สวัสดีครับพี่ ๆ พอดีว่าผมจะมาปรึกษาเกี่ยวกับการตัดสินใจเลือกงานครับ มีทั้ง 2 ที่ครับ

ที่แรกผมสัมภาษณ์เสร็จไปแล้ว ซึ่งทางบริษัทจะโทรมาแจ้งอีก 2 อาทิตย์

แต่ดันมีที่ ๆ สองก็จะนัดสัมภาษณ์งานเช่นกัน ซึ่งที่ ๆ สองผมยังไม่ทราบว่าจะรู้ผลเมื่อไหร่

ใจจริงผมอยากทำงานกับที่แรกด้วยองค์ประกอบหลาย ๆ อย่าง

แต่ถ้าปฏิเสธบริษัทที่สองไป ก็ยังไม่ทราบว่าจะได้งานที่แรกมั้ย แล้วจะกลายเป็นไม่ได้ทั้งสองที่เลย

รบกวนขอคำแนะนำพี่ ๆ ในบอร์ดด้วยนะครับ ขอบคุณมาก ๆ ครับ

ชั่วโมงนี้ยังเลือกงานอีกเหรอครัย มั่นใจขนาดไหนว่าทั้ง2ที่จะเลือกคุณ

ก็ควรไปสัมภาษณ์ที่ 2 นะ ในเมื่อยังไม่ได้ที่ 1 ครับ

ที่ 2 ก็แค่สัมภาษณ์เฉย ๆ ไม่ใช่เหรอครับ ไม่ใช่ว่าเลือกไปทำงานที่ 2 เลยนี่่
ก็ไปสัมภาษณ์ก่อนระหว่างรอที่แรก ถ้าที่แรกได้ก็รอปฎิเสธที่ 2 ไป หรือถ้าที่ 2 ไม่ติดต่ออีกมาก็ไม่ต้องทำไรแล้วนะ

อย่างแรกเลย ไปสัมภาษณ์งานหลายที่ไว้ ไม่ผิดครับ
คุณตอบตกลงไปสัมภาษณ์ที่สองได้เลย ยิ่งได้สัมภาษณ์เร็วยิ่งดี
เพราะคุณจะได้พิจารณาเลือกที่ดีสุดได้

อย่างที่สอง คุณยังไม่รู้แน่หรอกว่าที่แรกจะบอกผลสัมภาษณ์คุณภายในสองอาทิตย์จริงหรือเปล่า
บางครั้งระบบการคัดเลือกผู้สมัครมันไม่แน่ไม่นอนครับ บางทีคนสัมภาษณ์ยังตัดสินใจไม่ได้ ด้วยเหตุผลบางอย่าง
ผ่านไปสองอาทิตย์เขาอาจจะยังไม่แจ้งมาก็ได้ ไม่มีใครรู้
ดังนั้นตอนนี้มีโอกาสให้ไปสัมภาษณ์ที่ไหนก็ไปก่อนได้ครับ ไม่ผิดอะไร

อย่างที่สาม ทีนี้คุณก็ต้องแมเนจหน่อย ถ้าไปสัมภาษณ์ที่สอง เกิดคุณดันถูกใจที่สอง แต่ผลของที่สองออกช้า
แล้วผลของที่แรกออกเร็วกว่า สมมติเขารับคุณ แต่ใจคุณไปที่สองแล้ว ก็ลองต่อรองวันเริ่มงานกับเขาไปก่อน
เพื่อให้มีเวลารอที่สอง แล้วคุณก็ไปฟอลโลว์อัพที่สอง บอกเขาไปตรงๆ ว่ามีสัมภาษณ์งานที่อื่นไว้ก่อนหน้านี้
แล้วทางนั้นแจ้งรับแล้ว แต่ถ้าเลือกได้ ก็อยากทำกับที่สอง เป็นไปได้ไหมว่าจะได้ผลสัมภาษณ์เร็วขึ้น
อะไรประมาณนี้
ถ้าตอบตกลงที่แรกไปแล้ว ยังไม่ทันไปเซ็นสัญญา หรือยังไม่ทันไปเริ่มงาน ก็เปลี่ยนใจได้
แต่ในความเป็นจริงโดยทางกม.ต่อให้เซ็นแล้วเริ่มงานแล้วก็ยังเปลี่ยนใจได้อยู่ดี
แต่อย่าลืมว่ามันทำให้คนที่รับคุณเข้าทำงานที่แรกลำบาก เพราะเขาต้องหาคนใหม่และเสียเวลาในกระบวนการต่างๆ

สำคัญที่สุดคือ ถ้ารับปากใครไปแล้ว ก็ต้องรับผิดชอบ ถ้าจะไม่ไป จะยกเลิก จะอะไร ก็ต้องแจ้งให้ทราบ อย่าหายไปเลยไม่บอกไม่กล่าว
เด็กสมัยนี้มีเยอะมาก ที่นัดสัมภาษณ์ไว้ นัดเริ่มงานไว้ พอถึงเวลา ไม่มา ปิดมือถือหนี มันเสียเวลา เสียความรู้สึก
แค่โทรมาแจ้ง ไม่มีใครว่าหรอกครับ

ก็สัมภาษณ์ไปทั้งสองที่นั่นแหละครับ

ตราบใดที่ยังไม่ได้เซ็นสัญญา มีโอกาสสัมพาษณ์ก็สัมไปก่อน

ผมขอแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวของผมล่าสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเลยนะครับ

วันจันทร์ผมไปสัมภาษณ์งานที่นึง ผจก.บอกว่ารับผมเข้าทำงาน แต่ผมบอกขอผมคิดดูก่อน

จะให้คำตอบวันพฤหัส

วันอังคารสัมภาษณ์งานกับอีกบริษัทนึงตอนบ่ายสอง ตอนเย็นฝ่ายบุคคลโทรมาแจ้งว่าผ่านการสัมฯ

ให้เข้ามาเซ็นต์สัญญาวันศุกร์บ่าย

วันพุธมีบ.ขายยาง (แบรนด์ญี่ปุ่น) โทรมานัดสัมภาษณ์งานวันพฤหัสเช้า ผมก็ตอบรับว่าจะไปสัมฯอีก

แต่เกิดเหตุนิดหน่อย (นัดผมวันพฤหัส 10.00 น. โทรมาแจ้งตอน 09.57 น.ว่าติดประชุมด่วนให้กลับมาใหม่ตอนบ่ายสอง ให้ขับรถไปกลับเกือบ 60 กม. อย่างเคืองอ่ะ 555)

สุดท้ายผมก็ได้ไปเซ็นต์สัญญากับบริษัทที่สัมฯไว้ตั้งแต่วันอังคารครับ เริ่มงานวันที่ 1 มิ.ย.นี้แล้ว

รวมๆจะสื่อว่า เราเองก็มีสิทธิ์เลือกครับ งานหายากจริง แต่เราก็มีสิทธิ์จะเลือกงานที่ดีที่สุดและเหมาะกับเราที่สุดเช่นกันครับ

สู้ๆครับ ตราบใดยังไม่ได้เข้าทำงาน ยังไม่ผ่านโปรฯ ผมก็ยังอัปเดตประวัติในเว็บไปเรื่อยๆนะ เผื่อๆไว้

ตราบใดที่เราไม่ผิดคำพูด หรือทำอะไรผิดกฎหมาย ทำไปเถอะครับ
เห็นเเก่ตัวไม่เท่ากับเอาเปรียบคนอื่น

ผมจะสัมภาษณ์หลายๆที่ เเละไม่วางใจจนกว่าจะเริ่มงาน+เซ็นสัญญา

สัมภาษณ์ไปให้หมดทุกที่ที่เขานัดสัมภาษณ์ครับ

จะปฏิเสธบริษัทที่สองทำไม ในเมื่อที่แรกเขายังไม่แจ้งว่าจะได้หรือไม่ได้
ไปสัมภาษณ์หลายบริษัทไม่เห็นจะเป็นไรเลย

อยากมีตัวเลือกตัวเดียว หรืออยากมีตัวเลือกหลาย ๆ ตัวหล่ะครับ เข้าใจอารมณ์นะ ผมก็เป็นที่แรกเรียกแล้วคิดว่า ทุกอย่างมันลงตัว ทั้งสถานที่ก็เหมาะสม เนื้องานก็น่าสนใจ แล้วตอนสัมภาษณ์ก็มั่นใจว่า เหมือนจะได้ เลยขี้เกียจหาต่อละ

นั่งเปื่อยรองานไปเกือบเดือนเขาถึงจะตอบกลับมาว่ารับ ดีนะที่เขารับ ถ้าไม่รับผมลำบากต้องไปเริ่ม 1 ใหม่และเสียเวลารอไปเกือบเดือน แต่มุมผมในตอนนี้คือ มีตัวเลือกเยอะดีกว่า ตัวเลือกน้อยครับ เพราะแต่ละที่ที่สมัครไปก็ผ่านการพิจารณาของเรามาหมดแล้ว

ว่า มันน่าจะดี แต่ก็ไม่มีอะไรการันตีได้จนกว่าเราจะได้ทำจริงครับ เพราะฉะนั้นโอกาสมาคว้าไว้ ไม่แน่ทั้งสองที่อาจจะเสนอเงินเดือนที่ต่างกัน อาจจะทำเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ตัดสินใจง่ายขึ้นครับ

ถ้าเป็นงานแรก ผมจะเลือกสัมภาษณ์เยอะๆ ก่อน จะได้เลือกได้

ตอนผมหางานแรก ผมลุยสัมภาษณ์เละเลยนะ ได้เกือบหมดด้วย ไม่ได้ที่เดียว จากสัมภาษณ์ 20 ที่ได้ เวลาสัมภาษณ์ก็พยายามดึงข้อมูลของเค้าให้ได้มากๆ จะได้เอามาเป็นข้อมูลในการเลือกด้วย

แต่พอหลังๆ เป็นการสัมภาษณ์แบบมีงานทำอยู่แล้ว บางครั้งก็ปฎิเสธไปบ้าง แบบเงินไม่ชัวร์ว่าให้ได้ถึงไหม อย่างนี้ก็ไม่อยากคุยมาก เสียเวลาทั้งสองฝ่าย และเสียเวลาบริษัทที่เราทำงานอยู่ด้วย

ล่าสุดก็อาทิตย์ที่แล้ว สัมภาษณ์ที่นึงเสร็จ วันรุ่งขึ้นอีกที่มาขอสัมภาษณ์ เลยปฎิเสธเค้าไปก่อน บอกว่าเรารอผลอีกที่อยู่ ไม่อยากให้เสียเวลาทุกๆ ฝ่าย ถ้าเราต้องลาไปสัมภาษณ์อีกวัน แล้วที่หลังนี่จ่ายได้น้อยกว่าที่แรก ถ้าคุยแล้วต่อให้ได้ ก็ไม่รู้จะย้ายที่ราคานั้นหรือเปล่าเลย เลยตัดสินใจขอข้ามดีกว่า

สัมให้หมด ได้ทั้งสองที่ยิ่งดี ถ้าที่แรกโทรมาหลีงได้งานที่สอง ให้ ถ้ายังไม่เริ่มงานก็เลือกที่แรก แล้วบอกว่าอีกที่ ใกล้บ้าน ผบตอบแทนดีกว่าก็ว่าไป

ถึงแม้จะเริ่มงานแล้วก็ยิ่งดีจะได้ดูว่าที่สอง ดีหรือไม่ดีจริง ตามความคิดเรามั้ย ถ้าไม่ดีก็ ออก ไปที่แรก แค่นั้นเองครับ กรณีเขาโทรมาหลังเราเริ่มงานแล้ว
แต่ก็ไม่แน่ว่าที่แรกก็อาจจะไม่เหมือนที่เราคิด อันนี้คือความเสี่ยง

เพราะเป็นช่วงทดลองงาน เราและบริษัทต่างคนต่างเลือกกันและกัน

สัมภาษณ์ไปเลยครับ ที่2 แล้วค่อยดูผลอีกที เดี๋ยวจะกลายเป็นว่า ไม่ไปที่ 2 ที่ 1 ก็ไม่ได้ ซวยเลยทีนี้ งานยิ่งหายาก สมัยนี้