[RE: นาทีนี้อะไรก็ยอม อนุทินโพสต์ภาพพบผู้แทนไฟเซอร์]
khunnongtik พิมพ์ว่า:
Sir_Gawain พิมพ์ว่า:
แถมาเรืองการโควท การพูดถึงละ
ไม่ปกป้องรัฐบาลแล้วเหรอครับ
ลุงตู่ ป้อม จิร้องไห้ละนะ
พูดกันด้วยข้อมูล ไม่ใช่ไปนั่งด่าเค้าอย่างเดียว
ต่างกรรมต่างวาระ ต่างปัจจัย ไม่เห็นด้วย ก็ไม่แปลก อย่ามาแขวะเลยครับ
คือสิ่งที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ตอนนี้ เราว่าไม่แปลกเลยที่จะมีคนมาตั้งคำถามถึงสิ่งที่ทำอยู่และสิ่งที่เค้าไม่ได้ทำก่อนหน้านี้ทั้งๆที่ก็มีคนแนะนำว่าให้ทำ
ตอนที่ไฟเซอร์ขอเจรจาการขายวัคซีนให้กับรัฐบาลปลายปี 2564 ทำไมรัฐบาลจึงปฏิเสธ
อาจจะมีข้อมูลบอกว่า รัฐบาลไม่เอาเพราะจำเป็นต้องจ่ายเงินก่อนเพื่อจองวัคซีนและระยะเวลาที่จะได้รับวัคซีนคือปลายปี 2564 แต่ ณ เวลานั้น ประเทศไทยถือเป็นประเทศแรกๆ ที่ได้รับการติดต่อไปเพราะมีไฟเซอร์สาขาประเทศไทยอยู่ ทำไมรัฐบาลจึงปฏิเสธดีลนี้ ทั้งๆ ที่เป็นดีลที่มีประโยชน์มากในอนาคต เพราะตอนนี้เรากำลังเผชิญกับโรคระบาดกันทั่วโลก ที่คนทุกประเทศต่างก็พยายามขวานขวายหาวัคซีนมาให้ได้ก่อนเพื่อให้คนในประเทศได้ฉีดเพื่อให้เกิด herd immunity เป็นอย่างน้อย และเราควรมีตัวเลือกทางอื่นเพื่อกระจายความเสี่ยงด้าน efficacy กับ safety ของวัคซีนด้วย
การอ้างว่าตอนนั้นยังไม่ระบาด เลยไม่จำเป็นต้องสั่ง มันดูตลกมากเลยค่ะ โรคระบาดก็คือโรคระบาดค่ะคุณ แล้วนี่มันระบาดกันทั้งโลก เชื้อสามารถแพร่ได้ไว คุณคิดได้ยังไงว่าจะคุมอยู่ได้ตลอดรอดฝั่งโดยที่ไม่ล้อคดาวน์ คือเหมือนคิดแค่ว่าอ๋อ วันนี้ชั้นไม่ต้องการเลยยังไม่เอา ไว้เดี๋ยวอยากได้ค่อยไปเอา ดูไม่มีแผนการ ไม่มี risk management ดูแบบสิ้นคิดสุดๆ เหมือนลืมไปว่ามันระบาดทั้งโลกและทั้งโลกกำลังต้องการวัคซีน เค้าแย่งกันมั๊ยยยย ผู้บริหารต้องคิดแล้วว่าควรจะวางแผนแบบไหน แผน A, B, C ไม่ใช่ระบาดหนักแล้วมาร้องไห้ พนมมือกราบที่เท้าให้เค้าเอาวัคซีนมาให้ ตลกมากจ้า เหมือนประเทศไทยยิ่งใหญ่จนเค้าต้องลัดคิวให้งี้
ปล1. วัคซีนของไฟเซอร์ขึ้นราคาแล้วด้วยตอนนี้
ปล2. ที่ผ่านมายาสัตว์เราก็ขนส่งที่อุณหภูมิติดลบมาตลอดโดยใช้ไนโตรเจนเหลว แล้วของไฟเซอร์มันไม่ใช่ว่าต้องแช่แข็งตลอดขนาดนั้น ช่วงก่อนที่จะนำออกมาฉีดมันก็ยังเก็บในที่ๆ อุณหภูมิสูงขึ้นได้
ในเมื่อผู้ผลิตหลายเจ้าต้องการขายวัคซีนให้กับรัฐบาลเท่านั้น แล้วทำไมรัฐบาลไม่ซื้อเองล่ะ
