วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เข็ม 2 ทำไมต้องห่าง 16 สัปดาห์ หมอยงแจง



“หมอยง” ชี้แจง เว้นระยะห่างฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เข็ม 1-2 นาน 16 สัปดาห์ กระตุ้นภูมิต้านทานได้ดีกว่า

วันที่ 9 มิถุนายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่หลายฝ่าย โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเว้นระยะห่างของการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 “แอสตร้าเซนเนก้า” เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 ว่าทำไมถึงกำหนดระยะห่างนานถึง 16 สัปดาห์ หรือ 4 เดือน

ล่าสุด ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรรณ หรือ หมอยง หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว ระบุว่า

จากการศึกษาในการวิจัยทางคลินิก เดิมระยะห่างการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าอยู่ที่ 4 สัปดาห์ เมื่อทำการศึกษาระยะที่ 3 ผู้ที่ได้รับวัคซีน 2 ครั้ง ห่างกันมากกว่า 6 สัปดาห์ ถึง 12 สัปดาห์ ได้ผลภูมิต้านทาน และประสิทธิภาพดีกว่าผู้ที่ได้รับห่างกันน้อยกว่า 6 สัปดาห์


ในการใช้จริงที่ประเทศอังกฤษ ในช่วงที่มีโรคระบาดมาก และวัคซีนไม่เพียงพอ อังกฤษจึงยืดระยะห่างของการให้วัคซีนเข็มที่ 2 ออกไปอีกถึง 16 สัปดาห์ เพื่อให้ประชากรส่วนใหญ่ ได้รับวัคซีนเข็มแรกให้มากที่สุด ไม่ต้องใช้แรงงาน มาพะวงกับการฉีดเข็มที่ 2 จะได้ปูพรมเข็มแรกได้กว้างที่สุดเพื่อระงับการระบาด

ผลการศึกษาในสกอตแลนด์ พบว่าการให้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเพียงเข็มเดียว มีประสิทธิภาพ ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ การให้เข็มที่ 2 จะเพิ่มประสิทธิภาพเป็น 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ เห็นว่าเข็ม 2 เพิ่มประสิทธิภาพก็จริง ถ้าเปรียบเทียบกับการปูพรมเข็มแรกให้มากที่สุด แล้วค่อยเติมเข็ม 2 น่าจะเป็นประโยชน์มากกว่า ในการควบคุมการระบาดของโรค


หลักของวัคซีน การทิ้งระยะห่าง ยิ่งห่างนาน ก็จะกระตุ้นภูมิต้านทานได้ดีกว่า ระดับภูมิต้านทานหลังเข็ม 2 จะสูงกว่า ในการหวังผลให้อยู่นาน ดังนั้น ประเทศไทยอยู่ในช่วงการระบาดขาขึ้น จึงมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ในการควบคุมโรคให้เร็วที่สุด จำเป็นที่จะต้องให้ AZ วัคซีนปูพรมในแนวกว้างให้มากที่สุดก่อน โดยต้องระดมทรัพยากรทั้งหมดรวมทั้งวัคซีน มาใช้ในการให้วัคซีนเข็มแรก ภายใน 16 สัปดาห์ ประชากรส่วนใหญ่ทั้งประเทศก็จะได้วัคซีนอย่างน้อย 1 เข็ม แล้วค่อยไปเติมเข็มที่ 2 ภูมิจะสูงขึ้นและอยู่นาน

การควบคุมการระบาดในประชากรหมู่มาก ทั้งประเทศไทย ในภาวะที่ทรัพยากรที่จำกัด จึงจำเป็นที่จะต้องมีการวางแผน ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในภาพรวม ดังนั้น การกำหนดระยะห่างไปที่ 16 สัปดาห์ จึงเป็นการที่จะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดสำหรับประเทศไทย ในภาพรวม

https://www.prachachat.net/general/news-687121

หมอการเมือง หมอสลิ่ม
เห็นผลประโยชน์พรรคพวกดีกว่าชีวิตคน
ไม่ให้ค่าไปนานแล้วครับ

อ่านเป็นหมอยแจง

นึกว่าจะบอกว่าของมาไม่พอเลยเลื่อนไปนาน​หน่อย​ 555

ไม่อวยซิโนแวคต่อแล้วหรอ หมอย-ง

ของไม่พอไง

555 หน้ามือเป็นหลัง มือตอนแรกอะไรก็ซิโนแวคดีอวยสุดลิ่มทิ่มประตู ตอนนี้ AZ มาไม่เอามาเทียบกันซักหน่อยละครับ

