู่ชาวจีนในนานกิงนั้นทำให้ความสัมพันธ์ระหว่าง จีน-ญี่ปุ่นตกต่ำอย่างถาวรที่ไม่อาจฟื้นฟูขึ้นมาได้เลย เพราะชาวจีนได้โกรธแค้นญี่ปุ่นเป็นอย่างมากจึงได้ทำการต่อต้านญี่ปุ่นตลอดมา จนถึงปัจจุบัน ถึงแม้ญี่ปุ่นจะเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจและรักสันติสุขก็ตามหรือแม้ แต่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นหรือจักรพรรดิญี่ปุ่นมากล่าวขอโทษด้วยตนเองก็ไม่อาจ ทำให้ชาวจีนยกโทษเลย ในเนื้อหาหลักสูตรวิชาประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นก็ยังทำการบิดเบือนด้วยการ ข้ามกระทำอันโหดร้ายในนานกิงและบอกว่า เพียงแค่ยึดนานกิงเท่านั้น ทำให้ชาวจีนไม่พอใจและไม่ไว้ใจต่อญี่ปุ่นมาก
https://www.scholarship.in.th/มองมุมกลับ-ความโหดร้าย/