วันที่รอคอย! ‘หงส์’ เคี้ยวบ๊วย 2-0 ปลดล็อกในรอบ 5 นัด
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
เดอะ ค็อป เฮเสียงดังลั่นหลัง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล หยุดสถิติสุดเน่าแพ้รวดมา 4 นัดติดด้วยการบุกมาเอาชนะ “บ๊วย” เชฟฯยูฯ แบบเครียดๆ 2-0 จากประตูของ เคอร์ติส โจนส์ และจังหวะที่ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ยิงไปแฉลบ คีน ไบรอัน เป็น OG ทีมแชมป์เก่ายังอยู่ที่ 6 แต่ตามอันดับ 4 เหลือเพียง 2 แต้มแล้ว
เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด
Starting Formation: 3-5-2
15.
ฟิล จาเกียลก้า

56'
6
4.
จอห์น เฟล็ค

80'
6
17.
เดวิด แม็คโกลดริค

56'
6
9.
โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่
6.5
ตัวสำรอง
10.
บิลลี่ ชาร์ป

80'
6
23.
เบ็น ออสบอร์น

56'
6
14.
โอลิเวอร์ เบิร์ค

56'
6
พรีเมียร์ลีก
สนาม บรามอลล์ เลน
อาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564
กรรมการ โจนาธาน มอสส์
เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด
0
2
ลิเวอร์พูล
0-1 โจนส์ 48'
0-2 ไบรอัน 65' (Og.)
หงส์ไม่มีอลิสซอน อาเดรียนต้องลงแทน
ลิเวอร์พูลอย่างที่ทราบว่ามีปัญหาผู้เล่นเจ็บเพียบ ขณะที่เกมนี้จะไม่มีอลิสซอนที่ไม่พร้อมลงสนามหลัังจากทราบข่าวร้ายที่คุณพ่อเสียชีวิต ทำให้อาเดรียนรับหน้าที่เฝ้าเสาแทน ในระบบ 4-3-3 ซาลาห์,ฟีโน่,มาเน่ ยืนแนวรุก ตรงกลางเป็น ธิอาโก้,โจนส์,ไวจ์นัลดุม แนวรับซ้ายไปขวา โรเบิร์ตสัน,คาบัค,ฟิลลิปส์,เทรนท์
ฝั่งเจ้าถิ่นมาเน้นรับในระบบ 3-5-2 โดยให้ แม็คเบอร์นี่,แม็คโกลดริค จับคู่ยืนค้ำหน้า ตรงกลางเป็น เฟล็ค,นอร์วู้ด,ลุนด์สแตรม โดยมี สตีเฟ่นส์,บัลด็อค เล่นด้านข้างซ้ายขวา แนวนับสามตัวมี ไบรอัน,จาเกีนลก้า,อัมปาดู และ แรมส์เดล เฝ้าเสา
• เจอกัน 5 นัดหลัง ลิเวอร์พูล ชนะ 4(นัดหลังสุด) เสมอ 1
• ลิเวอร์พูล แพ้ในลีกมา 4 นัดติด
• เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด แพ้ 4 จาก 5 นัดหลังสุดในลีก
เจ้าถิ่นทักทายติดเซฟอาเดรียน
เจ้าถิ่นครองบอลน้อยกว่าแต่ได้ลุ้นทักทายก่อนจากจังหวะที่แม็คโกลดริคได้นอร์วู้ดเปิดให้แม็คโกลดริคได้โหม่งไปติดเซฟอาเดรียน แต่ถึงแมจะเข้าก็น่าจะโดนจับล้ำหน้า
เดี่ยวๆแล้ว!ฟีโน่ส้มหลุดซัดติดเซฟเน้นๆ
หงส์แดงน่าได้ประตูขึ้นนำแบบสุดๆ จังหวะที่มาเน่ขึ้นโหม่งแย่งกับจาเกียลก้าก่อนที่บอลจะปลิ้นไปเข้าทางฟิร์มิโน่ที่ได้ส้มหล่นกระชากเข้าไปยิงล่อเป้ากลางประตู แต่เขาดันแปไปติดเซฟแรมส์เดลจังๆ
แม็คโกลดริคซัดแฉลบยังติดอาเดรียน