ใจเย็นเด่วของขาด

อ่อๆ แต่ทุกวันนี้แทบจะมีแต่ซิโนแวคที่ฉีดละอ่ะนะ

ทำไมที่ผมรู้มาคือยังไม่มีที่ไหนเค้ารับรองเรื่อง 16 สัปดาห์ ไม่มีแม้แต่ผลวิจัย

ขอยังไม่เชื่อ ลองไปหาข้อมูลมาอ่านก่อน ว่าหมอจะแถหรือผมจะตกขาวเอง

หมอการเมือง หมอสลิ่ม
เห็นผลประโยชน์พรรคพวกดีกว่าชีวิตคน
ไม่ให้ค่าไปนานแล้วครับ

พวกฉีดวันที่ 8-10 มันนัด 12 สัปดาห์เกือบหมดนะ

มีแต่พวก วันที่ 7 ที่นัด 16 สัปดาห์

หรือกำลังทดลองอะไรอีก

นี่ถ้ากล้าออกมายอมรับว่าวัคซีนไม่พอ ขอให้ช่วยๆกัน ยังน่าด่าน้อยกว่านี้

หมอยงแมร่งเป็นคนคิดสูตรวัคซีนรึไงวะ

ข้ออ้าง ของไม่พอนั่นแหละ

เว็บ AZ ของ ตปท มีบอกไว้เองเลยครับ ว่าขั้นต่ำให้เว้น 12 weeks or more

Results demonstrated vaccine efficacy of 76% (CI: 59% to 86%) after a first dose, with protection maintained to the second dose. With an inter-dose interval of 12 weeks or more, vaccine efficacy increased to 82% (CI: 63%, 92%).

ที่น่าห่วงคือถึงเวลาจะมีส่งไหม

คืองี้ครับ ผลการวิจัยที่ออกมารับรองเนี่ย เค้าบอกไว้ว่า
- เข็มสองห่างน้อยกว่า 6 สัปดาห์ กระตุ้นไม่ค่อยดีเมื่อเทียบกับการกระตุ้นที่ห่าง 6-12 สัปดาห์ขึ้นไป

- เอาง่ายๆว่า ถ้าอยากได้ผลดี AZ เข็มสองควรกระตุ้นในช่วง 6-12 สัปดาห์จากเข็มแรก

- ถ้ามากกว่า 12 สัปดาห์ ยังไม่มีข้อมูลชัดเจน ว่าห่างได้ถึงเท่าไรถึงจะดีที่สุด ห่างเท่าไรภูมิจะขึ้นไม่ดี

- ส่วนเลข 16 สัปดาห์ มันไม่ใช่เลขที่เกิดจากการวิจัย แต่เป็นเลขที่เกิดจากการใช้งานจริงที่อังกฤษโดยไม่มีผลวิจัยรับรอง อาจารย์น่าจะเอามาจากที่ทำในอังกฤษช่วงแรกที่วัคซีนขาดนั่นแหละ

สรุป ผมคิดว่า อาจารย์ไม่ได้ยกเลขนี้มาลอยๆ มันมีข้อมูลใช้จริงอยู่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ควรออกมายอมรับหรือบอกไปตรงๆว่ารัฐจัดสรรวัคซีนได้ห่วยแตก จนต้องใช้ตัวเลขที่ไม่มีข้อมูลวิจัยรับรองแต่เป็นตัวเลขที่ใช้จริงในสถานการณ์ขาดแคลนมาใช้แทน

ช่วงนี้ชี้แจงข้อมูลตรงๆประชาชนยังรับได้มากกว่าหมกเม็ดข้อมูลนะครับอาจารย์