ความพิสดารและโหดร้ายของเกมฟุตบอลบางทีมันก็เข้าใจยาก จนต้องขอหยิบยืมวลีเดิมๆว่า “นี่แหละฟุตบอล” มาใช้กับ ลอนดอน ดาร์บี้ แมทช์

แฟนบอลทั้งผู้ชนะ (อาร์เซนอล) และ ผู้แพ้ (เชลซี) อาจจะ “งง” เหมือนกันแต่เป็นการงงแบบดีใจรอดตายและงงแบบเจ็บใจ

“สิงห์บลู” กด “ปืนใหญ่” ตั้งแต่เสียงนกหวีดดังขั้นโดยตั้งใจจะเช็กบิลตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีกในเกมนี้ก่อนชิง เอฟเอ คัพ ในสุดสัปดาห์นี้ไปเลย

ลูกหลุดเดี่ยวแบบโล่งโคตรๆของ ไค ฮาแวร์ตซ์ ที่ดันเหินข้ามคานกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ลงเอยด้วยความพ่ายแพ้คาบ้าน

เมื่อโอกาสเดียวในครึ่งแรกของ อาร์เซนอล กลายเป็นจังหวะที่ จอร์จินโญ่ จ่ายบอลคืนหลังแบบไม่ยอมมองแถมทำลายกฏเหล็กคือจ่ายตรงกรอบ

ไม่แน่ใจว่า “เฮียจอร์” ลืมไปหรือเปล่าว่าผู้รักษาประตูวันนี้เป็น เกป้า ที่ชอบยุกยิกมีส่วนร่วมกับเกมปรี่มารอริมเขตโทษ (ส่วน เมนดี้ จะยืนรักษาการประจำมากกว่า)

แม้ เกป้า พยายามวิ่งมาปัดบอลบนเส้นแต่ก็โดนดาบ 2 ไม่เหลืออยู่ดี

ลูกนี้ทำให้ผมนึกถึงตัวเองตอนแข่งบอลฟุตซอล 6 คนเมื่อปลายปีที่แล้ว ผมยืนกองหลังตัวสุดท้าย เพื่อนร่วมทีมจ่ายให้ผมช้าไปนิดเลยโดนคู่แข่งบีบไว

ด้วยสัญชาตญาณผมก็ตวัดบอลคืนหลังทันที ปรากฏผู้รักษาซึ่งปกติเป็นผู้เล่น outfield (แต่เป็นโกล์ดี) นู่นวิ่งออกไปยืนด้านข้าง

ด้วยความที่เขตโทษฟุตซอลมันเล็กผมก็ส่งคืนหลังแบบตรงกรอบ ประตูก็วิ่งพุ่งมาแบบ เกป้า แต่ไม่ทัน กลายเป็น OG. ของกูไปซะงั้น

ยังดีจบเกมพลิกชนะ ผมงี้โล่งอกแต่ก็มาคุยนอกรอบกับประตูว่าเล่นบอลมาด้วยกันตั้ง 20 ปี น่าจะรู้ใจกัน จังหวะแบบนี้ยังไม่สบตาจะวิ่งไปไหน เราส่งคืนให้เดี๋ยวก็วิ่งออกไปรับด้านข้างเอง แบบนี้ง่ายกว่า

ครับ “ปืนใหญ่” ที่ช่วงแรกแทบพาบอลออกจากแดนตัวเองไม่ได้ พอขึ้นนำทีนี้อุดแหลก 2 ชั้นทำให้ “สิงห์บลู” ต้องรับกรรมจากการยิงขึ้นนำไม่ได้แถมปล่อยให้คู่แข่งทะลวงจนเล่นยากเข้าไปอีก

ทีมเยือนโงหัวไม่ขึ้นและกว่าจะมีโอกาสยิงครั้งที่ 2 ในเกมนี้ก็ปาไปเกือบ 70 นาที

เชลซี มีพื้นที่เข้าทำน้อยมากๆเนื่องจากเด็กๆ มิเกล อาร์เตต้า รับค่อนข้างลึก การจะเปิดบอลตัดหลังทั้งเลียดและโด่งลืมไปได้เลย

หนทางเดียวจึงเป็น “แลมพาร์ดเวย์” คือออกปีกแล้วเปิดแต่แข้ง “ปืนใหญ่” ยืนคุมเส้นทางนี้เอาไว้ 2 ชั้น ให้แบ็คเตรียมไปบล็อกเส้นหลังแล้วมีเพื่อนอีกคนยืนดักเผื่อลากตัดเข้าใน

เมื่อหนทางเดียวในการโจมตีคือริมเส้นทำให้ โธมัส ทูเคิ่ล จึงต้องส่ง โอลิวิเวย์ ชิรูด์ มาแทน ฮาแวร์ตซ์ ตั้งแต่นาที 65

คนมันจะแพ้โอกาส 2 หนต่อเนื่องในนาที 90 ก็ยังชนคานติดๆกัน ชิรูด์ ควรได้เฮยิงทีมเก่าจากการซ้ำหลาเดียวแต่ไปแม่นคานซะงั้น

