ฮุมเมิลส์ OG! "อินทรี" เปิดหัวฝืดจัดโดน "ตราไก่" เฉือน 1-0
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
บิ๊กแมทซ์นัดแรกของกรุ๊ปออฟเดธในศึกยูโร 2020 เยอรมัน ลงเล่นใน อัลลิอันซ์ อารีนา บ้านตัวเองโดนแชมป์โลกอย่าง ฝรั่งเศส เฉือนชนะ 1-0 จากการทำเข้าประตูของ มัตส์ ฮุมเมิลส์ ในช่วงครึ่งแรก ทำให้พวกเขาประเดิมด้วยการลงไปรั้งอยู่อันดับ 3 ของกลุ่ม ส่วน ฝรั่งเศส ก็ขึ้นเป็นรองจ่าฝูงเป็นรอง โปรตุเกส แค่ประตูได้เสีย
ฝรั่งเศส
Starting Formation: 4-3-1-2
14.
อาเดรียง ราบิโอต์

90+4'
7
19.
คาริม เบนเซม่า

89'
6.5
ตัวสำรอง
11.
อุสมาน เด็มเบเล่

90+4'
-
12.
โกร็องแต็ง โตลิสโซ่

89'
-
ฟุตบอลยูโร 2020 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอฟ
สนาม อัลลิอันซ์ อารีนา
อังคารที่ 15 มิถุนายน 2564
กรรมการ คาร์ลอส เดล เซร์โร่
ฝรั่งเศส
1
0
เยอรมนี
1-0 มัตส์ ฮุมเมิลส์ 20' (Og.)

