BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
 
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
หน้าแรกบอร์ด >> บอลนอก
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
บ้ารึเปล่า?
นักบอลถ้วย ค.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 May 2010
ตอบ: 5517
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Apr 04, 2021 14:01
การถอดเสื้อดีใจแล้วโดนใบเหลืองนี่เริ่มเมื่อไหร่หรอครับ?
จำได้ว่าเกือบ20ปีก่อนยังทำได้อยู่เลย มารู้อีกทีก็โดนแล้วอ่ะ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
My Locker
ออฟไลน์
kitpokkrong
นักบอลถ้วย ค.
Status: 21.30 - 04.00
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 17 Nov 2006
ตอบ: 11436
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Apr 04, 2021 14:46
Top Comment [RE: การถอดเสื้อดีใจแล้วโดนใบเหลืองนี่เริ่มเมื่อไหร่หรอครับ?]
เหตุการณการถอดเสื้อที่โด่งดังที่สุดในโลกฟุตบอลนั้นต้องย้อนไปเมื่อปี 1999 ในเกมฟุตบอลโลกหญิงนัดชิงชนะเลิศ ระหว่างทีมชาติสหรัฐฯ กับ จีน

Brandi Chastain (แบรนดี้ คริสเตียน) ซัดจุดโทษตัดสินในลูกสุดท้ายช่วยให้ทีมสหรัฐฯ เอาชนะ จีน ไปได้ 5-4 คว้าแชมป์บอลโลกหญิงไปครองก่อนที่เธอจะฉลองชัยด้วยการถอดเสื้อเห็นบราชั้นใน ซึ่งภาพดังกล่าวกลายเป็นข้อถกเถียงกันอย่างมากโดยเฉพาะประเทศชาวมุสลิม ต่างออกมาแอนตี้กับพฤติกรรมดังกล่าว เพราะการแข่งขันกีฬาฟุตบอลนั้นถ่ายทอดทั่วโลก และควรจะเป็นสิ่งที่ชาวโลกทุกคนควรดูได้ แต่สรุปท้ายเรื่องนี้ฟีฟ่าก็ยังไม่มีกฎข้อบังคับถึงเรื่องถอดเสื้อดีใจอย่างจริงจัง
ส่วนเหตุผลอื่นนอกจากเรื่องศาสนาแล้ว ยังมีเรื่องของข้อความจากเสื้อตัวในของนักเตะที่มักจะมีข้อความ ล่อแหลม เสียดสี ไม่เหมาะสม เรื่องการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังมีเรื่องรอยสักของนักเตะ ที่อาจจะเป็นตราสัญลักษณ์ทางลัทธิ ซึ่งล้วนแต่สิ่งที่ไม่เหมาะสมกับผู้ชมโดยเฉพาะเด็กเยาวชมที่รับชมการแข่งขันในแมตช์นั้น ซึ่งแน่นอนว่าทีมงานการถ่ายทอดไม่มีทางจะเซนเซอร์ถ้อยคำหรือสัญลักษณ์บนตัวนักเตะได้ทันท่วงที
แต่อย่างไรก็ดีในเดือนมิถุนายนปี 2004 ฟีฟ่า ก็ออกมาประกาศกฎและบทลงโทษเรื่องการถอดเสื้อดีใจออกมาเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างชัดเจนในศึกยูโร 2004 ที่โปรตุเกสว่านักเตะที่เจตนาถอดเสื้อจะต้องรับใบเหลืองเป็นการลงโทษถึงการกระทำดังกล่าว ซึ่งกฎนั้นครอบคลุมถึงการถอดเสื้อโบกเหนือหัว โยนเสื้อทิ้ง ถลกเสื้อคลุมหัว ล้วนจะโดนใบเหลืองทั้งสิ้น และกฎดังกล่าวจะครอบคลุมการแข่งขันฟุตบอลทั่วโลกภายใต้การดูแลของฟีฟ่า คำถามคือ ย้อนกลับไปเมื่อปี 1999 จนถึงปี 2004 มีการถอดเสื้อฉลองชัยมากมายหลายครั้ง จากหลายๆลีกทั่วโลกแล้วทำไม ฟีฟ่า ถึงทิ้งระยะเวลาให้เนินนานแบบนี้

