ซัวเรซ ซัดชัย! "ตราหมี" แซงเฉือนบิลเบา 2-1 นำฝูง 6 แต้ม
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
แอตเลติโก้ มาดริด วันนี้เริ่มต้นได้ไม่ดีนักและโดน แอธเลติก บิลเบา บุกมานำตั้งแต่ครึ่งแรก ก่อนจะได้ มาร์กอส ญอเรนเต้ โขกตีเสมอและสุดท้ายเป็น หลุยส์ ซัวเรซ ที่เรียกจุดโทษและยิงเองช่วยให้ทีมแซงชนะไป 2-1 นำเป็นจ่าฝูงห่าง บาร์เซโลน่า 6 แต้ม แต่แข่งเท่ากันแล้ว
แอตเลติโก้ มาดริด
Starting Formation: 4-4-2
21.
ยานนิค คาร์ราสโก้

89'
7.5
14.
มาร์กอส ญอเรนเต้

88'
7.5
11.
โธมัส เลอมาร์

67'
7.5
7.
เจา เฟลิกซ์

67'
7
9.
หลุยส์ ซัวเรซ

72'
7.5
ตัวสำรอง
4.
เจฟฟรีย์ ก็องด็อกเบีย

88'
-
5.
ลูคัส ตอร์เรร่า

72'
6
8.
ซาอูล ญิเกซ

67'
6.5
10.
อังเคล คอร์เรอา

67'
6
12.
เรนาน โลดี้

89'
-
ฟุตบอล ลา ลีกา
สนาม ว่านต๋า เมโทรโปลิตาโน่
พุธ ที่ 10 มีนาคม 2564
กรรมการ เชซุส กิล
แอตเลติโก้ มาดริด
2
1
แอธเลติก บิลเบา
1-1 มาร์กอส ญอเรนเต้ 45'
2-1 หลุยส์ ซัวเรซ 51' (Pen.)
แอตเลติโก้ มาดริด ทีมจ่าฝูงวันนี้จะขาดแค่ โฮเซ่ กิเมเนซ ที่ยังเจ็บแฮมสตริง และ เอคตอร์ เอร์เรร่า ที่ไม่มีชื่อในเกมนี้เนื่องจากปัญหาส่วนตัว
ส่วน บิลเบา อันดับที่ 8 เกมนี้จะไม่มีแค่ อินญิโก้ มาร์ติเนซ ที่ติดโทษแบน แต่จะได้ ยูริ เบร์ชิเช่ ฟิตกลับมามีชื่อเป็นตัวจริง
เลอมาร์ ได้ง้างเท้าซัดหน้ากรอบบอลติดบล็อค
เริ่มเกมมาเป็นฝั่งเจ้าบ้านโหมบุกเข้าพื้นที่อันตรายฝ่ายเดียวก่อนที่จังหวะนี้จะเป็น เลอมาร์ ที่เก็บบอลได้หน้ากรอบก่อนจะยิงสวนเข้าไปด้วยซ้ายแต่บอลก็ยังไปติดบล็อคไม่ได้ลุ้นอะไร
โอกาสแรกเป็นประตู! มูเนียอิน ซัดให้ทีมเยือนนำก่อน 1-0
โอกาสแรกของทีมเยือนกลายเป็นประตูทันที เริ่มจาก อิญากี้ ที่ได้บอลหลุดขึ้นมาถึงเกือบสุดเส้นขวาก่อนจะเปิดเข้ามาให้ มูเนียอิน ตรงกลางวิ่งเข้ามายิงด้วยขวาแต่แป๊กไปโดนหน้าแข้งทำ โอบล้ค หลงทางเด้งเข้าประตูไปไม่เหลือ
คาร์ราสโก้ ลากมาซัดเองเข้ามือ ซิมอน
จังหวะนี้ คาร์ราสโก้ พาบอลลากจากฝั่งซ้ายเข้ามาซัดเองด้วยขวาหน้ากรอบบอลพุ่งบดเข้าเสาแรกแต่ ซิมอน ยังล้มตัวคว้าไว้ติดมือไม่มีปัญหา
คาร์ราสโก้ ลากมาส่องเองอีกก็ยังไม่ผ่าน ซิมอน
กลายเป็นว่าทีมเยือนพอขึ้นนำแล้วก็ยังได้ครองบอลบุกต่ออีก เจ้าบ้านได้สวนกลับบ้างแล้วก็พอได้ลุ้นจากจังหวะนี้ที่ คาร์ราสโก้ คนเดิมลากบอลมาซัดด้วยขวาหน้ากรอบแต่บอลก็ยังไม่ผ่านมือ ซิมอน เหมือนเดิม
ซาวิช ได้ขึ้นโขกบอลยังไม่เข้าเป้า
จากจังหวะเตะมุมฝั่งขวาของเจ้าบ้าน เลอมาร์ เปิดเข้ามาให้ ซาวิช ที่สองเสาได้ลอยตัวขึ้นโขกคนเดิมแต่มุมมันแคบบอลเหินข้ามคานออกไป
ญอเรนเต้ โขกหาย! ตราหมี ตีเสมอจนได้ 1-1
ใกล้จะหมดครึ่งแรกอยู่แล้วแถมเกินช่วงทดเวลา 1 นาที แต่เจ้าบ้านมาได้ประตูตีเสมอจากจังหวะที่ เลอมาร์ พาบอลมาถึงสุดเส้นซ้ายก่อนจะเปิดเข้ามาตรงกลางให้ ญอเรนเต้ ขึ้นโขกเต็มๆกลางประตูแฉลบกองหลังตุงตาข่ายไปเลย
การ์เซีย ได้ซัดในกรอบบอลติดบล็อค
เริ่มครึ่งหลังมาทีมเยือนมีโอกาสได้ลุ้นจากจังหวะที่ เบร์ชิเช่ เติมมาถึงเกือบสุดเส้นซ้ายแล้วตบกลับเข้ามาหน้าเสาแรกให้ การ์เซีย วิ่งมาซัดด้วยซ้ายแต่บอลยังไปติดบล็อค
ซัวเรซ เรียกโทษแล้วซัดเอง! ตราหมี แซงนำ 2-1
เจ้าบ้านมาได้จุดโทษจากจังหวะที่ ซัวเรซ พลิกบอลหนี นูเญซ ในกรอบฝั่งขวาแล้วโดนเกี่ยวล้มผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันทีแล้วเป็นเจ้าตัวลุกขึ้นมาซัดเข้าไปไม่เหลือ ซิมอน พุ่งผิดทาง ตราหมี แซงนำแล้ง
คาร์ราสโก้ ได้ซัดในกรอบอีกก็ยังไม่ผ่าน ซิมอน
จังหวะนี้เป็น ซัวเรซ โยนบอลจากขวามาให้ คาร์ราสโก้ ได้เก็บบอลฝั่งซ้ายแล้วลากตัดเข้ามายิงในกรอบแต่ก็ยังเบาไปตรงตัว ซิมอน เหมือนเดิม
ซัวเรซ จ่ายสวย คาร์ราสโก้ จับไม่ดียิงแฉลบออกหลัง
จังหวะที่ ซัวเรซ ได้บอลเข้ามาในกรอบฝั่งขวาก่อนจะยกมาให้ คาร์ราสโก้ หน้าสองเสาโล่งๆ ดันจับบอลยาวเกือบล้นออกแล้วยิงยัดมุมแคบเข้าไปแฉลบบล็อคออกหลัง
ญอเรนเต้ สวนมาซัดมุมแคบบอลหลุดกรอบ
จังหวะสวนกลับไวของเจ้าบ้าน ญอเรนเต้ ลากบอลมาชิ่งกับ คอร์เรอา ก่อนจะไปถึงสุดเส้นขวาแล้วเลือกซัดเองมุมแคบบอลหลุดข้ามคาน
นูเญซ โขกเต็มๆเข้ามือ โอบลัค
ท้ายเกมทีมเยือนเกือบได้ประตูตีเสมอจากจังหวะที่ เบร์ชิเช่ พาบอลขึ้นมาทางซ้ายแล้วเปิดเข้ามาตรงกลางให้ นูเญซ ได้ขึ้นโขกเต็มๆ แต่บอลยังไปตรงตัว โอบลัค คว้าบอลติดมือ
จบเกม ตราหมี ปิดจ็อบเฉือน บิลเบา 2-1
แอตเลติโก้ มาดริด ได้ หลุยส์ ซัวเรซ ยิงจุดโทษช่วยให้ทีมแซงชนะ แอธเลติก บิลเบา ไป 2-1 นำเป็นจ่าฝูงห่าง บาร์เซโลน่า 6 แต้ม นัดต่อไปจะได้ออกไปเยือน เกตาเฟ่ คืนวันเสาร์
แอธเลติก บิลเบา
Starting Formation: 4-4-2
18.
ออสการ์ เด มาร์กอส

80'
6.5
8.
อูไน โลเปซ

73'
6.5
6.
มิเกล เบสก้า

59'
6
10.
อิเคร์ มูเนียอิน

80'
7.5
22.
ราอูล การ์เซีย

73'
6
ตัวสำรอง
2.
ฆอน มอร์ซิโญ่

80'
-
14.
ดานี่ การ์เซีย

59'
6
20.
อาเซียร์ บีญาลิเบร

73'
6.5
21.
อันเดร์ กาป้า

80'
-
27.
อูไน เบนเซดอร์

73'
6
แก้ไขล่าสุดโดย Salinger เมื่อ Thu Mar 11, 2021 03:02, ทั้งหมด 18 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