บิ๊กแมทซ์ประจำรายการจากกรุ๊ปออฟเดธ ทีมแชมป์โลกจาก 2 ครั้งหลังสุด ฝรั่งเศส และ เยอรมัน จะได้โคจรมาเจอกันเองโดยแข่งขันกันที่ อัลลิอันซ์ อารีนา ในบ้านของ เยอรมัน
ฝรั่งเศส จะได้ คาริม เบนเซม่า ที่เจ็บในเกมล่าสุดก็กลับมาลงสนามเป็นตัวจริงในแดนหน้าคู่กับ คิลิยัน เอ็มบาปเป้ โดยมี อองตวน กรีซมันน์ ทำเกมอยู่ด้านหลังในแผน 4-3-1-2 แดนกลางจะเป็น 3 ตัวหลักอย่าง เอ็นโกโล่ ก็องเต้, ปอล ป็อกบา และ อาเดรียง ราบิโอต์ ส่วนแนวรับ อูโก้ ญอริส ลงเฝ้าเสาโดยมี เบนจามิน ปาวาร์, เพรสเนล คิมเพมเบ้, ราฟาเอล วาราน และ ลูคัส เอร์นานเดซ ทำหน้าที่แผงหลัง
ฝั่ง เยอรมัน วันนี้จะไม่มีตัวสำรองอย่าง โยนาส โฮฟมันน์ ที่ยังมีอาการบาดเจ็บรบกวน รวมถึงหลักอย่าง เลออน โกเร็ตซ์ก้า แผนการเล่นน่าจะมาในรูปแบบ 3-4-2-1 เหมือนเดิมโดยมี มานูเอล นอยเออร์ กัปตันทีมเป็นผู้รักษาประตู กองหลัง 3 คนเป็น มัทธิอัส กินเทอร์, มัตส์ ฮุมเมิลส์ และ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ แดนกลางจะเป็น อิลกาย กุนโดกัน จับคู่กับ โทนี่ โครส โดนมีแบ็คสองข้างเป็น โยชัว คิมมิช คู่กับ โรบิน โกเซนส์ แนวรุก 3 คนจะเป็น ไค ฮาแวร์ตซ์ และ โธมัส มุลเลอร์ โดยน่าจะใช้ แซร์จ กนาบรี้ ยืนเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า
ฮุมเมิลส์ ได้โขกทักทายก่อนบอลหลุดกรอบ
เริ่มเกมมาเป็นฝั่ง เยอรมัน ครองเกมบุกแล้วมาได้ลุ้นก่อนจากฟรีคิกนอกกรอบฝั่งขวาแล้วเป็น โครส ที่เปิดเข้ามาให้ ฮุมเมิลส์ ได้ขึ้นโขกกลางประตูแต่บอลเหินข้ามคานออกไป
ป็อกบา ได้โขกบ้างบอลข้ามคานนิดเดียว
โอกาสลุ้นครั้งแรกในเกมของทาง ฝรั่งเศส จากเตะมุมฝั่งขวา กรีซมันน์ เปิดเข้ามาให้ ป็อกบา ได้เทคตัวขึ้นโขกกลางประตูบอลเหินข้ามคานออกไปนิดเดียวถือว่าเป็นจังหวะที่ได้ลุ้น
เอ็มบาปเป้ ได้ซัดบ้าง นอยเออร์ ต้องออกแรงเซฟ
เป็นฝั่ง ฝรั่งเศส ได้ลุ้นต่อเนื่องจากจังหวะสวนกลับ กรีซมันน์ ตรงกลางแทงบอลให้ เอ็มบาปเป้ ทางฝั่งซ้ายได้หาจังหวะแตะแล้วกดด้วยขวาเต็มๆแบบพุ่งเข้าตรงกลาง นอยเออร์ ต้องล้มตัวปัดออกมา
ฮุมเมิลส์ ซัดตุงตัวเอง! ตราไก่ นำจนได้ 1-0
ฝรั่งเศส มาได้ประตูขึ้นนำจนได้เริ่มจากจังหวะที่ ป็อกบา ทางฝั่งขวาโยนบอลเข้ามาให้ เอร์นานเดซ ที่เติมมาถึงในกรอบฝั่งซ้ายก่อนจะเจ้าตัวจะตบบอลเข้ากลางแล้วเป็น ฮุมเมิลส์ ที่หันหน้าให้กลางประตูจะสกัดบอลแต่ผิดเหลี่ยมโดนหน้าแข้งตัวเองตุงตาข่ายเต็มๆ
มุลเลอร์ ได้โขกเสยบอลหลุดเสาไปนิดเดียว
เยอรมัน เกือบทวงคืนได้ทันควันจากจังหวะนี้ที่ โกเซนส์ พาบอลขึ้นมาทางซ้ายแล้วครอสเข้ามาให้ มุลเลอร์ ได้โขกเสยกลางประตูแต่บอลล้นหลุดเสาขวาออกไปนิดเดียว
โครส ได้ปั่นฟรีคิกสองหนติดแต่บอลยังไม่เข้าเป้า
โครส มีจังหวะได้ซัดฟรีคิกนอกกรอบกตรงกลางระยะได้ลุ้นสองครั้งติดๆกัน ครั้งแรกซัดไปติดกำแพงส่วนอีกครั้งอยู่หลุดข้ามคานออกไป
กุนโดกัน ได้วิ่งมาซัดกลางประตูบอลหลุดกรอบ
จากจังหวะที่ โกเซนส์ พาบอลขึ้นมาทางซ้ายแล้วเปิดแฉลบมาถึง กนาบรี้ หน้าเสาดีดต่อมาให้ กุนโดกัน กลางประตูได้วิ่งมาซัดด้วยขวาแต่โดนไม่ค่อยดีบอลแป๊กหลุดเสาขวาออกไป