คือวัคซีนโควิด-19 ที่มีอยู่ทุกตัวเป็นวัคซีนใหม่ที่วิจัยและทดลองในระยะเวลาที่สั้นเพื่อให้ในสภาวะฉุกเฉิน การขายให้กับรัฐบาลจึงเป็นทางเลือกที่เซฟที่สุดสำหรับผู้ผลิต แต่ก่อนที่จะเกิดการระบาดระลอก 3 ผู้ผลิตวัคซีนหลายเจ้าต่างก็เข้ามาขอเจรจากับรัฐบาลก่อนที่จะขึ้นทะเบียนวัคซีน แต่รัฐบาลเองที่เป็นคนปฏิเสธเสียงแข็งว่านำเข้ามาได้ แต่รัฐบาลไม่ซื้อนะ คุณขายให้ได้แค่เอกชน รัฐบาลสร้างเงื่อนไขเยอะแยะมากมายจนหลายๆ ดีลต้องตกไป คำถามคือ แล้วทำไมรัฐาลถึงไม่ซื้อล่ะหรือเพราะตั้งเป้าที่จะใช้วัคซีนที่ผลิตโดยสยามไบโอไซส์เท่านั้น
ทำไมเพิ่งจะอยากมาสั่งวัคซีนตัวอื่นๆเอาตอนนี้ ก่อนที่จะระบาดระลอก 3 ทำไมถึงไม่ลิสต์รายชื่อแล้ว
ติดต่อขอสั่งจองให้มันไวๆ ไม่ทราบว่ารออะไร แล้วทำไมต้องเลือก Sinovac ทั้งๆที่ราคาก็แพงแถมประสิทธิภาพก็ต่ำ
คือในตอนนี้มีผู้ผลิตที่มายื่นขึ้นทะเบียนวัคซีนไว้แค่ 4 เจ้า คือ AZ (ผลิตในอิตาลี), Sinovac, J&J และ Bharat ของอินเดีย และได้ทะเบียนไปแล้ว 3 เจ้าแรก เหลือแค่ Bharat ส่วน AZ ที่ผลิตโดยสยามไบโอไซส์คาดว่าจะได้ทะเบียนภายในเดือน พ.ค. ซึ่งแต่ละตัวมันก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป อย่าง AZ ประสิทธิภาพดีแต่ SE สูง เกิด blood clot ได้ในคนอายุน้อย ส่วน Sinovac ประสิทธิภาพต่ำมากแต่ SE ก็ต่ำด้วย (แต่ SE ยังต้องดูกันต่อไป) ส่วน J&J ตอนนี้ CDC ให้หยุดใช้ไปก่อนเพราะพบ blood clot ชนิดหายากในผู้ป่วย 6 ราย คือแล้วตอนนี้จะใช้อะไรอ่ะทีนี้ ทำไมเพิ่งจะมาสนใจ Pfizer, Moderna หรือ Novavax เอาตอนนี้ เพราะกว่าจะขึ้นทะเบียนเสร็จก็เสียเวลาไปอีกอย่างน้อย 2 เดือน คือ ทำไมไม่เอาแต่แรก แล้วไปเลือก Sinovac ทำไมแต่แรก ประสิทธิภาพ 50% นี่คือเกือบไม่ผ่านเกณฑ์นะคะ หวุดหวิดมาก ฉีดเข้าไปแล้วต้องมาลุ้นว่าจะเกิดภูมิรึเปล่าเนี่ยนะ คือเราฉีดวัคซีนเพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันจ้า ไม่ได้ต้องการแค่ลดความรุนแรงของโรค เราอยากได้ภูมิที่แบบเออถ้าสัมผัสคนมีเชื้อแล้วเราก็ยังไม่ป่วยอ่ะค่ะ จะได้ไปทำมาหากินได้ กระตุ้นเศรษฐกิจกันต่อในทางที่ถูกที่ควรต่อไป
ปล. เท่าที่ทราบตอนแรก GPO จะนำเข้า Sinopharm แต่สุดท้ายกลายเป็น Sinovac ซะงั้น ซึ่งตรงนี้เราก็ไม่รู้ว่าทำไม ถ้าคุณรู้ก็ช่วยเล่าหน่อยนะคะ
คุณก็อาจจะมองว่าสิ่งที่รัฐบาลตัดสินใจมันดีกับคุณแล้ว นั่นก็คงแล้วแต่คุณ แต่สำหรับเราเราว่าการตัดสินใจของรัฐบาลมันขาดความรอบคอบและขาดวิสัยทัศน์ ในเมื่อเรามีทางเลือกมากมายให้เลือกแต่รัฐบาลกลับเลือกทางเลือกที่แย่ที่สุด ทำให้คนเบื้องหลังทำงานเหนื่อยมากขึ้น คือถ้าการตั้งคำถามของประชาชนมันจะทำให้รัฐบาลคิดอะไรได้บ้างก็ให้เค้าถาม ให้เค้าติเตียนไปเถอะ มันไม่ได้แย่เสมอไปหรอก