แนะนำหนังฆาตกรต่อเนื่องยุค 70 ในไทยดังจนถูกสร้างให้ชมใน netflix แล้วในชื่อ The Serpent นักฆ่าอสรพิษ
ชาร์ล โสภราช : นักฆ่าบิกินี่
คดีที่ทั่วโลกต้องจับจ้อง
โสภราชเป็นฆาตกรต่อเนื่องผู้เคยดังมากทั่วโลกและในไทยช่วงทศวรรษที่ 1970 โดยเชื่อว่าเขาได้สังหารโหดนักท่องเที่ยวแบ๊คแพก เกอร์ทั่วเอเชียไปอย่างน้อย 12 คน และได้สมญานามว่า”นักฆ่าบิกินี”(Bikini Killer) เพราะเหยื่อฆ่าโหด 2 คนจากหลายคนที่ถูกฆ่าที่ไทย ตายอยู่ในชุดบิกินี
และเชื่อกันว่าเขาอาจฆ่าคนไปแล้วมากกว่า 20คนในไทย,อาฟกานิสถาน,อินเดีย,ตุรกี,เนปาล,อิหร่านและฮ่องกง ในช่วงทศวรรษที่1970 แต่ไม่มีใครเคยเอาผิดเขาได้ในชั้นศาล
คนไทยอาจลืมชื่อโสภราชไปแล้ว แต่ต่างชาติไม่ลืม ยังติดตามชีวิตที่ชั่วร้าย และไม่ลืมชื่อเสียงที่เสียของตำรวจไทยในเรื่องที่เกี่ยวกับเขาด้วย
ชื่อของโสภราชปรากฏเป็นข่าวดังในหนังสือพิมพ์ไทย เมื่อเกิดคดีฆาตกรรมหนุ่มสาวดัทช์คู่หนึ่งในกลางเดือนธันวาคม พ.ศ. 2518 โดยเผาศพจนมอดไหม้ และพบอีก 5 ศพของนักท่องเที่ยวต่างประเทศในช่วงไม่กี่เดือนก่อนหน้านั้น ผู้ต้องสงสัยก็คือ ชาร์ล โสภราช ผู้อยู่อาศัยในตึกอพาร์ตเม้นต์เดียวกับผู้ตาย 5 รายแรก
เขาถูกจับโดยตำรวจไทยไม่กี่ชั่วโมงก็ปล่อยตัว จึงเผ่นหนีไปเนปาล โสภราชเขียนเล่าไว้อย่างขบขันถึงความไร้ประสิทธิภาพของตำรวจไทย และการให้เงินสดติดสินบนก้อนใหญ่จนสามารถหลบหนีออกนอกประเทศโดยใช้พาสปอร์ตของเหยื่อ
เมื่อถึงกาฐมัณฑุ ประเทศเนปาล โสภราชก็ก่อเรื่องอีก ด้วยการแทงนักท่องเที่ยวหญิงชาวอเมริกันตาย และก่อนหน้านั้นหนึ่งวันก็ฆ่าแฟนชาวแคนาเดียนของเธอด้วย
เมื่อปลายเดือนธันวาคม พ.ศ. 2518 หลังจากนั้นไม่นานโสภราชก็ไปสร้างข่าวฮือฮาเป็น serial killers (นักฆ่าต่อเนื่อง) ต่ออีกในอินเดีย ด้วยการฆ่านักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศสและอิสราเอล และมอมยานักท่องเที่ยวฝรั่งเศสทั้งกรุ๊ปทัวร์ 22 คน เพื่อขโมยทรัพย์สิน
ในเดือนกรกฎาคม 2519 เขาก็ถูกตำรวจอินเดียจับได้ ขึ้นศาล ถูกจำคุกคดีฆ่าและมอมยา 12 ปี ในเดือนมีนาคม 2529 ก่อนติดคุกครบ เขาก็หนีคุกอินเดียได้สำเร็จ
แต่ต่อมาก็ถูกจับได้ในอินเดียและถูกจำคุกอีก 10 ปี ซึ่งทำให้เขาสามารถหลุดพ้นจากการถูกส่งข้ามแดนมาขึ้นศาลคดีร้ายแรงฆ่า 7 ศพในประเทศไทย ซึ่งมีโทษถึงประหารชีวิตหลังจากติดคุกจนครบ 10 ปี เขาออกมาเป็นอิสระในเดือนกุมภาพันธ์ 2540
ผู้คนก็ลืมคดีและความชั่วร้ายของเขาไปชั่วขณะ และที่สำคัญก็คือ คดีฆาตกรรมในประเทศไทยซึ่งหมดอายุความไปแล้ว อย่างไรก็ตามฟ้าดินยังให้ความยุติธรรมอยู่ เพราะอายุความของคดีเนปาลเมื่อ พ.ศ. 2518 ยังไม่หมดลง