จบครึ่งแรก ฝรั่งเศส ขึ่นนำไปก่อน 1-0
ครึ่งแรกเป็นฝั่ง เยอรมัน ครองบอลบุกได้เยอะและมีโอกาสเข้าทำมากกว่าเกือบตลอดแต่ ฝรั่งเศส ยังถือว่าทำได้ดีกว่าในจังหวะบุกสวนก่อนจะได้ประตูโอนโกลของ ฮุมเมิลส์ ทำให้พวกเขาขึ้นนำไปก่อนและเป็นประตูเดียวในช่วงครึ่งแรก
ราบิโอต์ หลุดไปซัดบอลชนเสาเต็มๆ!
ครึ่งหลัง ฝรั่งเศส เกือบมาได้ประตูนำห่างอีกลูกจากจังหวะที่ เอ็มบาปเป้ เก็บบอลได้ตรงกลางก่อนจะแทงให้ ราบิโอต์ หลุดเข้าไปทางฝั่งซ้ายก่อนจะลากเข้าไปถึงหน้าเสาแรกแล้วจังหวะสุดท้ายมีกองหลังมาเบียดแต่ยังได้จบด้วยซ้ายบอลพุ่งไปชนเสาเต็มๆ
กนาบรี้ ได้หวดกลางประตูบอลเฉียดคานนิดเดียว!
โอกาสทองเกือบตีเสมอของ เยอรมัน โกเซนส์ พาบอลขึ้นมาทางซ้ายแล้วครอสเข้ามาให้ กนาบรี้ กลางประตูได้หวดด้วยขวาแบบไม่จับบอลพุ่งเฉี่ยวคานออกไปนิดเดียวถือว่าได้ลุ้น
เอ็มบาปเป้ หลอกยิงอย่างสวยแต่ผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้า
จังหวะนี้ เอ็มบาปเป้ ได้บอลทางซ้ายก่อนจะลากมาเข้ากรอบแล้วหาจังหวะล็อคหลอกก่อนจะซัดด้วยขวากลางประตูบอลเบียดเสาขวาเข้าไปอย่างสวยแต่ผู้ตัดสินริมเส้นยกธงเป็นลูกล้ำหน้า
เยอรมัน ขยับเปลี่ยน 2 ตัวส่ง แวร์เนอร์ กับ ซาเน่ ลงสนาม
เยอรมัน ขยับตัวเปลี่ยนเกมส่ง 2 ตัวรุกอย่าง แวร์เนอร์ กับ ซาเน่ ลงมาตามตำแหน่งแทน กนาบรี้ และ ฮาแวร์ตซ์ นอกจากนั้น กินเทอร์ ดูเหมือนจะมีอาการเจ็บแต่ยังเล่นต่อไปได้
เอ็มบาปเป้ กระชากเกือบหลุกแต่ ฮุมเมิลส์ ยังตามไปสกัดทัน
จังหวะนี้เกือบสร้างเสียงฮือฮาหลังจาก เอ็มบาปเป้ สปีดวิ่งแซง ฮุมเมิลส์ เกือบช่วงตัวกระชากหลุดเข้าไปถึงในกรอบแต่จังหวะสุดท้าย ฮุมเมิลส์ ยังแก้หน้าด้วยกันวิ่งไปตามเสียบสกัดในกรอบได้ทัน
เบนเซม่า จิ้มหายแต่ VAR ให้เป็นลูกล้ำหน้า
ฝรั่งเศส เกือบได้ประตูปิดเกมจากจังหวะสวนกลับ เอ็มบาปเป้ หลุดมาเปิดให้ เบนเซม่า จิ้มเข้าไปโล่งๆกลางประตูแต่ VAR ย้อนมาเช็คว่าล้ำหน้าไปตั้งแต่แรกแล้ว
ซาเน่ ลองส่องฟรีคิกเองบอลข้ามคาน
จังหวะนี้ เยอรมัน ได้ฟรีคิกหน้ากรอบเยื้องฝั่งขวาระยะได้ลุ้นแล้วเป็น ซาเน่ อาสาลองปั่นด้วยซ้ายบอลโค้งหลุดข้ามคานออกไปไม่ได้ลุ้น
จบเกม ฝรั่งเศส เฉือนชนะ เยอรมัน 1-0 ขึ้นเป็นรองจ่าฝูง
เยอรมัน ลงเล่นใน อัลลิอันซ์ อารีนา บ้านตัวเองโดนแชมป์โลกอย่าง ฝรั่งเศส บุกมาเฉือนชนะ 1-0 จากการทำเข้าประตูของ มัตส์ ฮุมเมิลส์ ในช่วงครึ่งแรก ทำให้พวกเขาประเดิมด้วยการลงไปรั้งอยู่อันดับ 3 ของกลุ่ม ส่วน ฝรั่งเศส ก็ขึ้นเป็นรองจ่าฝูงเป็นรอง โปรตุเกส แค่ประตูได้เสีย
เยอรมนี
Starting Formation: 3-4-1-2
4.
มัทธิอัส กินเทอร์

87'
6.5
20.
โรบิน โกเซนส์

87'
7
7.
ไค ฮาแวร์ตซ์

74'
6.5
10.
แซร์จ กนาบรี้

74'
6
ตัวสำรอง
9.
เควิน โฟลลันด์

87'
-
11.
ติโม แวร์เนอร์

74'
6
19.
เลรอย ซาเน่

74'
6
23.
เอ็มเร่ ชาน

87'
-
แก้ไขล่าสุดโดย Salinger เมื่อ Wed Jun 16, 2021 04:15, ทั้งหมด 18 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