มีบทความหนึ่งของนักข่าวชาวสหรัฐฯ ได้เขียนระบุเหตุผลที่ดูจะมีน้ำหนักและน่าสนใจที่ทำให้ ฟีฟ่า เขียนกฎเรื่องการถอดเสื้อแข่งออกมาเป็นลายลักลักษณ์อักษร ก็เพราะเหตุผลเรื่อง “สปอนเซอร์” เป็นสำคัญ เพราะช็อตการยิงประตูการเฉลิมฉลอง การดีใจ ของนักเตะเจ้าของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น บริษัท 3 ขีด บริษัท เครื่องหมายถูก ก็ต้องการให้ช็อตๆนั้น มีโลโก้ของตัวเองติดตาเป็นภาพข่าว ติดตาแฟนบอลไปตลอด โดยเฉพาะเหตุการณ์ล่าสุดกับช็อตดีใจของ โรนัลโด้ ที่เจ้าตัวถอดเสื้อเบ่งกล้าม โยนเสื้อทิ้งเล่นเอาสปอนเซอร์เสื้อแข่งของ เรอัล มาดริด นั้นเซ็งอยู่ไม่น้อย แต่ผลิตภัณฑ์รองเท้าสตั๊ดของ โรนัลโด้ คงได้แต่ยิ้มเยาะที่เห็น โรนัลโด้ โยนเสื้อแข่งทิ้งแบบไม่ไยดี

และอีกเหตุการณ์ที่ บริษัท 3 ขีด เซ็งไม่น้อยคือ ช็อตการดีใจของ อันเดรส อิเนียสต้า กับจังหวะดีใจถอดเสื้อหลังยิงประตูชัยให้ทีมชาติสเปนเอาชนะฮอลแลดน์ได้ในศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้ ซึ่งแน่นอนว่าภาพดังกล่าวเป็นภาพประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลไปอีกนานแต่กลับไม่มีโลโก้ บริษัท 3 ขีดเลยแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำ บริษัท 3 ขีด ยังเป็นสปอนเซอร์หลักของศึกฟุตบอลโลกที่ฟีฟ่าเป็นผู้รับรองแต่ไม่สามารถโชว์โลโก้ของลูกค้ารายใหญ่ได้ สรุปสุดท้ายแล้ว ติช เต ฉ่อ เชื่อว่าการแสดงออกของแต่ละคนนั้นย่อมแต่งต่างกันไป แต่การดีใจที่มีแนวโน้มผิดกฎหรือผิดศีลธรรม กินกว่าคำว่าเหมาะสมย่อมเป็นเรื่องที่ไม่ควร เพราะกีฬาฟุตบอลเป็นกีฬาของมนุษยโลกและสิ่งเหล่านี้ผลกระทบต่อเยาวชนโดยตรง
48
0
หากโดน 82 เรื้อน จะถูกแบน
- A g U A r O ~ , ZXCx007 , FernandoSuarez , BLIИK , Mr.Wayne , พยายาม ๑๙ , SIXZZEXZ , assassin9991 , song barca , EssentiaL , itmyway , MilanBaros , JackSparrow , toffyman , imp.Elegantz , extinction , B777-300 , khonhimkhong , bug_kop , BorBee , sixhearts , RingoStarr , noeychansuthep , Dentyne , หมาแดกแฟบ , SudsoiFC , giggscii , growthseek , billitubu , SaInTz , LoversMoon , Nakata_sushi , danizola , FR4NK , Broune , BaLL แจ้ , ManSmith , บ้ารึเปล่า? , glassboy , แฮปปี้นิวเยียร์ , Merge , Sir_Hadis , Benzakiko , markmoney , rafalution , เอาฮาหรือเอาจริง , sanyo , 4-3-3
My Locker
ออฟไลน์
★จอห์นミเล่นหนอน★
ผู้จัดการทีมชั่วคราว
Status: ʕ•ᴥ•ʔﾉLFC.
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 28 Dec 2017
ตอบ: 52600
ที่อยู่: ปีหน้าเรามาแน่ !!!!!!!!!!!! เข้าร่วม: 14 Feb 1993
โพสเมื่อ: Sun Apr 04, 2021 14:04
[RE: การถอดเสื้อดีใจแล้วโดนใบเหลืองนี่เริ่มเมื่อไหร่หรอครับ?]
น่าจะช่วงยูโร 2004 หรือเปล่า
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
บ้ารึเปล่า?
My Locker
ออฟไลน์
Murinye
ดาวเตะลา ลีกา
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Jun 2015
ตอบ: 11222
ที่อยู่: Estadio De Mestalla
โพสเมื่อ: Sun Apr 04, 2021 14:38
[RE: การถอดเสื้อดีใจแล้วโดนใบเหลืองนี่เริ่มเมื่อไหร่หรอครับ?]