ถ้าจะบอกว่าวันนี้แนวรับ “ปืนใหญ่” เหนียวโคตรๆก็ไม่ผิดแต่อย่างใด แต่( อีกครั้ง) จากโอกาสที่เราเห็นกัน เชลซี ควรมีอย่างน้อยๆ 2 ประตูด้วยซ้ำ

สุดท้ายแล้วนี่เป็นการเอาชนะ “ไป-กลับ” หนแรกของ อาร์เซนอล ในรอบ 18 ปีและบุกมาชนะที่ “เดอะ บริดจ์” เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2011

เป็นการดิ้นเฮือกครั้งใหญ่ของ “ปืนใหญ่” ที่ขอมีเอี่ยวไป ยูโรป้า ลีก (อีกหน) ในฤดูกาลหน้า

สำหรับ เชลซี แม้ยังขึ้นชื่อว่าทุกอย่างอยู่ในการ “ควบคุม” เมื่อนำ เวสต์แฮม อยู่ 6 แต้ม (แต่เตะมากกว่า 1 นัด) และอาจต้องลุ้นไม่ให้ ลิเวอร์พูล ชนะในศึกแดงเดือด

แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าทีมของ ทูเคิ่ล อาจลงสนามในเกม เอฟเอ คัพ รอบชิง ด้วยความรู้สึก “ไม่สบายใจ” เต็มร้อยซักเท่าไหร่

และเป็นซีรีย์ต่อเนื่องเพราะ เลสเตอร์ ทีมเดิมจะเตะต่อใน พรีเมียร์ลีก หลังเกมที่ เวมบลีย์ 3 วัน ซึ่งเปรียบเสมือนรอบชิงอีกรายการเพราะถ้าใครชนะคือไป UCL ทันทีส่วนผู้แพ้ต้องไปวัดนัดสุดท้ายกันต่อ (ถ้า เวสต์แฮม กับ ลิเวอร์พูล ไม่หลุดไปก่อน)

ปัจจัยผลแพ้ชนะในรอบชิง เอฟเอ คัพ จะส่งต่อมายังเกมนี้ด้วยแน่ๆ ถ้าทุกอย่างเป็นใจให้ “สิงห์บลู” ผมเชื่อว่าด้วยกึ๋นของ ทูเคิ่ล และคุณภาพนักเตะจะปิดจ็อบใน 2 นัดสุดท้ายได้อย่างไม่มีปัญหา

แต่ทั้งหมดทั้งมวลทั้งแฟนบอลและนักเตะต้องสลัดเนกาทีฟลืมเกมนี้ให้เร็วที่สุด อย่าให้ฟอร์มหรูก่อนหน้านี้มาตายเพราะวันที่ไม่เป็นใจแค่นัดนี้นัดเดียว...

ปล่อยเกมลีก ละเอาแชมป์ FA กับ UCL ก็ได้

ผมละกลัว จะว่าวทุกทางจริงๆ

หมดกัน แฟนตาซี ตรู!!!

เข้าใจว่าช่วงนี้เตะถี่ ทูเคิ่ลเลยอาจสับสนไม่รู้จะบริหารจัดการตัวผู้เล่นยังไง แต่ก็งงที่ยังเลือกให้จอร์ฯ ลงเต็มครบ 90 นาที ในเงื่อนไขที่ทีมต้องการประตู

รอชิง สามถ้วยเลยนะหนิเชลซี เพราะดันมาแพ้ปืนใหญ่แบบนี้

ดีละ ให้มีไรให้ลุ้นหน่อย มันจะกร่อยไป หุหุ

คือไม่ว่าจะด้วยอะไร ทูเคิลก็ไม่ควรเปลี่ยนโกล์สลับไป-มา อย่างนี้ เข้าใจว่านัดชิงเอฟเอคัพจะให้เมนดี้ลง เลยเกรงใจเกป้า ให้มาลงในพรีเมียร์แทนในนัดนี้ แต่จังหวะนี้ ถ้าเป็นเมนดี้ ที่ชอบยืนปักหลักตรงกลางประตู จอร์ส่งคืนโกล์ เมนดี้ก็เตะเคลียร์สกัดจบ จังหวะไม่มีอะไรเลย แต่พอเปลี่ยนเป็นเกป้า ที่ชอบขยับออกไปรอเตะเคลียร์ข้างประตู ความเคยชินที่เป็นจังหวะง่ายๆ ไม่มีอะไร มันก็กลายเป็นความผิดพลาดจนทีมพังพินาศ แบบนี้ !!!

การส่งคืนโกลดีที่สุดคือควรส่งใ้หไม่ตรงกรอบไว้ก่อน เพื่อป้องกันเตะวืด ลื่นล้ม หรือเหตุการณ์ไม่คาดคิด

หมอก่องจ่อง ยืนหน้าเป้า เก็บบอลก็ไม่ได้ เดินก็จะล้มอยู่แล้ว 555