ดาบคู่สวนขึ้นมาแล้วได้ลุ้นเหมือนกัน เป็นจังหวะบอลยาวมาที่หน้ากรอบเขตโทษลิเวอร?พูลให้แม็คเบอร์นี่พักลงก่อนที่เขาจะไหลคืนให้แม็คโกลดริคได้เหลี่ยมแปด้วยขวาบอลแฉลบเล็กน้อยพุ่งเรียดเหมือนจะเบียดเสาแต่อาเดรียนยังพุ่งปัดออกหลังเอาชัวร์
โจนส์โฉบได้เหลี่ยมแต่ดันไม่ยิง
ลิเวอร์พูลน่าได้อีกครั้งจากจังหวะที่อเล็กซานเดอร์อาร์โนลด์ครอสจากทางริมเส้นฝั่งขวาโค้งลึกเข้าไปในกรอบถึงเสาสอง ตรงนั้นมีโจนส์โฉบมาถึงบอลแต่ไม่ยิงไม่จังหวะแรก เขาพักลงแล้วบอลห่างตัวก่อนที่แรมส์เดลจะเซฟเอาไว้ได้
ซาลาห์กระชากยิงขวาติดเซฟ
อีกครั้งของทีมเยือน คราวนี้เป็นจังหวะบอลแย่งโหม่งกลางสนามแล้วตกเข้าทางฟิร์มิโน่ที่ดีดต่อให้ซาลาห์หลุดไปทางกรอบฝั่งขวา เขากระชากหนีจาเกียลก้าแล้วตวัดยิงด้วยขวามุมแคบก็ยังไปติดเซฟแรมส์เดล
ก็ยังไม่ได้...เทรนท์ล็อคกดอีซ้ายพุ่งติดเซฟแรมส์เดล
หงส์แดงได้ส้มหล่นจากจังหวะที่อัมปาดูโดนมาเน่บีบทำให้จ่ายบอลเสียเข้าทางอเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ทางกรอบฝั่งขวา เขาล็อคเข้าซ้ายก่อนกดเน้นๆพุ่งติดเซฟแรมส์เดลที่ปัดออกหลังหวุดหวิด
หวิดซวย!คาบัคยิงตัวเองแต่ยังดีมีล้ำหน้าก่อน
หงส์แดงใจหายวาบเลยทีเดียว จากจังหวะที่สตีเว่นส์ยกบอลจาทางริมเส้นฝั่งซ้ายไปในกรอบเขตโทษลิเวอร์พูลแล้วคาบัคสกัดผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเอง แต่ยังดีที่ผู้ตัดสินเป่าเป็นล้ำหน้าของแม็คเบอร์นี่ไปก่อน
ซีดุมแต่งหวดเต็มข้อติดเซฟแรมส์เดล
ลิเวอร์พูลน่าได้ประตูขึ้นนำแบบสุดๆ จังหวะที่ไวจ์นัลดุมได้บอลหน้ากรอบเขตโทษก่อนโยกหาเหลี่ยมจนเจอ เขาซัดด้วยขวาเน้นๆไปติดเซฟแรมส์เดล บอลกระฉอกมาเข้าทางฟิร์มิโน่ทางกรอบฝั่งซ้ายแต่เขาไม่ยิงเอง ดันใจกว้างปาดเรียดเข้ากลางแล้วโดนฝั่งดาบคู่เคลียร์ทิ้งพลาดโอกาสไปเลย
เปามอสส์ไม่ทดเวลาเจ็บเลย เขาเป่าจบครึ่งแรกทันที เกมยังเสมอกันอยู่ 0-0 โดยที่ลิเวอร์พูลครองบอลและมีโอกาสมากกว่าแต่ยังไม่คมพอ
มาซะที!โจนส์ได้ส้มหล่นซัดล่อเป้า 1-0 หงส์กางปีก
เริ่มครึ่งหลังมาได้ไม่ทันไรเป็นลิเวอร์พูลได้ประตูขึ้นนำเลย จากจังหวะที่เทรนท์ได้บอลทางริมกรอบฝัั่งขวา เขากระชากหนีสตีเว่นส์ถึงเส้นหลังเกือบจะออกอยู่แล้วแต่ยังเปิดยัดไปหน้าประตูแล้วจาเกียลก้าสกัดไม่ขาดไปเข้าทางโจนส์ที่วางเท้ากดด้วยขวาเน้นบริเวณจุดโทษ บอลพุ่งตุงตาข่าย 1-0 ไปเลย ฝั่งเจ้าถิ่นพยายามประท้วงว่าเทรนท์ทำบอลออกไปก่อนแล้วแต่ภาพช้าชี้ชัดว่ายังไม่ออก
โจนส์ได้โขกเข้ามือแรมส์เดล
ลิเวอร์พูลยังบุกต่อเนื่อง คราวนี้เป็นจังหวะที่เทรนท์รับบอลจากธิอาโก้ทางริมกรอบฝั่งขวาก่อนตักเข้ากลางแล้วเป็นโจนส์ที่เทคโหม่งเน้นๆ แต่บอลก็ไปเข้ามือแรมส์เดล
มาเน่หลุดยิงตุงแต่โดนจับล้ำ
หงส์แดงส่งบอลตุงตาข่ายอีกครั้งจากจังหวะที่ต่อบอลมาที่หน้าประตูแล้วโรเบิิร์ตสันแทงให้มาเน่หลุดยกข้ามแรมส์เดลตุงตาข่าย แต่ก็โดนจับล้ำหน้าไปก่อน