เพราะมีเหตุการณ์แบบนี้ล่ะ ถึงได้มีการนำกฏนี้มาใช้
3
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
Sigma69 , the_aquatic , บ้ารึเปล่า?
4bbDC0.gif
4bbGoQ.gif
My Locker
ออฟไลน์
kitpokkrong
นักบอลถ้วย ค.
Status: 21.30 - 04.00
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 17 Nov 2006
ตอบ: 11436
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Apr 04, 2021 14:46
[RE: การถอดเสื้อดีใจแล้วโดนใบเหลืองนี่เริ่มเมื่อไหร่หรอครับ?]
เหตุการณการถอดเสื้อที่โด่งดังที่สุดในโลกฟุตบอลนั้นต้องย้อนไปเมื่อปี 1999 ในเกมฟุตบอลโลกหญิงนัดชิงชนะเลิศ ระหว่างทีมชาติสหรัฐฯ กับ จีน

Brandi Chastain (แบรนดี้ คริสเตียน) ซัดจุดโทษตัดสินในลูกสุดท้ายช่วยให้ทีมสหรัฐฯ เอาชนะ จีน ไปได้ 5-4 คว้าแชมป์บอลโลกหญิงไปครองก่อนที่เธอจะฉลองชัยด้วยการถอดเสื้อเห็นบราชั้นใน ซึ่งภาพดังกล่าวกลายเป็นข้อถกเถียงกันอย่างมากโดยเฉพาะประเทศชาวมุสลิม ต่างออกมาแอนตี้กับพฤติกรรมดังกล่าว เพราะการแข่งขันกีฬาฟุตบอลนั้นถ่ายทอดทั่วโลก และควรจะเป็นสิ่งที่ชาวโลกทุกคนควรดูได้ แต่สรุปท้ายเรื่องนี้ฟีฟ่าก็ยังไม่มีกฎข้อบังคับถึงเรื่องถอดเสื้อดีใจอย่างจริงจัง
ส่วนเหตุผลอื่นนอกจากเรื่องศาสนาแล้ว ยังมีเรื่องของข้อความจากเสื้อตัวในของนักเตะที่มักจะมีข้อความ ล่อแหลม เสียดสี ไม่เหมาะสม เรื่องการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังมีเรื่องรอยสักของนักเตะ ที่อาจจะเป็นตราสัญลักษณ์ทางลัทธิ ซึ่งล้วนแต่สิ่งที่ไม่เหมาะสมกับผู้ชมโดยเฉพาะเด็กเยาวชมที่รับชมการแข่งขันในแมตช์นั้น ซึ่งแน่นอนว่าทีมงานการถ่ายทอดไม่มีทางจะเซนเซอร์ถ้อยคำหรือสัญลักษณ์บนตัวนักเตะได้ทันท่วงที
แต่อย่างไรก็ดีในเดือนมิถุนายนปี 2004 ฟีฟ่า ก็ออกมาประกาศกฎและบทลงโทษเรื่องการถอดเสื้อดีใจออกมาเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างชัดเจนในศึกยูโร 2004 ที่โปรตุเกสว่านักเตะที่เจตนาถอดเสื้อจะต้องรับใบเหลืองเป็นการลงโทษถึงการกระทำดังกล่าว ซึ่งกฎนั้นครอบคลุมถึงการถอดเสื้อโบกเหนือหัว โยนเสื้อทิ้ง ถลกเสื้อคลุมหัว ล้วนจะโดนใบเหลืองทั้งสิ้น และกฎดังกล่าวจะครอบคลุมการแข่งขันฟุตบอลทั่วโลกภายใต้การดูแลของฟีฟ่า คำถามคือ ย้อนกลับไปเมื่อปี 1999 จนถึงปี 2004 มีการถอดเสื้อฉลองชัยมากมายหลายครั้ง จากหลายๆลีกทั่วโลกแล้วทำไม ฟีฟ่า ถึงทิ้งระยะเวลาให้เนินนานแบบนี้

