'เด็มเบเล่' เบิกร่อง! 'น้องเป้' พลาดโทษ น้ำหอมยังอัดคาซัคฯ 2-0
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
ไม่ใช่งานยากสำหรับ ทีมชาติฝรั่งเศส สักเท่าไหร่เมื่อได้ประตูนำก่อนจาก อุสมาน เด็มเบเล่ ก่อนที่ เซอร์เก มาลีย์ สงเคราะห์ยิงเข้าประตูตัวเองไปและพวกเขาน่าจะมีเพิ่มอีกแต่ คิลิยัน เอ็มบาปเป้ พลาดจุดโทษ ถึงอย่างนั้น น้ำหอม ยังเอาชนะ คาซัคสถาน ไป 2-0 เก็บชัยนัดแรกในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก
คาซัคสถาน
Starting Formation: 5-4-1
7.
รุสลาน วาลิอุลลิน

83'
5.5
14.
วลาดิลาฟ วาสซิลเยฟ

88'
5.5
13.
อาซัท นูร์กาลิเยฟ

83'
5.5
10.
เซริคจาน มูจิคอฟ

65'
5.5
20.
มักซิม เฟดิน

65'
5.5
ตัวสำรอง
16.
เยร์เคบูลัน ทุนกีชบาเยฟ

65'
5.5
11.
ยาน โวโรกอฟสกี้

65'
6.0
19.
รามาซาน คาริมอฟ

83'
-
9.
เอลคาน อัสตานอฟ

88'
-
5.
มัคซิม ซาโมโรดอฟ

83'
-
ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม ดี
สนาม อัสตาน่า สเตเดี้ยม
วันที่ 28 มีนาคม 2564
กรรมการ อเลียคเซ คูลบาคอฟ
คาซัคสถาน
0
2
ฝรั่งเศส
0-1 เด็มเบเล่ 19'
0-2 มาลีย์ 44' (Og.)
นักเตะของ คาซัคสถาน ไม่ได้ชื่อคุ้นหูเท่าไหร่นักแต่ตัวที่ติดทีมชาติบ่อยๆเช่น มัลยี่ และ นูร์กาลิเยฟ ได้ออกสตาร์ท
ส่วนทางด้าน ฝรั่งเศส เปลี่ยนไลน์อัพจากเกมก่อนหลายตำแหน่งเลยยกเว้น ญอริส และ กรีซมันน์ เป็นตัวจริงต่อ นอกจากนี้ ป็อกบา ก็ได้ออกสตาร์ทด้วย
ช่วงแรกน้ำหอมมีโอกาสไม่เยอะนัก อ๋อง สับไกติดบล็อก
เริ่มมา ฝรั่งเศส ไม่ได้เล่นง่ายสักเท่าไหร่นักทาง คาซัคสถาน บีบพื้นที่กันได้ดีและโอกาสหนเดียวที่พวกเขามีคือ กรีซมันน์ สับไกหน้าเขตโทษติดบล็อก
น้ำหอมนำแล้ว! มาเที่ยว จ่ายให้ เด็มเบเล่ ยิงเสียบเสาไกล
แล้วหลังหาโอกาสดีๆได้ ฝรั่งเศส ก็ออกนำเรียบร้อย กับจังหวะที่ ป็อกบา จ่ายขึ้นหน้ามาให้กับ มาร์กซิยาล จับบอลพลิกหนีตัวประกบมาหน้าเขตโทษแล้วส่งต่อ เด็มเบเล่ ขวามือเป็นคนสับไกในเขตโทษเข้าเสาไกล ฝรั่งเศส ออกนำ 1-0
คาซัคฯขอลุ้นหน่อยแต่ วาลิอุลลิน ยิงไกลโด่งลิบ
ทางฝั่ง คาซัคฯ ได้โอกาสลุ้นหนแรกกันบ้างกับจังหวะฟรีคิกทางซ้ายเปิดเข้ามาก็โดนสกัดทิ้ง บอลมาเข้าทางของ วาลิอุลลิน วิ่งมายิงเลยแต่ก็ทำได้แค่ส่งบอลโด่งออกหลัง
น้ำหอมมาอีก เลอมาร์ ยิงติดวพกเดียวกัน
ฝรั่งเศส บุกมาหาโอกาสได้ใหม่ภายหลังบอลมาถึง ดีญ ทางซ้ายทำชิ่งกับ มาร์กซิยาล เข้าเขตโทษแล้วหักกลับมาบอลมาถึง เลอมาร์ วิ่งมายิงแต่ติดบล็อกพวกเดียวกันเอง
เกือบจะสอง! มาเที่ยว กำลังจะโหม่งจ่อๆเจอสกัดทัน
ก่อนหมดครึ่งแรก น้ำหอม เกือบได้ประตูเพิ่มแล้วหลัง โมคิน โดนบีบถึงหน้าประตูตัวเองเลยรีบเตะทิ้งขึ้นมาไม่ดีเข้าทาง เด็มเบเล่ ไหลมาหน้าเขตโทษให้ กรีซมันน์ ส่งต่อ เลอมาร์ ซ้ายมือแล่บเข้าไปชิพให้ มาร์กซิยาล กำลังจะโหม่งจ่อๆแต่โดนสกัดทิ้งทันหวุดหวิด
แจกให้! มาลีย์ โหม่งเตะมุมเข้าประตูตัวเอง น้ำหอมทิ้งห่าง
แต่แล้ว ฝรั่งเศส ยังได้ประตูเพิ่มอยู่ดีด้วยจังหวะเตะมุมทางซ้ายที่ กรีซมันน์ เปิดโด่งเข้ามาแล้ว มาลีย์ ดันโหม่งไม่ดีเข้าประตูตัวเองไปทำให้ ฝรั่งเศส นำห่าง 2-0
อ๋อง ยิงเข้าไปแต่ก็โดนจับล้ำหน้า
กลับมาครึ่งหลัง ฝรั่งเศส ส่งบอลเข้าประตูไปได้แต่ยังไม่เป็นลูกสาม ภายหลัง เด็มเบเล่ โดนทำฟาวล์หน้าเขตโทษเลือกเล่นเร็วจ่ายให้ มาร์กซิยาล แทงต่อถึง กรีซมันน์ ในกรอบยิงเข้าแต่ก็ล้ำหน้า
น้ำหอมได้ฟรีคิก มาเที่ยว ยิงไปติดเซฟ
ฝรั่งเศส ได้ฟรีคิกหน้าเขตโทษเยื้องทางซ้ายนิดนึงระยะกำลังน่าลุ้นเลย มาร์กซิยาล เป็นคนรับหน้าที่ปั่นไปเสาสองโดนเซฟไว้บอลยังออกมาหน้าเขตโทษ ป็อกบา ยิงอีกทีแฉลบออกหลังจะฟ้องจุดโทษเพราะโดนแขนแต่กรรมการไม่ให้
เตะมุมน้ำหอมจบด้วย ล็องเกลต์ โหม่งไปติดเซฟ
ฝรั่งเศส ได้ลุ้นอีกครั้งด้วยเตะมุมทางขวาเปิดเข้ามามี ล็องเกลต์ โหม่งได้แต่ยังตรงตัว โมคิน แล้ว ซูม่า จะตามเข้าไปซ้ำแต่ก็ไม่ได้
น้ำหอมยังไม่สาม เด็มเบเล่ โหม่งเจอปัดทิ้ง
เกือบมีประตูเพิ่มให้กับ ฝรั่งเศส อีกแล้วหลังไล่บีบจนถึงเขตโทษทำให้ โมคิน ต้องรีบเตะทิ้งมาเข้าทาง ดูบัวส์ พาบอลลุยขึ้นมาแล้วครอสให้ เด็มเบเล่ โหม่งได้แต่ โมคิน ปัดทิ้งออกไป
น้ำหอมได้จุดโทษ! น้องเป้ ลุกมายิงเองโดนเซฟได้
สุดท้าย ฝรั่งเศส ก็มาได้จุดโทษเข้าให้กับจังหวะที่จ่ายให้ เอ็มบาปเป้ ในเขตโทษพยายามล็อกหลอกเพื่อหาโอกาสยิงสุดท้ายโดนสกัดล้มลง
เอ็มบาปเป้ ลุกมายิงเองแต่เจอ โมคิน พุ่งปัดเอาไว้ได้ทำให้ยังไม่มีประตูเพิ่มสักที
น้ำหอมมาอีก ราบิโอต์ ยิงมุมแคบก็ยังไม่ผ่าน โมคิน
เข้าท้ายเกมแล้ว น้ำหอม ยังบุกไม่หยุดได้ลุยขึ้นมาอีกทีโดย ดีญ ริมเส้นซ้ายพาบอลขึ้นมาแล้วไหลเข้าเขตโทษให้ ราบิโอต์ สอดไปมุมแคบยิงยัดเลยแต่ โมคิน เซฟเอาไว้ได้อีก
น้ำหอมลุ้นอีกอีกสักลูก น้องเป้ ยังซัดไม่ผ่าน
ก่อนหมดเวลา ฝรั่งเศส ขอลุ้นประตูปิดท้ายด้วยจังหวะบุกกลับมาทางขวา โคมัน หักเข้ามาหน้าเขตโทษแล้วไหลให้ เอ็มบาปเป้ โฉบไปยิงในกรอบก็โดนเซฟไว้
จบเกม ฝรั่งเศส เอาชนะ คาซัคสถาน 2-0 เก็บชัยชนะนัดแรกของรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกและขยับขึ้นมาเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม ดี
ฝรั่งเศส
Starting Formation: 4-2-3-1
13.
ต็องกี เอ็นดอมเบเล่

82'
6.0
6.
ปอล ป็อกบา

60'
6.0
11.
อุสมาน เด็มเบเล่

90'
7.0
7.
อ็องตวน กรีซมันน์

59'
6.0
20.
อ็องโธนี่ มาร์กซิยาล

59'
7.0
ตัวสำรอง
17.
มุสซ่า ซิสโซโก้

82'
-
22.
วิสซาม เบน เยดแดร์

59'
5.5
14.
อาเดรียง ราบิโอต์

60'
6.0
15.
คิงสลี่ย์ โคมัน

90'
-
10.
คิลิยัน เอ็มบาปเป้

59'
5.5
แก้ไขล่าสุดโดย redenzo เมื่อ Sun Mar 28, 2021 22:53, ทั้งหมด 5 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