เหตุผลการฟ้อง ม.112 ของ เพลง 12345 I love you
typeblock พิมพ์ว่า:
filippenko พิมพ์ว่า:
typeblock พิมพ์ว่า:
RHYS พิมพ์ว่า:
typeblock พิมพ์ว่า:
เอาเรื่องบทความเกี่ยวกับการด่าหยาบคายกับกฏหมายเรื่องหมิ่นประมาทสำหรับบุคคลทั่วไปมาเปรียบเทียบ
https://www.thairath.co.th/news/952403
ถ้าเป็นไปตามนี้ก็คือถูกฟ้องได้
อีกอย่างเรื่องชื่อมันก็ต้องว่าไปตามบริบท ไม่งั้นก็คงฟ้องร้องคนที่ชื่อซ้ำกันไม่ได้เลยสักคน
ท่านเชื่อใน freedom of speech ไม่ใช่เหรอ ทำไมสนับสนุนการใช้ 112 ละครับงง
โทษเต็มที่ก็แค่พาดพิงด่า ตู่ ประยุทธ ว่าแต่ ด่าคนชื่อ โอ ทำไมถึงตีความเข้าข่าย 112 ถ้าศาลสั่งว่าผิด 112 นี่แม่งเป็นการตีความที่เห้มาก
คุณยังเข้าใจตู่เป็นประยุทธได้ แล้วทำไมถึงตีความไม่ได้จากบริบทในที่นี้ว่าโอที่ว่าหมายถึงใคร
ถ้าโอที่ว่าหมายถึงบุคคลในกฏหมาย 112 ทำไมถึงจะบอกว่าผิดไม่ได้
ผมสนับสนุนการใช้ 112?
ผมแค่บอกว่าถ้าบริบทมันสื่อให้รู้ได้ว่าตัวบุคคลที่ถูกกล่าวถึงคือใครก็น่าจะฟ้องได้ตามกฏหมาย
ถ้าจะบอกว่าตีความเกินขอบเขต ที่ผมเห็นมันเป็นเรื่องสุนัข จ้าอะไรพวกนั้น ซึ่งต่อให้ถูกยกฟ้องแต่มันก็เดือดร้อนอยู่ดี
ปัญหามันอยู่ที่ว่าถ้าเป็นเรื่องระหว่างบุคคลทั่วไป ถ้าผิดจริง หลักฐานมีน้ำหนัก มันก็แค่จ่ายเสียหายแล้วก็จบ
โทษมันไม่หนักถึงขั้นประกันตัวไม่ได้ขั้น ต้องมาพยายามพลิกลิ้น หรือบอกว่าตีความแบบนู้นนี่นั่นไม่ได้
และคนทั่วไปก็คงไม่ค่อยฟ้องกันเพราะมันยุ่งยากเสียเวลา
สรุปคือผมไม่ได้มองว่าการฟ้องเป็นปัญหากับ freedom of speech แต่เป็นตัวกฏหมายที่มีปัญหา
ผู้อื่น:กรรมของการกระทำ(ผู้ถูกใส่ความ)
อาจเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล แต่ต้องทำให้เข้าใจได้ว่าหมายถึงใคร
ซึ่งเป็นการเฉพาะเจาะจง แม้บางครั้ง ไม่ได้ระบุชื่อออกมาแต่ทำให้เข้าใจได้ว่าหมายถึงใคร
เช่น หนังสือพิมพ์ลงข่าวว่า มีรัฐมนตรีคนหนึ่งที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตเรื่องยา ทำให้เข้าใจได้ว่า หมายถึง รัฐมนตรีว่าการ หรือช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นต้น
กฏหมายหมิ่นประมาท ต่อให้ไม่ระบุชื่อแต่ถ้าศาลพิจารณาแล้วว่าบุคคลที่สามสามารถรู้ได้ว่าเป็นใคร
โดยเฉพาะเจาะจง ก็เข้าองค์ประกอบ
แต่ถ้าระบุชื่อ แต่บุคคลที่สามไม่สามารถรู้ได้โดยเฉพาะเจาะจงว่าเป็นใคร ก็อาจจะไม่เข้าองค์ประกอบความผิด
: 0 ใบ
: 0 ใบ
My Locker