มีบทความหนึ่งของนักข่าวชาวสหรัฐฯ ได้เขียนระบุเหตุผลที่ดูจะมีน้ำหนักและน่าสนใจที่ทำให้ ฟีฟ่า เขียนกฎเรื่องการถอดเสื้อแข่งออกมาเป็นลายลักลักษณ์อักษร ก็เพราะเหตุผลเรื่อง “สปอนเซอร์” เป็นสำคัญ เพราะช็อตการยิงประตูการเฉลิมฉลอง การดีใจ ของนักเตะเจ้าของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น บริษัท 3 ขีด บริษัท เครื่องหมายถูก ก็ต้องการให้ช็อตๆนั้น มีโลโก้ของตัวเองติดตาเป็นภาพข่าว ติดตาแฟนบอลไปตลอด โดยเฉพาะเหตุการณ์ล่าสุดกับช็อตดีใจของ โรนัลโด้ ที่เจ้าตัวถอดเสื้อเบ่งกล้าม โยนเสื้อทิ้งเล่นเอาสปอนเซอร์เสื้อแข่งของ เรอัล มาดริด นั้นเซ็งอยู่ไม่น้อย แต่ผลิตภัณฑ์รองเท้าสตั๊ดของ โรนัลโด้ คงได้แต่ยิ้มเยาะที่เห็น โรนัลโด้ โยนเสื้อแข่งทิ้งแบบไม่ไยดี

