The Awesome พิมพ์ว่า:
Zeta พิมพ์ว่า:
The Awesome พิมพ์ว่า:
ผมเคยชนครั้งนึง รถเป็นหนักกว่านี้อีก
ไม่มีอารมณ์มาสนใจหรอกว่าหมาจะเป็นหรือตาย เฟลที่รถพังมากกว่า
เวลาคนรวยๆ ทำอะไรไม่เห็นหัวคนอื่น สนใจแต่เรื่องตัวเอง
ก็คงประมาณนี้สินะ
มันก็ต้องสนใจตัวเองแหละ พอเกิดเหตุก็ไม่มีใครมาสนใจผมนี่
รถผมพัง จอดซ่อมเป็นเดือนก็ไม่มีใครมาสนใจว่าผมจะไปไหนมาไหนยังไง ไปทำงานยังไง เอารถที่ไหนใช้
ผมไม่ได้บอกว่าท่านผิด ผมแค่สะท้อนหลักในการคิดแบบนึงของคนในสังคม
สมมติ คนรวยๆ ขับรถชนเด็กที่เดินตัดหน้า เสียเวลาพลาดการประชุมเงินร้อยล้าน
แล้วก็แสดงออกแบบท่าน ไม่แน่ใจว่าจะมองเรื่องนี้แบบไหนกัน
กลับกัน สมมติเหตุการณ์เดียวกันเป๊ะ กับที่ท่านเจอ ท่านรู้สึกว่าเป็นคราวซวย
จะโกรธหมาก็โกรธไปตอนนั้น มันช่วยอะไรไม่ได้ แต่ลึกๆท่านก็เสียใจกับการตายหรือการเจ็บของมัน และขออโหสิกรรมตอนหลัง
มันก็จะกลายเป็นแค่เหตุการณ์ๆนึงในชีวิต ผลเหมือนกันไม่ต่างกัน อาจจะได้บทเรียนเพิ่มเติมมา แต่ท่านก็ไม่ได้เพิ่มอคติในชีวิตมา ผูกใจเจ็บถึงตอนนี้อีกหนึ่งเรื่อง
เพราะถึงวันนึง ถ้าใช้อคติแบบนี้กับทุกเหตุการณ์ที่เข้ามา เช่นเรื่องของตัวท่าน คือไม่มีใครรู้เบื้องหลังท่านว่าเจออะไรบ้าง ท่านเองก็ไม่รู้เบื้องหลังของคนนั้นว่าเจออะไรมา มันก็กลายเป็นความขัดแย้งในสังคมขึ้น
คนเราสามารถรู้สึกหลายอย่างได้ในเวลาเดียวกันครับ ไม่จำเป็นต้อง ขาวหรือดำ