ถามชาว ss ที่เป็นสถาปนิก คิดว่าอาชีพนี้จะทำให้รวยได้มั๊ยครับ ผมรู้สึกเหนื่อย หมดไฟมาก มองอนาคตอาชีพนี้ไม่ออกเลย เพราะต้องพึ่งแรงงานคนสูง

จะทำงานออฟฟิศงานก็กินแรงกินเวลามาก โอทีไม่มี งานก็เร่ง ความรับผิดชอบสูง เขียนแบบผิดพลาดไปถ้าไม่ละเอียด หน้างานโคตรมีปัญหาเลย เงินเดือนต่ำถ้าเทียบกับแรงงาน ความรับผิดชอบ

จะเปิดออฟฟิศเองก็เข้าใจว่าลำบาก เงินเก็บได้บ้างไม่ได้บ้าง กว่าจะได้เงินหมุนมาจ่ายลูกน้องแต่ละเดือน งานก็ตามแรงงาน คืองานเยอะก็ต้องใช้แรงงานคนเยอะ สุดท้ายกำไรอาจไม่เยอะตามก็ได้ leverage ไม่ได้ ปั้นคนเก่งมา สุดท้ายเค้าก็อยากออกไปเปิดออฟฟิศเองอีก

ถ้าจะให้รวยต้องทำรับเหมาด้วย แต่ก็นั้นแหละ ปวดหัวกับคนงาน ไหนจะคนจ้างอีก

บ่นเยอะไปหน่อย 555 เพื่อนๆคิดไงมั้งครับ

เคยเห็นเพื่อนสถาปนิกตอนเรียน รู้สึกเหนื่อย ไม่ได้นอนน้องๆ เพื่อนที่เรียนหมอเลย
แต่เหมือนค่าตอบแทนตอนจบ จะต่างกันพอสมควรเลย(เข้าใจว่าหมอมีค่าขึ้นเวรนู่นนี้ด้วย)
รู้สึกรายได้ไม่คุ้มความเหนื่อยเลย

มี อีก 1 สถา ที่รวยกว่า สถาปนิกครับ

สถาปนุก

ตอนนี้ผมทำเป็นงานอดิเรก​ ไม่ใช่งานหลักแล้ว

ผมไม่รวย

ผมทำงานวิศวกรโยธาครับ

ที่ผมเจอและค่อนข้างเหนื่อยคือเรื่องคุมคนงานมากกว่า

แล้วผมค่อนข้างกลัวเรื่องการวาง schedule นี่แหละ คือไม่รู้ว่าคนงานมันจะเอาไง แผนที่เราวางมันจะทำได้ไหมหรือเลทเยอะไหม

อะไรแนวๆนี้ครับ

สถาบัน

จริง แล้วคนรอบตัวผมบางคน อยากมาให้ออกแบบให้แบบถูกๆ ประมาณว่า ไม่ได้อยากจ่ายค่าแบบ

แล้วคิดว่าไม่มีอะไรแบบ ช่วยทำให้หน่อย เหมือนคิดว่างานมันไม่มีอะไร ปสด มาก

เสริม แล้วคนนอก มักจะมองว่า สถาปนิกรวยด้วยนะ แบบ คิดค่าแบบก็แพง แต่พวกคุณพี่ทั้งหลายไม่ได้คิด
ิ้ื่
ว่าค่าแบบทั้งหมด ต้องไปหารจำนวนเดือนนะ ไหนยังรายจ่ายอื่นๆ ถ้าเป็นเจ้าของ ก็ค่าพนักงาน และอื่นๆ

ถ้าเป็นฟรีแลนซ์ ก็outsourceเยอะแยะ

ถ้าสายงานออกแบบ ค่าออกแบบจะเรียกได้สูง ก็ต่อเมื่อเรามีชื่อเสียง
เช่น ผลงานได้ลงนิตยาสาร เว็บ official ต่างๆ หรือมีชื่อเสียงจากการชนะการประกวดแบบ
ถ้าเป็นพนักงานบริษัท บอกเลยว่า ฐานเงินเดือนไม่สูง สวนทางกับการเรียนหนัก แต่ตำแหน่งสูงๆ ระดับ Director ก็ตามมาตรฐาน
สายงานราชการ บ้านเราก็มีตำแหน่งน้อยมากที่เปิดรับ สำหรับวุฒิการศึกษาของสถาปนิก
แต่ถ้าอยากย้ายประเทศ เป็นวิชาชีพที่สามารถหางานได้ไม่ยากนักทั่วโลก ถ้าเทียบกับสายอาชีพอื่นๆ รายละเอียดต้องลองไปดูเพิ่มเติมครับ

พอดีผมเห็น จขกท หมดไฟ เลยลองแนะนำทางเลือก ความรู้ที่คุณมีไม่สูญเปล่าด้วย

ลองมองงาน ที่นอกเหนือจากสายสถาปนิก แต่รับคนที่เรียนจบด้านสถาปัตย์ อย่างประเมินราคาทรัพย์สิน

เรื่องรายได้ อาจจะมากกว่าหรือน้อยกว่าสถาปนิก ขึ้นอยู่กับเนื้องาน แต่ตัวงาน จะมีความวาไรตี้มากกว่า

อีกทางเลือกที่ผมจะแนะนำ คือเรียนต่อ ป โท แล้วไปทำงานสาย Developer

เก็บเกี่ยวความรู้ด้านการบริหาร การเงิน การจัดการโครงการ

ไม่แน่ใจว่ารวยไหม แต่เพื่อนผม มันก็ดูมีความสุขดีนะครับ แต่มันเป็น freelance อ่ะ

ทำกับแฟนมันสองคน ไม่ได้จดเป็นบริษัทด้วย มีรับงานตลอดนะ คอนโด ออฟฟิซ บ้าน ร้านอาหาร ร้านกาแฟ

สไตล์มันออกแนวติสๆ เซอร์ๆ อินดี้ ไม่เน้นแบรนด์เนม เลยไม่รู้ว่ารวยไหม ฮ่าๆๆ

ล่าสุดผมให้มันช่วยออกแบบบาร์ค๊อกเทล โยนเงินให้มันก้อนนึง ประมาณ 800K บอกว่ารวมก่อสร้างด้วย มันก็โอเคร

แต่มันบอกว่าช้านนิดนึงนะ มีงานรอส่งอยู่ในมือ 3 งาน ก็แสดงว่ารายได้ดีระดับนึงเลยนะครับ


อ้อ ลืมบอกว่ามันสร้างร้านกาแฟขึ้นมาเอง ไม่เน้นขาย เน้นเอานั่งเป็นออฟฟิซมันเอง แถวดอนเมือง ฮ่าๆ โคตรอินดี้


ปล. บาร์ที่ผมให้มันออกแบบให้ บอกมันว่าขอธีม Steampunk ไป ไม่รู้ว่าจะออกมาเเนวไหนเหมือนกันนะครับ

ไม่รวย แต่ก็ไม่ลำบากครับ มีเงินเหลือเก็บบ้าง

รู้สึกสนุกทุกครั้งเวลาเจอลูกค้าใหม่ๆ

รู้สึกเหมือนหลอนทุกครั้งที่ลูกค้าพาคนมาด้วยแล้วแนะนำว่านี่คือซินแส

ผมเป็นสถาปนิกแต่เป็นสายหน้างานนะครับ ผมขอแชร์จากประสบการณ์ผมละกัน

ผมว่าสายงานเราคอนเนคชั่นและประสบการณ์(หูตาไว+ได้เห็นแบบเห็นดีเทลจริงเยอะๆ)เป็นสิ่งสำคัญ

พูดในฝั่งฝีมือระดับทั่วไปที่ไม่ใช่ท๊อปรุ่นหรือบ้านมีกิจการทางนี้นะครับ

ฝั่งของเพื่อนๆผมที่ทำสายออกแบบ ก็เหมือนท่านแหละครับงานหนักเงินน้อย

ส่วนนึงเลือกที่จะทำแต่งานประจำ แต่อีกส่วนนึงรับงานนอกควบคู่ไปด้วยช่วงแรกๆก็จับมือทำด้วยกันเงินก็น้อยตามประสบการณ์แหละครับ

ผมเลือกเดินสายหน้างาน แลกมาด้วยงานที่ต้องทำตั้งแต่7.30-20.00 6วันต่อ1สัปดาห์ ไม่มีหยุดนักขัตฤกษ์ ทั้งปีหยุดแค่สงกรานต์กับปีใหม่

จุดเปลี่ยนคือช่วง28-30ครับ เพื่อนๆที่ทำงานประจำคู่กับรับงานนอกเริ่มมีคอนเนคชั่นเยอะขึ้น ส่วนนึงเริ่มทยอยออกมารับแต่งานนอกแต่ก็ยังคงรับงานด้วยกันและโยนงานกันไปมา

ส่วนตัวผมลาออกไปเรียนต่อ2ปีทางด้านจัดการการก่อสร้างในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน

ปัจจุบันพวกเพื่อนๆที่ทำด้วยกันเริ่มขยับขยายแยกกันรับงานจากที่ทำด้วยกันแบ่งเท่ากันเริ่มเป็นดึงเด็กๆเข้ามาช่วย เงินที่ได้ต่องานก็เพิ่มขึ้น

ผมถนัดเรื่องดีเทลหน้างานก็เริ่มมีงานเคลียแบบขออนุญาติจากเพื่อนๆโยนเข้ามา

ตอนนี้ผมกำลังไล่สมัครงานสายPMเพื่อให้ปริมาณงานประจำไม่ล้นเกินไปจะได้รับงานจากเพื่อนๆต่อได้ด้วย

ในมุมผมมองว่าสายงานเราถ้าอยากรายได้ดีๆ ต้องช่วยๆกันครับเก็บประสบการณ์+โยนงานให้กันถ้าไม่ไหวเพื่อให้คอนเนคชั่นไม่ขาด

ไปคนเดียวรวยยากครับการแข่งขันมันสูงมาก เฮดดีไซน์ 1 โปรเจคถ้าไม่ใหญ่มากก็มีได้แค่คนเดียว กับเพื่อนร่วมอาชีพที่จบปีเดียวกันเป็นหลายพันถึงหมื่นคน

สู้ๆครับ

ถ้าทำเองไม่ได้ทำออฟฟิต มีสายป่านดี conection ดี ก็รายได้ดีเลยละครับ งานมาไม่ขาด

ถ้าเป็นมนุษย์เงินเดือนก็รวยยากหน่อย สภาพแทบไม่ต่างจากวิศวกรโยธาเลย งานหนักเงินน้อย มีคนล้นเกินไปเลยถูกกดค่าแรงไปโดยปริยาย

เล่าให้เผื่อเป็นแรงบันดาลใจขึ้นบ้างละกัน