และอีกเหตุการณ์ที่ บริษัท 3 ขีด เซ็งไม่น้อยคือ ช็อตการดีใจของ อันเดรส อิเนียสต้า กับจังหวะดีใจถอดเสื้อหลังยิงประตูชัยให้ทีมชาติสเปนเอาชนะฮอลแลดน์ได้ในศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้ ซึ่งแน่นอนว่าภาพดังกล่าวเป็นภาพประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลไปอีกนานแต่กลับไม่มีโลโก้ บริษัท 3 ขีดเลยแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำ บริษัท 3 ขีด ยังเป็นสปอนเซอร์หลักของศึกฟุตบอลโลกที่ฟีฟ่าเป็นผู้รับรองแต่ไม่สามารถโชว์โลโก้ของลูกค้ารายใหญ่ได้ สรุปสุดท้ายแล้ว ติช เต ฉ่อ เชื่อว่าการแสดงออกของแต่ละคนนั้นย่อมแต่งต่างกันไป แต่การดีใจที่มีแนวโน้มผิดกฎหรือผิดศีลธรรม กินกว่าคำว่าเหมาะสมย่อมเป็นเรื่องที่ไม่ควร เพราะกีฬาฟุตบอลเป็นกีฬาของมนุษยโลกและสิ่งเหล่านี้ผลกระทบต่อเยาวชนโดยตรง
48
0
หากโดน 82 เรื้อน จะถูกแบน
- A g U A r O ~ , ZXCx007 , FernandoSuarez , BLIИK , Mr.Wayne , พยายาม ๑๙ , SIXZZEXZ , assassin9991 , song barca , EssentiaL , itmyway , MilanBaros , JackSparrow , toffyman , imp.Elegantz , extinction , B777-300 , khonhimkhong , bug_kop , BorBee , sixhearts , RingoStarr , noeychansuthep , Dentyne , หมาแดกแฟบ , SudsoiFC , giggscii , growthseek , billitubu , SaInTz , LoversMoon , Nakata_sushi , danizola , FR4NK , Broune , BaLL แจ้ , ManSmith , บ้ารึเปล่า? , glassboy , แฮปปี้นิวเยียร์ , Merge , Sir_Hadis , Benzakiko , markmoney , rafalution , เอาฮาหรือเอาจริง , sanyo , 4-3-3
My Locker
ออฟไลน์
PaNuNu
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: 500 Internal server error
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2009
ตอบ: 18241
ที่อยู่: Hanoi Vietnam
โพสเมื่อ: Sun Apr 04, 2021 16:40
[RE: การถอดเสื้อดีใจแล้วโดนใบเหลืองนี่เริ่มเมื่อไหร่หรอครับ?]
ทำไมกีฬาอื่นๆไม่ค่อยเห็นนักกีฬาดีใจเเล้วถอดเสื้อ ถ่มน้ำลายอีกกีฬาอื่นๆก็ไม่ค่อยมี

ถ้าบอกว่าน้ำลายเหนียวต้องถ่ม นักบาสวิ่งเยอะพอๆกันไม่ยักกะเห็นเค้าถ่มน้ำลาย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
My Locker
ออฟไลน์
extinction
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 Jun 2008
ตอบ: 1561
ที่อยู่: OlD Trafford / ณ เทพศิรินทร์
โพสเมื่อ: Sun Apr 04, 2021 16:44
[RE: การถอดเสื้อดีใจแล้วโดนใบเหลืองนี่เริ่มเมื่อไหร่หรอครับ?]
หลังจากนั้นก็มีเหตุการณ์ถอดกางเกงแทน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
เดินตามรอยเท้าผู้อื่น ก็มิอาจมีรอยเท้าของตนเอง
My Locker
ออฟไลน์
สูงสุดคืนสู่สามัญ
ดาวเตะกัลโช่
Status: เราจักไม่เป็นเช่นต้นไม้ที่มีผลนั้น
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 31 Aug 2006
ตอบ: 11046
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Apr 04, 2021 17:13
[RE: การถอดเสื้อดีใจแล้วโดนใบเหลืองนี่เริ่มเมื่อไหร่หรอครับ?]
PaNuNu พิมพ์ว่า:
ทำไมกีฬาอื่นๆไม่ค่อยเห็นนักกีฬาดีใจเเล้วถอดเสื้อ ถ่มน้ำลายอีกกีฬาอื่นๆก็ไม่ค่อยมี

ถ้าบอกว่าน้ำลายเหนียวต้องถ่ม นักบาสวิ่งเยอะพอๆกันไม่ยักกะเห็นเค้าถ่มน้ำลาย  


บาส ถ่มไม่ได้ น่าจะเกี่ยวกับเรื่อง พื้นสนาม ผมว่าลื่นเอาได้ 5555

แต่สนามบอล สบายๆ

บาสน้ำลายไม่มีให้ถ่มล่ะ เหนียวมาก
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
Jacaranda
My Locker
ออฟไลน์
บ้ารึเปล่า?
นักบอลถ้วย ค.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 May 2010
ตอบ: 5517
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Apr 23, 2021 15:27
[RE: การถอดเสื้อดีใจแล้วโดนใบเหลืองนี่เริ่มเมื่อไหร่หรอครับ?]
ขอบคุณครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
My Locker
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
หน้าแรกบอร์ด >> บอลนอก
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel