คือ ก่อนหน้าที่จะไปล้างรถแถวบ้าน ก็ปกติดี ไม่มีสัญญาณอะไร
ก็ไปล้างรถ ล้างห้องเครื่อง ล้างโน้นนี้ ตามประสา ปกติก็ล้าง ไม่มีปัญหา
แต่มารอบนี้ ผมขับออกจากร้านล้างรถ ปรากฏว่า ไฟ Engine มันขึ้นอะครับ

ผมยังไม่ได้เอารถ เข้าอู่หรือ ศูนย์ใดๆ เผื่อจะมีวิธีแก้ไขหรือตรวจสอบว่า
มันอาจจะมีอะไรเสียดาย หรือ ????? พอมีวิธีการตรวจสอบเบื้องต้นไหม ?

เครื่องยนต์ปกติ รอบก็วิ่งปกติ ไม่ได้อืดหรืออะไร

ถอดขั้วแบต (ขั้วลบ) ออกแล้วเสียบเข้าไปใหม่ดูครับ

ถ้าไม่มีอะไรไฟมันจะหาย..แต่ถ้ายังจิดขึ้นมาอีก ก็เอาเข้าศูนย์ให้เค้าเช็คโค้ดให้


ปล. หลังถอดแบต..นาฬิกา,วิทยุในรถต้องมา set เวลาใหม่นะฮะ

น้ำเข้าขั่วหัวเทียน เข้าจานจ่ายรึเปล่า เชคตรงปลั้กต่างๆด้วย
ถอดมาเช็ดเป่าก็น่าจะหาย

ถ้าไม่สกปรกมากหรือไม่จำเป็นจริงๆห้องเครื่องอย่าล้างนะครับ ล้างแล้วไฟนู่นนี่นั่นโชว์, บางทีปิดหรือคลุมไม่ดีน้ำเข้าจานจ่ายสตารท์ไม่ติดก็มีนะ
.
ขนาดพวกรถยุค 90 ไม่ค่อยมีระบบอะไรซับซ้อนล้างห้องเครื่องยังมีโอกาสน้ำเข้านู่นี่นั่นได้ ยิ่งพวกรถยุคใหม่ๆระบบไฟฟ้าเยอะๆ เซนเซอร์นู่นนี่นั่น เสี่ยงกว่าเยอะครับ

การถอดแบตเพื่อลบโค้ด ไม่ต่างอะไรกับขยะซุกใต้พรม ไฟโชว์ต้องเช็คโค้ด ว่าโชว์โค้ดอะไรจะได้แก้ไขได้ถูกจุดครับ เกี่ยวกับตัวไหนก็ถอดปลั๊กนั้นฉีดโซแนคไล่น้ำออก แล้วใช้สแกนเนอร์ลบโค้ดทิ้งไป
การถอดขั้วแบตเพื่อลบ มันหายไปแค่ไฟครับ แต่โค้ดยัง pending อยู่

เข้าอู่ค่าเช็คทั่วๆไปประมาณ200 ศูนย์500
แต่ซื้อobdมาติดรถไว้มีตั้งแต่หลักร้อยขึ้นไปครับ

ผมว่าน่าจะเกิดจาก

เบรคสะบัด คลัทช์เสีย เกียร์หลุด
เครื่องสะดุด เพลาหัก สลักหาย
หัวเทียนห่าง ยางแฟบ แหนบตาย
ไดไม่จ่าย ไฟไม่ชาร์จ สตาร์ทพัง
ครับ

เอาเข้าศูนย์ หรือ อู่ ไปเชคเถอะครับ

"การถอดแบตเพื่อลบโค้ด ไม่ต่างอะไรกับขยะซุกใต้พรม" ประโยคนี้ไม่เสมอไปครับ

การถอดขั้วแบตฯ เพื่อให้เช็คว่าค่าไฟที่โชว์นั้นเกิดขึ้นจากอาการจริง

เพราะหากอาการยังมีอยู่(แก้ไม่หาย) ถึงถอดขั้วและใส่ใหม่แล้ว เมื่อสตาร์ทรถไฟก็จะติดอีกครั้งครับ