โสภราช เกิดในสลัมฮานอย เข้าใจว่าแม่มีอาชีพที่เขาไม่อยากเปิดเผย ชีวิตเติบโตด้วยการต่อสู้ ปากกัดตีนถีบ แต่เขาเป็นคนทะเยอทะยาน และมีความมุมานะ (ในทางชั่ว) คบค้ากับฝรั่งจนสามารถพูดได้ถึง 5 ภาษา ด้วยบุคลิกที่ดี หน้าตาที่หล่อเหลา พูดจาโน้มน้าวคนเก่ง ฉลาด และกิริยามารยาทนิ่มนวล เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เขาหลอกลวงคนได้มากมาย จนถึงฆ่าเพื่อปลดทรัพย์
วิธีการที่เขาถนัดคือการใช้ยานอนหลับใส่อาหารเพื่อปลดทรัพย์ หากต่อสู้ขึ้นมาก็ฆ่า หนังสือชีวประวัติของเขา 4 เล่ม และสารคดีทีวี 3 ชุดเกี่ยวกับชีวิตเขา โดยมาจากคำให้สัมภาษณ์ขายดีติดอันดับโลก จนเรียกได้ว่าเขาเป็นคนดังระดับโลกทีเดียว
หลังจากที่เค้าพ้นโทษจากคดีฆ่าคนนับ 10ราย
แต่ยังมีคดีฆ่าอีก 7 ราย ในประเทศไทยที่กฎหมายปล่อยให้เขาลอยนวล
แต่ ความยุติธรรมมีจริง เพราะมีคนชื่อ เฮอร์แมน นิปเปนเบิร์กอยู่บนโลก เฮอร์แมนเป็นเจ้าหน้าที่ของสถานทูตเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทย เมื่อเกิดเหตุการณ์ฆ่าหนุ่มสาวนักท่องเที่ยวชาวดัทช์ในไทยเมื่อพ.ศ. 2518 เขาผู้อยู่ในวัย 32 ปี ถูกสั่งให้สืบสวนหาความจริงของคดีนี้ เขาทุ่มเทสุดชีวิตและเจ็บปวดที่ตำรวจไทยไม่ให้ความสนใจในคดีนี้เท่าที่ควร
เฮอร์แมนกับเพื่อนในสถานทูตเบลเยียมและอเมริกัน ที่ซึ่งมีคนของตนถูกฆ่าร่วมมือกันสืบสวนและสอบสวนจนมั่นใจว่าคนฆ่าเป็นคนเดียวกัน
เฮอร์แมนเดินทางไปเก็บหลักฐานในหลายแห่ง จนสามารถผลักดันให้ตำรวจไทยขยับได้บ้างในที่สุด ความมุ่งมั่นของเขาในการสอบสวนทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่ตำรวจ ทำให้ได้หลักฐานว่าในคดี 7 ศพในไทย โสภราชเป็นฆาตกร และมีเพื่อนร่วมมืออีก 2 คน (ผู้ร่วมสมคบคิดคนหนึ่งเป็นแฟนเขาที่เป็นชาวคานาเดียน ปัจจุบันตายแล้วด้วยโรคมะเร็ง ส่วนอีกคนหายตัวไป)
เมื่อตำรวจไทยได้ปล่อยตัวโสภราชไปซะแล้ว เฮอร์แมนจึงพาตำรวจไปค้นบ้านโสภราชก็พบทรัพย์สินของเหยื่อหลายคน พบหยูกยาหนักถึง 8 กิโลกรัม ซึ่งมีทั้งยาฉีด ยานอนหลับชนิดรุนแรง และยาแก้ท้องเสียผสมยาฆ่าหนูด้วย
ความใจจดใจจ่อข้ามเวลา ข้ามประเทศมานานนับสิบปีของเฮอร์แมน นิปเปนเบิร์ก ทำให้เขาเก็บหลักฐานการฆาตกรรมของโสภราชไว้มากมาย
เขาให้คำแนะนำและหลักฐานแก่ตำรวจอินเดีย ไทย เนปาล หลักฐานสำคัญมากมายในคดีเนปาลของเขาประกอบด้วยรูปถ่าย คำให้การของพยานอย่างกว้างขวาง ใบตรวจคนเข้าเมือง สำเนาพาสปอร์ต ฯลฯ เรียกได้ว่าถึงแม้คดีจะผ่านไปเกือบ 30 ปี แต่หลักฐานเหล่านี้ก็ยังอยู่ครบถ้วน
(เชื่อว่าจากการฆ่าในอัตรานี้ของโสภราช เฮอร์แมนอาจช่วยเหยื่อไว้ได้ถึง 50 ราย) ผลักดันให้เขาหมกมุ่นในการนำตัวโสภราชมาลงโทษให้สาสม เขาผิดหวังในคดีจากฝ่ายไทยที่มีคนถูกฆ่าถึงอย่างน้อยเท่าที่ทราบ 7 คน
แต่โสภราชกลับไม่ถูกลงโทษแม้แต่น้อย
คดีโสภราชนำชื่อเสียงด้านไม่ดีมาสู่ตำรวจไทยจนเป็นที่รู้จักกันดีในระดับโลก หนังสือ 4 เล่มของโสภราชและสารคดีทีวีที่เผยแพร่ไปทั่วโลกกล่าวถึงวีรกรรมของตำรวจไทยในสมัยนั้น ถึงการช่วยคนผิดไม่ให้ได้รับโทษ เรียกได้ว่าเป็นน้ำจิ้มก่อนไปสู่คดีเพชรซาอุฯ ที่ตำรวจไทยดังก้องโลกในเวลาต่อมาอีกครั้ง
ในหนังสือของโสภราชยุคก่อน 14 ตุลาคม ถึงหลัง 16 ตุลาคม อาชญากรต่างชาติเดินกันขวักไขว่ในไทยเพราะไม่เกรงกลัวการติดคุก ถึงถูกจับก็ปล่อยได้ไม่ยาก
นอกจากนี้งานจารกรรมสารพัดลักษณะของหลายประเทศจากทุกค่ายก็คึกคักอย่างยิ่งในไทยอีกด้วย สิ่งที่เฮอร์แมน นิปเปนเบิร์กสะใจก็คือ ชะตากรรมของโสภราชในขั้นสุดท้ายที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้
เมื่อโสภราชเป็นอิสระจากคุกอินเดียใน พ.ศ. 2540 ก็เดินทางไปอยู่อาศัยในชานเมืองปารีส เป็นเวลา 6 ปี
และเขาก็ได้กระทำสิ่งผิดพลาดครั้งสำคัญในชีวิต คือเดินทางกลับไปเนปาล ดินแดนที่คดีความฆ่า 2 หนุ่มสาวเมื่อเดือนธันวาคม 2518 ยังไม่หมดอายุในเดือนกันยายน พ.ศ. 2546
เขาถูกจับในคาสิโนของโรงแรม Yak and Yeti กลางกรุงกาฐมัณฑุ หลังจากที่มีนักหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นพบเห็นเขาก่อนหน้า 2 วัน หลังจากสู้คดีความในศาลถึง 1 ปี ศาลก็ตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิต ซึ่งแน่นอนหลักฐานที่ใช้เกือบทั้งหมดมาจากเฮอร์แมน นิปเปนเบิร์ก ผู้กัดโสภราชอย่างไม่ปล่อย
เฮอร์แมน นิปเปนเบิร์ก บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด เกษียณอายุจากชีวิตนักการทูตในวันเดียวกับที่โสภราชถูกจับในคาสิโน เขาบอกว่าเขาไม่มีอะไรขุ่นข้องหมองใจเป็นส่วนตัวกับโสภราช เขาทำเพราะต้องการความยุติธรรมและเพื่อป้องกันเหยื่อรายใหม่ที่จะเกิดขึ้นมาอีก
by.ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด็อกเตอร์พันตำรวจเอกแพทย์หญิงคุณหญิงเชอร์รี่
ที่มา :
Spoil
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1471690199771963&id=1468628753411441
ตอนนี้ช่อง bbc ร่วมกับ netflix สร้างซีรี่ส์ฆาตกรคนนี้ขึ้นมา
ผมดูแล้ว เนื้อเรื่องและบรรยากาศกรุงเทพสมัยเก่า แมร่งสุดยอดจริง
ถ้าว่างๆไม่มีเรื่องไหนดู ผมแนะนำเรื่องนี้เลยคับ