เทรนท์แปด้วยซ้ายแฉลบออกหลัง
แชมป์เก่าชักจะมาเรื่อยๆ คราวนี้เป็นจังหวะที่เทรนท์รับบอลจากธิอาโก้หน้ากรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนที่เขาจะเลี้ยงเลาะแล้วได้ช่องแปด้วยซ้ายแฉลบพุ่งเรียดหลุดเสาแรก
ใจหายวาบ!แม็คเบอร์นี่โขกจังๆหลุดกรอบ
ดาบคู่น่าได้ประตูตีเสมอแบบสุดๆ จังหวะที่นอร์วู้ดตั้งป้อมเปิดจากริมเส้นฝั่งขวาโค้งไปหน้าประตูให้แม็คเบอร์นี่เทคโหม่งเน้นๆ บอลพุ่งลงพื้นหลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย
นอร์วู้ดซัดแถวสองไม่ตรงกรอบ
เจ้าถิิ่นได้ลุ้นจากลูกตั้งเตะ เป็นเฟล็คที่รับหน้าที่เปิดเตะมุมฝั่งขวาโต้งไปหน้าประตูแล้วอาเดรียนชกบอลออกไปเข้าทางนอร์วู้ดได้โอกาสยิงสวนจากแถวสองนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลก็พุ่งแรงหลุดกรอบไป
อย่างพลิ้ว!ฟีโน่โชว์แหวกซัดแฉลบหงส์นำ 2-0
แล้วหงส์แดงมาได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ฟิร์มิโน่โชว์จังหวะพลิ้วยึกยักเล่นชิ่งกับโจนส์มาที่หน้ากรอบเขตโทษแล้วชิ่งอีกทีกับมาเน่เข้าไปในกรอบ ก่อนจะลากแหวกแนวรับเจ้าถิ่นสามคนแล้วซัดด้วขวาไปแฉลบไบรอันเปลี่ยนทางเข้าประตูไปเลย 2-0 หมดสิทธิ์สำหรับแรมส์เดล
ร็อบโบ้หวดด้วยซ้ายข้ามคาน
โอกาสอีกครั้งของลิเวอร์พูลจังหวะที่ฟิร์มิโน่จ่ายบอลมาที่หน้ากรอบเขตโทษแล้วโจนส์จับไม่อยู่ บอลเลยไปถึงโรเบิร์ตสันที่ได้เหลี่ยมซัดด้วยซ้ายพุ่งแรงข้ามคานไปเลย
ร็อบโบ้โขกลงพื้นเข้ามือแรมส์เดล
ลิเวอร์พูลมาอีกแล้ว จังหวะที่ซาลาห์ได้บอลหลุดถึงเส้นหลังฝั่งขวาก่อนยกโด่งเข้ากลางแล้วเป็นโรเบิร์ตสันที่เทคโหม่งโล่งๆลงพื้นแต่ก็เด้งเบาเข้ามือแรมส์เดลสบายๆ
โมพลาดเฉย!ชาร์จเสาสองหลุดกรอบ
หงส์แดงน่าได้ประตูที่สามแบบสุดๆ จังหวะที่โจนส์ออกบอลให้โรเบิร์ตสันหลุดไปทางกรอบฝั่งซ้าย เขาปาดพุ่งเสาสองแล้วเป็นซาลาห์ที่โฉบชาร์จโล่งๆแต่โดนไม่ดีทำให้หลุดกรอบไปอย่างไม่น่าเชื่อ
หงส์สลัดห่วยซิว 2-0 จี้ท็อปโฟร์ 2 แต้ม
สุดท้ายจบเกมเป็นหงส์แดงสลัดฟอร์มห่วยชนะ 2-0 เป็นการฉลองเส้นทางอาชีพกุนซือของคล็อปป์ครบรอบ 20 ด้วย หงส์แดงมีเพิ่มเป็น 43 คะแนนจาก 26 นัด รั้งที่ 6 ของตารางคามหลังท็อปโฟร์เหลือ 2 แต้ม ขณะที่ดาบคู่ยังคงเป็นบ๊วยต่อไป
ลิเวอร์พูล
Starting Formation: 4-3-3
66.
เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
7.5
6.
ธิอาโก้ อัลคันทาร่า

76'
7
17.
เคอร์ติส โจนส์

80'
7.5
ตัวสำรอง
7.
เจมส์ มิลเนอร์

76'
6
15.
อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน
8.
นาบี้ เกอิต้า

80'
6
แก้ไขล่าสุดโดย MEGITSAMA เมื่อ Mon Mar 01, 2021 04:15, ทั้งหมด 9 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