ยกตัวอย่างเดือนก่อนผมต้องถอดปลั๊กคอยล์จุดระเบิดแต่ละหัวเพื่อเช็คการทำงานของคอยล์และหัวเทียน(ขณะติดเครื่อง)

ถอดหัวแรกปุ๊บ ไฟเตือน engine ขึ้นทันทีครับ เพราะมันมีการ interupt วงจรขึ้น..เสียบปลั๊กกลับไฟก็ไม่หายครับ

วิธีเช็คของผมก็คือถอดขั้วแบตเนี่ยล่ะฮะ..เพื่อให้ชัวร์ว่า หลังเสียบปลั๊กเมื่อสตาร์ทอีกรอบไฟเตือนยังขึ้นอยู่มั๊ย..

ถ้าขึ้นแปลว่ารถมีปัญหาจริง (ไม่ใช่ไฟขึ้นแค่เพราะเราถอดปลั๊ก) ก็จะได้เอาเข้าอู่,ศูนย์เพื่อเช็คต่อไป..


ปล. อันนี้เพราะ จขม.บอกว่าไปทำการล้างห้องเครื่องมา เลยไม่แน่ใจว่าเพราะแค่ไปล้าง หรือมันมีอาการเสียจริงๆ

แต่ถ้าขับอยู่ดีๆแล้วไฟติด เป็นแบบที่ท่านว่านะฮะ..ไม่ควรไป reset เอง..เพราะมันเกิดปัญหาแน่ๆอยู่ละ เอาเข้าอู่เช็คโค้ดดีกว่า

เทียบกับการถอดปลั๊กคอยล์ไม่ได้ครับ ปลั๊กคอยล์มันไม่pending วงจรครบก็จบไป เซ็นเซอร์ตัวอื่นมันpendingครับ

ใช่ฮะ ผมถึงบอกว่าประโยคด้านบนไม่ใช่เสมอไปงัยฮะ

เพราะ จขม.อาจจะเกิดจากตัวปลั๊ก, วงจรในห้องเครื่องหลุด,หลวม ตอนล้างได้ฮะ (ซึ่งมันอาจจะหายไปแล้ว)

การดึงขั้วแบตฯเพื่อเช็คซ้ำน่าจะเป้นวิธีที่เร็วและง่ายที่สุด ก่อนวิ่งไปเช็คค่าที่อู่,ศูนย์

(เฉพาะอาการนี้นะฮะ ถ้าวิ่งๆอยู่แล้วไฟขึ้น ถึงไม่แนะนำ)

จริงๆผมพิมพ์ไปยาวนะเมื่อกี้ เกี่ยวกับการถอดขั้วแบต แต่ผมก็ลบทิ้งไปละ
สั้นๆง่ายเลยแล้วกัน การถอดขั้วแบต ทำให้กล่อง ecu มันรีเซ็ต ค่าairflow ค่าO2 ตำแหน่งลิ้นปีกผีเสื้อ มันจะคืนค่ากลับไปนับ1ใหม่
ถ้าอุปกรณ์ที่กล่าวมาอยู่ในสภาพดีไม่สกปรกไม่เป็นไร แต่ถ้าสกปรก
โตโยต้า เครื่องจะสั่นเบาๆ (ล้างก็จบ)
ฮอนด้า เกียร์เปลี่ยนไม่สมูท +สั่นเบาๆ (ต้องไปคาริเบทค่าใหม่) นี่สั้นแล้วนะ
ผมเปิดอู่เจอมาเยอะเลยครับ ชอบถอดแบตเนี้ย
ที่พยายามบอกคือ ไม่อยากให้มักง่าย
มันจะกลายเป็นเสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย