KDB,บิ๊กตู้ ซัด! "เบลเยี่ยม" แซงอัดเวลส์ 3-1 เปิดหัวคัดบอลโลก
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
เบลเยี่ยม ทีมแรงกิ้งอันดับ 1 ของโลก เปิดบ้านโดน เวลส์ บุกไปนำก่อนหัววัน แต่พวกเขาก็มายิงคืนสามลูกรวดจาก เควิน เดอ บรอยน์, ดรีส เมอร์เทนส์ และจุดโทษของ โรเมลู ลูกากู ทำให้แซงชนะ 3-1 เปิดตัวเก็บชัยชนะในนัดแรกศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือกโซนยุโรป กลุ่มอี
เบลเยี่ยม
Starting Formation: 3-4-2-1
3.
โธมัส แฟร์มาเล่น

46'
6
10.
ธอร์กาน อาซาร์

83'
7
14.
ดรีส เมอร์เทนส์

90+2'
7
ตัวสำรอง
11.
เลอันโดร ทรอสซาร์

90+2'
-
4.
เจสัน ดีนาเยอร์

46'
6
21.
ทิโมธี คาสตาเญ่

83'
6
ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนยุโรป กลุ่ม E
สนาม เดน เดรฟ
พุธที่ 25 มีนาคม 2564
กรรมการ คูเนย์ต ชาเคียร์
เบลเยี่ยม
3
1
เวลส์
1-1 เดอ บรอยน์ 22'
2-1 เมอร์เทนส์ 28'
3-1 ลูกากู 73' (Pen.)
เบลเยี่ยม ทีมเบอร์หนึ่งของโลกมาเล่นในระบบ 3-4-2-1 โดยให้ ลูกากู ค้ำหน้าและมี เดอ บรอยน์,เมอร์เทนส์ คอยหนุน อาซาร์,มูนิเยร์ ป่วนริมเส้น และให้ เดนดองเกอร์,ทีเลอม็องส์ คุมกลาง แนวรับสามคนเป็น แฟร์ทองเก้น,อัลเดอร์ไวเรลด์,แฟร์มาเล่น และ คูร์กตัวส์ เฝ้าเสา
เวลส์ บุกไปเล่น 3-4-3 โดยแนวรุกมี วิลสัน,เบล,เจมส์ แผงกลางเป็น อัลเลน,อัมปาดู,วิลเลียมส์,โรเบิร์ตส์ แนวรับมี เมแฟม,โรดอน,ลอว์เรนซ์ และ วอร์ด เฝ้าเสา
• เจอกัน 4 นัดหลังทุกรายการ เวลส์ ชนะ 2 เสมอ 2
อัลเลนซวยเจ็บหัววัน
เริ่มเกมมาไม่ทันไรเวลส์โชคร้ายเสียโควต้าเปลี่ยนตัวคนแรกเมื่ออัลเลนมีอาการเจ็บเล่นต่อไม่ไหว ทำให้เป็นมอร์เรลล์ที่ได้ลงไปยืนกลางแทน
เวลส์ทำสวย!เบลเคาะให้วิลสันหลุดแปหาย 1-0
ทำไปทำมาเป็นเวลส์ที่ได้ประตูออกนำไปก่อน จากจังหวะที่ต่อสวนกลับขึ้นมา โรเบิร์ตส์ไหลให้เบลที่ที่หน้ากรอบเขตโทษ เขาเคาะจังหวะเดียวให้วิลสันหลุดไปในกรอบฝั่งขวา ก่อนที่วิลสันจะบรรจงแปด้วยซ้ายสวนตัวคูร์กตัวส์เรียดเสียบเสาสอง 1-0 ของทีมเยือนไปเลย
ทีเลอม็องส์ซัดแฉลบบล็อค
เบลเยี่ยมพยายามบุกเอาประตูตีเสมอ จังหวะนี้ทีเลอม็องได้โอกาสวางเท้าวอลเลย์แถวสองด้วยขวา บอลพุ่งไปแฉลบบล็อคหลุดกรอบได้แค่ลูกเตะมุม
ลูกากาชาร์จจ่อปลิ้นข้ามคาน
เบลเยี่ยมน่าได้ประตูตีเสมอแบบสุดๆ จากจังหวะที่เดอ บรอยน์มีเวลาตั้งป้อมครอสจากฝั่งขวาพุ่งโค้งไปหน้าประตู บอลเลยถึงเสาสองให้ลูกากูล้มตัวชาร์จด้วยซ้ายจ่อๆ แต่ปลิ้นหลุดข้ามคานไปเฉยเลย
เด็ดขาด! KDB กดด้วยขวานอกกรอบไม่เหลือ
แล้วเบลเยี่ยมก็มาได้ประตูตีเสมอสมสม จากขังหวะที่เหมือนจะไม่มีอะไร อาซาร์ไหลบอลมาให้เดอ บรอยน์ที่หน้ากรอบเขตโทษ เขาจับแต่งเข้าขวาแล้วซัดเน้นๆ บอลพุ่งแรงผ่านมือวอร์ดตุงตาข่ายเด็ดขาด 1-1 ไปเลย
แซงอย่างไว!เมอร์เทนส์โขกโล่งเบลเยี่ยมนำ 2-1
หลังจากตีเสมอได้ไม่นานเบลเยี่ยมก็มาได้ประตูแซงนำเป็น 2-1 จากจังหวะที่เดอ บรอยน์ไหลให้มูนิเยร์หลุดไปทางมุมธงฝั่งขวา เขาเปิดจังหวะเดียวโค้งไปเสาสองให้เมอร์เทนส์ได้โหม่งโล่งๆย้อนศรผ่านมือวอร์ดตุงตาข่าย
อาซาร์ลองส่องไกลข้ามคาน
โอกาสอีกครั้งของเบลเยี่ยม อาซาร์รับบอลจากลูกากูหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนแต่งเข้าขวาแล้วซัดเน้นๆ บอลพุ่งแรงหลุดข้ามคานออกหลังไป
สุดท้ายจบครึ่งแรกเป็นเบลเยี่ยมที่นำอยู่ 2-1 โดยพวกเขาโดนเวลส์นำก่อนจากลูกยิงของวิลสัน ก่อนที่จะเร่งเกมบุกยิงแซงได้จากเดอ บรอยน์กับเมอร์เทนส์
เบลจักรยานอากาศปลิ้นหลุดกรอบ
โอกาสแรกในครึ่งหลังเป็นของเวลส์ จังหวะที่เจมส์ตวัดยกบอลมาที่หน้าปากประตูแล้วเบลพยายามกลับตัวตีลังกายิง แต่ก็โดนไม่เต็มทำให้บอลปลิ้นหลุดกรอบ
เจมส์ลากตัดซัดหลุดเสาสอง
อีกครั้งของทีมเยือน จังหวะที่วิลเลียมส์จ่ายให้เจมส์ทางริมกรอบฝั่งซ้าย เขาติดเครื่องลากตัดเข้าไปในกรอบกรอบก่อนปั่นด้วยขวาแต่บอลพุ่งแรงหลุดเสาสองไป
เดอ บรอยน์ซัดแถวสองหลุดกรอบ
โอกาสของเบลเยี่ยมบ้าง เป็นจังหวะที่เวลส์เล่นผิดพลาดในกรอบเขตโทษตัวเอง ลูกากูพยายามฉวยโอกาสแล้วได้ยิงไปติดบล็อค บอลเด้งออกมาหน้ากรอบเขตโทษเข้าทางเดอ บรอยน์ที่ได้เหลี่ยมซัดด้วยขวาพุ่งแรงหลุดกรอบไปอยู่ดี
เวลส์เซ็งพลาดเสียโทษ!บิ๊กตู้สังหารไม่พลาด
ทำไปทำมาเบลเยี่ยมมาได้จุดโทษจากจังหวะที่เมอร์เทนส์โฉบถึงบอลในกรอบเขตโทษแล้วโดนเมแฟมหวดล้ม ผู้ตัดสินเป่านกหวีดแบบไม่ลังเลก่อนที่จะเป็นลูกากูที่รับหน้าที่สืบเท้าสังหารด้วยซ้ายพ่งไปทางขวามือหมดสิทธิ์สำหรับวอร์ดที่ไปผิดทาง 3-1 เจ้าถิ่นหนีห่าง
เมอร์เทนส์ซัดไกลเข้ามือวอร์ด
เบลเยี่ยมยังครองบอลบุกหวังเอาเพิ่ม จังหวะนี้เดอ บรอยน์ไหลให้เมอร์เทนส์แต่งซัดด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลก็พุ่งไปตรงตัวติดเซฟวอร์ด
เบลเยี่ยมประเดิมสามแต้ม
จบเกมเป็นเบลเยี่ยมเปิดบ้านแซงเอาชนะ 3-1 ทำให้เก็บสามแต้มประเดิมนัดแรกในการคัดเลือกฟุตบอลโลก 2022 โซนยุโรป กลุ่มอี และเป็นการชนะเวลส์ครั้งแรกในรอบ 5 นัดหลัง
เวลส์
Starting Formation: 3-4-3
10.
แฮร์รี่ วิลสัน

66'
7
7.
โจ อัลเลน

8'
6
11.
แกเร็ธ เบล

84'
7
ตัวสำรอง
13.
คีฟเฟอร์ มัวร์

84'
6
16.
โจ มอร์เรลล์

8'
6
18.
ไทเลอร์ โรเบิร์ตส์

66'
6
แก้ไขล่าสุดโดย MEGITSAMA เมื่อ Thu Mar 25, 2021 04:44, ทั้งหมด 7 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